วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี BDMS - กำไรธุรกิจหลักใน 2Q จะโต yoy แต่ลดลง qoq

นอกจากนี้ การรักษาส่วนใหญ่เป็นโรคไม่ซับซ้อน เช่น ไข้เลือดออก ท้องร่วง และโควิด เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง 2.4% qoq เป็น 34.6% กำไรธุรกิจหลักใน 2Q จะทำให้กำไรใน 1H เป็น 6.4 พันลบ. คิดเป็น 45% ของประมาณการกำไรปี FY23F ของเรา เราคาดผลประกอบการจะแข็งแกร่งขึ้นใน 3Q และยังคงคำแนะนำ ซื้อ

 

คาดกำไรธุรกิจหลักใน 2Q จะเพิ่มขึ้น 11% yoy เป็น 3 พันลบ.…

สนับสนุนจากรายได้เพิ่มขึ้น 11% yoy จากทั้งผู้ป่วยไทย (+8% yoy เพราะผ่อนคลายการป้องกันโควิด) และผู้ป่วยต่างชาติ (+18% yoy ซึ่งยังมีผู้ป่วย 25,100 รายใน waitlist ในเดือนเม.ย. 2023 เทียบกับไม่กี่พันคนปีที่แล้ว รายได้ผู้ป่วยต่างชาติโตจากผุ้ป่วยตะวันออกกลาง (กาตาร์ และ UAE) กลับสู่ระดับก่อนโควิดระบาดในเดือนพ.ค. และผู้ป่วยจีนในเดือนมี.ค. และผู้ป่วยรัสเซีย ส่วนรายได้ผู้ป่วย CLMV ลดลง yoy เนื่องจากฐานสูงปีที่แล้ว ผู้ป่วยสหรัฐฯ อังกฤษ และญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้นแข็งแกร่งใน 1Q22 กลุ่ม CLMV ใน 3Q22 และผู้ป่วยจีนและตะวันออกกลางใน 2Q23 BDMS จะประกาศผลการดำเนินงานวันที่ 11 ส.ค.

 

 

 

… แต่จะลดลง 15% qoq

เราคาดรายได้ผู้ป่วยไทยเพิ่มขึ้น 5% ชดเชยรายได้ผู้ป่วยต่างชาติที่ลดลง 10% เพราะเทศกาลรอมฎอน (22 มี.ค. -21 เม.ย.) เราสัดส่วนรายได้ผู้ป่วยต่างชาติจะลดลงเป็น   26% ของรายได้รวมจาก 29% ใน 1Q ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้น ลดลงเป็น 34.6% จาก 37.0% เพราะผู้ป่วยต่างชาติส่วนใหญ่รักษาโรคซับซ้อน (อัตรากำไรขั้นต้นสูง) กำไรสุทธิงวด 1H คาด 6.4 พันลบ. คิดเป็น 45% ของประมาณการกำไรปี FY23F ของเรา

 

การรักษาโรคไม่ซับซ้อน อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง

รายได้ผู้ป่วยไทยเพิ่มขึ้น qoq คาดมาจากการรักษาโรคไข้เลือดออก ท้องร่วงที่ภูเก็ตช่วงวันที่ 5-12 มิ.ย. และโควิด จำนวนผู้ป่วยโควิดรายใหม่สูงสุดที่ 3,085 รายในช่วงวันที่ 28 พ.ค. -3 มิ.ย. และลดลงเหลือ 859 รายในช่วงวันที่ 25 มิ.ย. - 1 ก.ค. เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง เนื่องจากการรักษาไม่ซับซ้อน  รายได้/บิล และอัตรากำไรขั้นต้นจะน้อย