HANA ยังคงมีดูปัจจัยที่ต้องเฝ้าดู (22 พ.ค. 66)
อุปสงค์ที่อ่อนแอของ Smartphone และ PC ทำให้ลูกค้าของ HANA ลดสต็อกลง และกดดันยอดขายของ HANA ใน 1Q66 (รายได้จากธุรกิจ IC ใน 1Q66 อยู่ที่ประมาณ 75 ล้านดอลลาร์ฯ (-4% YoY, -11%QoQ))
ซึ่งบริษัทคาดว่าสต็อกที่ระดับนี้น่าจะเข้าใกล้จุดต่ำสุดแล้ว และน่าจะเห็นการกลับมาเพิ่มสต็อกอีกครั้งในครึ่งหลังของปีนี้ ในขณะเดียวกัน คำสั่งซื้อจากกลุ่มยานยนต์ยังคงแข็งแกร่ง (สัดส่วนรายได้จากกลุ่มยานยนต์คิดเป็น 23% ของรายได้รวมใน 1Q66 เพิ่มขึ้นจาก 19% ใน 1Q65) อย่างไรก็ตาม มีความกังวลอยู่บ้างจากการที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้อุปสงค์ลดลงใน 2H66 นอกจากนี้ ทางผู้บริหารยังคาดว่ารายได้จาก PMS (power master semiconductors) จะดีขึ้นใน 2H66 (ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 25-30 ล้านดอลลาร์ฯ) เนื่องจากจะมีอุปกรณ์ใหม่เพิ่มเข้ามา
อัตรากำไรยังเป็นประเด็นท้าทาย
อัตรากำไรยังเป็นประเด็นท้าทายเนื่องจากมีปัจจัยลบบางตัว ซึ่งได้แก่ i) อัตราแลกเปลี่ยน (เฉลี่ย QTD อยู่ที่ 34 บาท/ดอลลาร์ฯ จาก 34.4 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 2Q65 และ 33.9 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 1Q66) ii) ต้นทุนสาธารณูปโภคสูงขึ้น และ iii) อาจจะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ทั้งนี้ เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นอ่อนแอใน 1Q66 (อยู่ที่ 8.6%) เราจึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นไม่น่าจะเพิ่มขึ้นได้มากนัก ดังนั้น เราจึงยังคงสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2566 เอาไว้เท่าเดิมที่ 12.1% (ลดลงจาก 13.5% ในปี 2565)