วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก เพื่อไทย แถลงจัดตั้งรัฐบาล
วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในต่างประเทศ สาเหตุหลักจาก ฟิทช์หั่นอันดับความน่าเชื่อถือ สหรัฐจากระดับ AAA สู่ AA+ เหตุหนี้พุ่ง-สถานะการคลังถดถอย
นอกจากนี้ความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศยังเป็นปัจจัยกดดัน แรงขายหลักๆ มาจากหุ้นกลุ่มอสังหาฯ และค้าปลีก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,550.28 จุด -5.78 จุด -0.37% มูลค่าการซื้อขาย 54,924 ลบ. ต่างชาติ -2,500.46 ลบ. TFEX -1,863 สัญญา ตราสารหนี้ -2,215.24 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ทำเนียบเครมลินแถลงว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี เรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี เกี่ยวกับการรื้อฟื้นข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำ หลังจากที่รัสเซียได้ประกาศถอนตัวก่อนหน้านี้
+ ADP เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 324,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง
+ กระทรวงการคลังจีนเปิดเผย ถึงมาตรการผ่อนปรนภาษีเพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและครัวเรือนในชนบทเพื่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19
+/- กนง. มติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 2.25% ตามตลาดคาด
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 348.16 จุด -0.98% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงกว่า 2% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.88 ดอลลาร์ -2.3% ปิดที่ 79.49 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ซึ่งสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน และบดบังปัจจัยบวกจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
- ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ ของสหรัฐ ลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA โดยระบุถึงสถานะการคลังของสหรัฐที่มีแนวโน้มถดถอยลงในช่วง 3 ปีข้างหน้าและภาระหนี้สินที่สูงขึ้น
- ธปท.มีโอกาสปรับประมาณการ GDPปี 66 ใหม่จากปัจจุบันที่คาดไว้ 3.6% หลังจากการส่งออกชะลอกว่าที่คาด แต่ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจริงใน 2Q66 ของสศช. ที่จะประกาศในเดือนส.ค.นี้ รวมถึงประเด็นทางการเมืองการจัดตั้งรัฐบาลและแนวนโยบายของรัฐบาลใหม่
- ที่ประชุม กกร.ประเมินว่าปัญหาภัยแล้งมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ อาจลากยาวถึงครึ่งแรกของปี 2567 เพราะปริมาณน้ำฝนสะสมในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค.66) ต่ำกว่าปกติในทุกพื้นที่โดยเฉพาะภาคกลางมีปริมาณน้าฝนต่ำกว่าปกติถึง 40%
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากฟิทช์ เรทติ้งส์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนยังจับตาการเมืองในประเทศอย่างใกล้ชิด โดยในวันนี้พรรคเพื่อไทย เตรียมแถลงจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หลังจากยกเลิก MOU มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,540-1,560 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• 5 หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL CPALL SCB
• หุ้นได้ประโยชน์ราคาน้ามัน : PTTEP PTT BCP ESSO
• หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : STEC STPI SIRI SC SKY
• หุ้นที่ได้ประโยชน์อินเดียระงับส่งออกข้าว : PRG UVAN CPI VPO
• ยอดส่งออก มิ.ย. ที่ยังเติบโตได้ดี : KSL SAPPE HANA SAT
หุ้นรายงานพิเศษ
KCG <SET/FOOD> ราคา IPO 8.50 บาท
