XO กำไร 1Q66 ดีกว่าคาดพร้อมปรับเพิ่มประมาณการปี 66
รายงานกำไร 1Q66 ที่ 96.5 ลบ. เติบโต 18%QoQ และเติบโต 1%YoY เนื่องจากการทยอยปรับขึ้นราคา : บริษัทมีรายได้ 1Q66 ที่ 395 ลบ. เติบโต 2%QoQ และเติบโต 14%YoY โดยรายได้เติบโตจาก 4Q65
เนื่องจากได้รับคำสั่งซื้อใหม่จากทวีปอเมริกา และคำสั่งซื้อจากยุโรปเริ่มฟื้นตัวตามการเปิดประเทศ นอกจากนี้ยังได้ผลบวกจากการปรับเพิ่มราคาขายขึ้นอีก 8-12% (ทยอยปรับราคาระหว่าง 1Q66-3Q66) ขณะที่ %GPM ปรับตัวขึ้นจาก 40.0% สู่ 44.3% ตามการปรับเพิ่มราคาขาย ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบทั้งน้ำตาล พริก และกระเทียมทรงตัวใกล้เคียงไตรมาสก่อนเนื่องจากการล็อกราคาล่วงหน้าไว้แล้ว ด้านสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับตัวลงจาก 21.7% ใน 4Q65 สู่ 17.9% เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายในการทำโปรแกรมบริหารจัดการองค์กรและบัญชี (ERP) และการออกใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่พนักงาน (ESOP) เหมือนไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัทรายงานกำไร 1Q66 ที่ 96.5 ลบ. +18%QoQ และ +1%YoY และดีกว่าที่เราคาดไว้และคิดเป็น 26% ของประมาณการเดิมที่ 369 ลบ.
- คาดผลประกอบการ 2Q66 เติบโตต่อเนื่องจาก 1Q66 จากคำสั่งซื้อทวีปอเมริกาหนุน : ฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้ 2Q66 จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากบริษัทมี Distributor รายใหม่ในสหรัฐ แคนนาดา และเม็กซิโกซึ่งมีการส่งคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ขณะที่คำสั่งซื้อจากยุโรปฟื้นตัวดีกว่าที่คาดไว้แม้ว่าจะมีการเปิดประเทศและประชาชนเริ่มเดินทางท่องเที่ยวก็ตาม ด้าน %GPM มีโอกาสเร่งตัวขึ้นเนื่องจากทางบริษัทได้ล็อกต้นทุนพริก กระเทียม และน้ำตาลไปถึงกลางปี 67 แล้ว และคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นทำให้มี Economies of Scales ทั้งนี้ผู้บริหารได้ปรับเพิ่มเป้ายอดขายปี 66 จาก 1.6 พันลบ. สู่ 1.75 พันลบ.ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการเติบโต 10%YoY สู่ 20%YoY จากแรงหนุนของคำสั่งซื้อจากทวีปอเมริกาหลังได้ Distributor รายใหม่
- ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 66 จาก 369 ลบ.สู่ 496 ลบ. เพิ่มขึ้น 34% จากประมาณการเดิม : ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการรายได้ปี 66 จาก 1.56 พันลบ. สู่ 1.75 พันลบ.เติบโต 20%YoY เนื่องจากมีการออกงานแสดงสินค้า 15-22 งานต่อปีเพื่อหาลูกค้าใหม่ และคาดว่าคำสั่งซื้อจาก Distributor ในสหรัฐ แคนาดา และเม็กซิโกจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจาก 40% สู่ 45% (GPM 1Q66 อยู่ที่ 44%) เนื่องจากการปรับเพิ่มราคาไม่ได้ทำให้คำสั่งซื้อชะลอลงแต่กลับเร่งตัวขึ้นเนื่องจากมีความต้องการบริโภคจากทวีปยุโรปและอเมริกา นอกจากนี้บริษัทได้ล็อกราคาต้นทุนพริก กระเทียม และน้ำตาลไปจนถึงกลางปี 67 แล้ว โดยราคาน้ำตาลที่ปรับตัวขึ้นส่งผลกระทบต่อบริษัทจำกัดเนื่องจากคิดเป็นสัดส่วนต้นทุนเพียง 8% ของต้นทุนการผลิต ทั้งนี้ บริษัทใช้น้ำเชื่อมในการผลิตซึ่งราคาปรับตัวขึ้นน้อยกว่าราคน้ำตาล ส่งผลให้เรา
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 66 จาก 369 ลบ. สู่ 496 ลบ.เพิ่มขึ้น 34% จากประมาณการเดิมและเติบโต 46%YoY โดยคาดว่า 2Q66 รายได้และกำไรจะสูงที่สุดในปีนี้และอ่อนตัวลงใน 2H66
- ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” พร้อมปรับเพิ่มราคาเหมาะสมสู่ 18.70 บาท : ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Prospective PE ที่ระดับ PE ราว 16.0 เท่าซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย PE Ratio ย้อนหลัง 1 ปี และคาดกำไรต่อหุ้นปี 66 ที่ 1.17 บาทต่อหุ้น ได้ราคาเหมาะสมที่ 18.70 บาทเพิ่มขึ้นจาก 13.20 บาทต่อหุ้น โดยราคาเหมาะสมที่ประเมินได้มี Upside จากราคาปิดล่าสุดเราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”
ความเสี่ยง
i) ราคาวัตถุดิบปรับตัวขึ้น
ii) ยุโรปเผชิญกับค่าครองชีพแพงจากต้นทุนพลังงานปรับตัวขึ้น