วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : 'ก้าวไกล' ยังไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในช่วงแคบ แกว่งในแดนบวกสลับลบ สวนทางกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ที่ปรับตัวขึ้นหลังจากสหรัฐ รายงานเงินเฟ้อต่ำกว่าตลาดคาด นักลงทุนติดตามการโหวตเลือกนายกฯ พร้อมทั้งติดตามการนัดรวมตัวชุมนุมในหลายพื้นที่
โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน ส่วนหุ้นกลุ่มขนส่งเผชิญแรงขาย ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,494.02 จุด +2.88 จุด +0.19% มูลค่าการซื้อขาย 40,448 ลบ.ต่างชาติ -11.67 ลบ. TFEX +7,452 สัญญา ตราสารหนี้ +1,472.79 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 47.71 จุด +0.14% ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 1% ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังสหรัฐเปิดเผย PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ +1.50% ปิดที่ 76.89 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับสหรัฐเปิดเผย PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดน้ำมัน
+ สหรัฐเปิดเผย ดัชนี PPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.1%YoY ในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4%YoY จากระดับ 0.9%YoY ในเดือนพ.ค.
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 92.4% ที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนัก 42.2% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 30-31 ม.ค. 2567
+ ผลของการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนมิถุนายน 2566 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 40 เดือนนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน
ปัจจัยลบ
- WHO ประกาศเตือนว่า การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลกก่อให้เกิดความกังวลว่าเชื้อไวรัสอาจมีการปรับตัวเพื่อให้แพร่เชื้อสู่มนุษย์ได้ง่ายขึ้น และเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ยกระดับการเฝ้าระวังโรค
- UN เปิดเผยรายงานระบุว่า หนี้สาธารณะทั่วโลกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 92 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2565 เนื่องจากบรรดารัฐบาลกู้ยืมเงินเพื่อรับมือกับวิกฤติต่าง ๆ เช่น การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาต้องแบกรับภาระหนี้อย่างมาก
- ม.หอการค้าไทย เผยในอีก 3 เดือน คนไทยเห็นการเมืองไทยไร้เสถียรภาพอยู่ในระดับแย่ จับตา "พิธา" ไม่ได้เป็นนายกฯ จะประท้วงรุนแรง นักท่องเที่ยวต่างชาติหาย 7-9 ล้านคน รายได้หด 5 แสนล้านบาท ฉุดเศรษฐกิจไทยปีนี้ลดลง 1%
- ผลโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบแรก พรรคก้าวไกลยังไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ หลัง ‘พิธา’ ได้คะแนนเสียงในสภาไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ผลปรากฎว่า มีผู้เห็นชอบ 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง งดออกเสียง 199 เสียง ขาดประชุม/ไม่ลงมติ 44 เสียง
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างระเทศ โดยมีแรงหนุนจากสหรัฐเปิดเผย PPI ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังต้องติดตามการโหวตเลือกนายกฯรอบ 2 ในสัปดาห์หน้า มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,490-1,510 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• สินค้าส่งออกเดือน พ.ค. ที่ยังขยายตัวได้ดี : SNC AH SAT HANA KCE PDJ
• ค่าระวางเรือขึ้นจากคลองปานามา หุ้นได้ประโยชน์ PSL TTA RCL
• 5 หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL CPALL SCB
• หุ้นได้ประโยชน์ราคาน้ำมัน : PTTEP PTT BCP ESSO
หุ้นรายงานพิเศษ
SNNP (Bloomberg Consensus 28.50 บาท)
"แผนรุกตลาดเวียดนามช่วยหนุนรายได้ปี 66 โตเพิ่ม"
•Bloomberg Consensus คาดผลประกอบการ 2Q66 เฉลี่ย 161 ล้านบาท +39%YoY, +5%QoQ เนื่องจากการบริโภคในไทยและเวียดนามกำลังฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ Jele และ Bento โดยครอง market share อันดับ 1 ของไทยด้วยสัดส่วน 77% และ 74% ตามลำดับ ด้านต้นทุนวัตถุดิบมีแนวโน้มอ่อนตัวลง หลังเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนของไทยลดลงเหลือ 0.23% จากระดับ 0.53% ในเดือนพฤษภาคม อีกทั้งปัจจุบันบริษัทเร่งขยายฐานกำลังการผลิตไปยังเวียดนาม โดยเริ่มผลิต Bento ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาและเตรียมผลิต Jele ใน 4Q66 คาดตลาดเวียดนามสร้างรายได้เพิ่มในปี 66 ราว 1 พันล้านบาท +50%YoY
•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อรายได้ปี 66 ที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามภาคการบริโภคที่ฟื้นตัว ขณะที่การขยายฐานการผลิตไปเวียดนามสามารถลดต้นทุนวัตถุดิบลงหนุนกำไรโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ Bloomberg consensus คาดกำไรทั้งปี 66 เฉลี่ย 708 ลบ. +37%YoY คาดการณ์กำไร 1H66 โดย Bloomberg Consensus คิดเป็น 44% ของประมาณการทั้งปี การที่ SNNP ได้เข้าคำนวณ SET100 ในงวด 2H66 ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเป็นผลบวกเชิงจิตวิทยา ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 11%YTD ยังต่ำกว่าราคาเป้าหมายแต่ซื้อขายที่ P/E 38x สูงกว่า P/E กลุ่มที่ระดับ 17x เราจึงแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”
หุ้นมีข่าว
(+) SAPPE (Bloomberg consensus 92.75 บาท) รับอานิสงส์โลกร้อนหนุนยอดขายเครื่องดื่มพุ่ง เล็งปรับเป้ารายได้ทั้งปีจากเดิมโต 25% ชูตลาดต่างประเทศเติบโตมากกว่าคาด เตรียมจับมือพันธมิตรลุยตลาดมาเลเซีย ขณะที่เดินหน้าออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) EKH (Bloomberg consensus 9.56 บาท) แย้มอยู่ระหว่างศึกษาดีลด้าน Health care ใหม่ เบื้องต้นกลางไตรมาส 3/2566 เคาะข้อสรุปได้อย่างน้อย 1-2 ดีล ศูนย์ IVF ผลงานแจ่ม มองการเปิดเส้นทางการบินไทย-จีน หนุนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปี 2566 เติบโตตามเป้าหมาย 8-10% จากปีก่อน กางแผนลงทุนขยายตึกเพิ่ม 60 เตียง ครึ่งหลังปี 2566 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) KISS (Bloomberg consensus 6.00 บาท) แบไต๋ครึ่งหลังปี 2566 ฟอร์มแจ่ม เดินหน้าปั้นกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางรองรับเทรนด์ ออเดอร์หนุน ยืนเป้าปี 2566 รายได้โต 30% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว พร้อมรุกช่องทางขาย Offline และ Online อัพฐานต่างประเทศ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SSP (Bloomberg consensus 10.60 บาท) ส่งบริษัทย่อย เสริมสร้าง เน็กซ์ เวนเจอร์ส ทุ่มงบ 140 ล้านบาท เข้าถือหุ้น 75% ในบริษัท "สามารถ พลาสแพค" รุกขยายธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์อุปโภคบริโภค ฟากซีอีโอ "วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์" มั่นใจการเข้าลงทุนรุกขยายธุรกิจใหม่ครั้งนี้ จะช่วยสร้างฐานรายได้ ตั้งเป้ายอดขาย 500 ล้านบาท ภายใน 3 ปี พร้อมเดินหน้าหาโอกาสลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง และยังคงเป้าพอร์ตกำลังผลิตเติบโตเท่าตัว (ที่มา ทันหุ้น)