ราคาเหมาะสม Consensus 11.70 - 14.60 บาท
•บมจ. เคซีจี คอร์ปอเรชั่นผลิตและจำหน่าย 1) เนย ชีส แบรนด์ "Allowrie" ในประเทศไทย เมียนมาร์ อินโดนีเซีย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ ลาว สิงคโปร์ บรูไน มาเลเซีย และเวียดนาม 2) คุกกี้ "Imperial" "DAIRYGOLD" น้ำผลไม้เข้มข้น "SUNQUICK" แครกเกอร์ และเวเฟอร์ แบรนด์ต่างๆ ได้แก่"bake master""Cookie choice" "Rosy" และ "Violet" 3) จัดจำหน่ายสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ อาทิ แบรนด์ "Arla" และ "Emmi" ผ่านช่องทางการขายให้ผู้บริโภคปลายทาง (Business to Customer : B2C) ขายให้กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการ (Business to Business : B2B) และส่งออก
•ปี 2565 มีรายได้รวม 6,233 ล้านบาท +18.4%YoY เนื่องจากปริมาณการขายสินค้าทุกประเภทเพิ่มขึ้น หลังโควิด-19 จบและมีการปรับขึ้นราคาขาย กำไรสุทธิ 241 ล้านบาท -20.5%YoY อัตรากำไรสุทธิ 3.9% ลดจาก 5.8% เนื่องจากราคาวัตถุดิบนำเข้าและต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้น และเงินบาทอ่อนค่า งวด 1Q66 มีรายได้รวม 1,723 ล้านบาท +30.6%YoY จากการขายที่เพิ่มขึ้นทุกประเภท ตามความต้องการของผู้บริโภคและผลิตภัณฑ์ใหม่ กำไรสุทธิ 58.4 ล้านบาท +81.4%YoY จากการควบคุมค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่มีประสิทธิภาพ
•จำนวนหุ้น IPO 155 ล้านหุ้น มูลค่าระดมทุน 1,317.50 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,632.50 ล้านบาท ราคา IPO คิดเป็น trailing P/E 17.33 เท่าใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 17.52 เท่า
•การระดมทุนเพื่อนำไปลงทุน 1.โครงการก่อสร้างและพัฒนา KCG Logistics Park 297 ล้านบาท 2.โครงการเพิ่มกำลังประสิทธิภาพ และคุณภาพของการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม 47 ล้านบาท 3.ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 548 ล้านบาท และ 4.ใช้เป็นทุนหมุนเวียน 380 ล้านบาท
หุ้นมีข่าว
(+) SUSCO (Bloomberg consensus 4.30 บาท) ควักงบเพิ่มสัดส่วน เข้าลงทุนใน "สยามมงคลเดินเรือ" ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่ทะลุ 50% หวังต่อยอดธุรกิจเดินเรือรับทรัพย์ คาดเริ่มรับรู้รายได้เข้าพอร์ต Q3 นี้ แถมล่าสุดร่วมทุนพาร์ตเนอร์รุกขายรถอีวีโกยเงิน คาดรับรู้รายได้ครึ่งหลังปีนี้ ส่วนปีนี้ยืนเป้ารายได้เหนือ 3 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ITTHI (Bloomberg consensus - บาท) จับตาผลงานไตรมาส 3 โตก้าวกระโดด หลังเซ็นสัญญาคว้าบิ๊กโปรเจ็กต์ต้นเดือนสิงหาคมแล้วกว่า 180 ล้านบาท เดินหน้าส่งมอบงานเพียบ ส่งซิกงานครึ่งปีหลังทยอยออก โชว์กำลังผลิตแน่นเฉลี่ยเดือนละ 150 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) WICE (Bloomberg consensus 9.45 บาท) มองแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2566 โลจิสติกส์ฟื้น ค่าระวางเริ่มคงที่ ความต้องการขนส่งในยุโรป-สหรัฐ และจีนกลับมาเดินหน้าขยายพื้นที่ธุรกิจคลังสินค้าต่อเนื่อง มั่นใจโอกาสทะลุ 1 แสนตารางเมตร เร็วกว่าเป้าหมายในปี 2568 ปักหมุดรอช่วงเดือน ต.ค. 2566 นี้ ขาย IPO บริษัทย่อย ETL เตรียมพร้อมลงสนามเทรด mai (ที่มา ทันหุ้น)
(+) INSET (Bloomberg consensus 3.12 บาท) มองโอกาสดาต้าเซ็นเตอร์ยังเติบโต ทั้งการลงทุนของไทย-ต่างชาติ เผยยื่นประมูลงานแล้วกว่า 2-3 โครงการ มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ดันงานในมือเพิ่มจากปัจจุบันมีอยู่กว่า 1 พันล้านบาท ทั้งปียังคงเป้ารายได้ 15% พร้อมศึกษาธุรกิจใหม่สร้างรายได้ประจำ ส่วนงบไตรมาส 2/2566 ประชุมบอร์ดวันที่ 10 สิงหาคม 2566 (ที่มา ทันหุ้น)