วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงศรี เน้น Trading
ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ SET Index เพิ่มขึ้น 8 จุด (+0.53%) ปิดที่ 1,529 จุด นักลงทุนเข้าเก็งกำไรรับข่าวพรรคก้าวไกลแถลงเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคร่วม
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET แกว่งตัว 1,520 - 1,540 จุด แม้จะได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานตามคาดการณ์ Demand น้ำมันเพิ่มขึ้นหนุนให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือ 77 US/Barrels รวมถึงแรงซื้อดักหุ้นงบ 2Q23 เติบโต อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนการเมืองประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลและการโหวตนายกรัฐมนตรี รวมถึงการลดความเสี่ยงก่อนการประชุม FED และ ECB ในสัปดาห์นี้จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัว
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
PTTEP TOP BCP SPRC ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น
กลุ่มคาดงบ 2Q23 เติบโต ADVANC INTUCH WHA BEM SAPPE CBG ICHI BBIK BE8 TKN SISB SPA GULF
หุ้นแนะนำวันนี้
PTTEP (ปิด 158 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 169 บาท) ได้Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก1.42$ ปิดที่ระดับ 77$/bbl ทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งส่งผลบวกโดยตรงต่อในฐานะ Oil link Company
TOP (ปิด 47.75 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 60 บาท) มี Sentiment บวกจากค่าการกลั่น ณ โรงกลั่นสิงคโปร์ปรับตัวขึ้นแรง ล่าสุดเพิ่มขึ้นแตะระดับ 7.97$/bbl เพิ่มขึ้น 12.7% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 105% จาก 3.88$/bbl ณ สิ้น 2Q23
บทวิเคราะห์วันนี้
BGRIM (ปิด 36.5 ถือ/เป้า 32 บาท), Power sector (UNRATED)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) กลุ่มธนาคารประกาศงบ 2Q23 มีกำไรสุทธิออกมาดีตามที่ตลาดคาด: 8 แบงก์ใหญ่มีกำไรสุทธิ 2Q23 ที่ 6 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 3%qoq และ 18%yoy และมากกว่าที่ Bloomberg consensus คาดไว้ 3% โดย SCB มีกำไรสุทธิมากที่สุดที่ 1.19 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 7.9%qoq และ 18.1%yoy ตามด้วย BBL มีกำไรสุทธิ 1.13 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 11.5%qoq และ 62.2%yoy
(+/-) การเมือง ผ่าทางตันโหวตเลือกนายกฯ รอบ 3 วันที่ 27 ก.ค. นี้: เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะมีผลและสร้างความผันผวนให้กับตลาดในสัปดาห์นี้ เพราะ 1) หากการโหวตเลือกนายกฯ ยังล่าช้าจะทำให้มีสุญญากาศทางการเมืองนานเกินไปเป็นลบต่อ GDP จากการเบิกจ่ายและจัดทำร่างงบประมาณปี 67 ช้ากว่าแผน และ 2) หากพรรคร่วมรัฐบาลต้องข้ามขั้ว มีความเสี่ยงจากเกมส์นอกสภาฯ
(+/-) สัปดาห์แห่งการประชุมของธนาคารกลาง โฟกัสหลักอยู่ที่ FED Meeting: เราคงมุมมองเดิมคาด FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 5.5% อย่างไรก็ตามเราคาดว่าปัจจัยนี้จะส่งผลกับตลาดจำกัดเนื่องจากเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว ดังนั้นความสำคัญจึงอยู่ที่ถ้อยแถลงของประธานเฟดหลังการประชุมว่ามากกว่าว่าจะส่งสัญญาณในการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้อย่างไร