วิเคราะห์สถานการณ์ ราคาน้ำมันดิบ (9 มิ.ย. 66)

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับ ราคาน้ำมันดิบ 

+ ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เทกซัสและเบรนท์ ปรับลดหลังมีรายงานว่าสหรัฐฯ และอิหร่านใกล้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งจะนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านและส่งผลให้อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันในตลาด โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว อิหร่านจะระงับโครงการพัฒนาแร่ยูเรเนียม และให้ความร่วมมือกับสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ในการตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์ เพื่อแลกกับการที่อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันฟื้นตัวกลับมาปิดลบเล็กน้อย จากที่ช่วงแรกราคาน้ำมันปรับลดลงกว่า 3 ดอลลาร์ หลังสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ออกมาปฏิเสธรายงานดังกล่าว

+ ตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับลดประมาณ 0.71% มาสู่ระดับ 103.35 ซึ่งช่วยให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดเป็นราคาดอลลาร์นั้นมีราคาถูกลงและดึงดูดนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

+/- ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 13-14 มิ.ย. 66 ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมครั้งนี้
 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินในฮ่องกงมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น จากกิจกรรมการขับขี่ในฮ่องกงที่ดีขึ้นในปีนี้ อย่างไรก็ตาม จากรายงานของ EIA สต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 218.8 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการผลิตน้ำมันดีเซลในอินเดียมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากโรงกลั่นหลายแห่งของอินเดียเริ่มเข้าสู่การซ่อมบำรุงตามแผน อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันดีเซลของท่าเรือฟูไจราห์ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์