วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้นขึ้นต่อ
วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกสลับลบ โดยกระทรวงพาณิชย์ รายงานการส่งออกเดือน ก.ค. -6.2% แย่กว่าที่ตลาดคาดที่ -2.8 ถึง -3.1% ประกอบกับนักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าว สุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล
โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร ส่วนแรงขายมาจากหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,560.20 จุด +2.79 จุด +0.18% มูลค่าการซื้อขาย 51,602 ลบ. ต่างชาติ -297.23 ลบ. TFEX -8,981 สัญญา ตราสารหนี้ +1,294.58 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 247.48 จุด +0.73% หลังการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าว สุนทรพจน์ระบุว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อและสกัดความร้อนแรงของเศรษฐกิจ ขณะที่รับประกันว่าเฟดจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ติดลบ 0.4%
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 78 เซนต์ +1% ปิดที่ 79.83 ดอลลาร์/บาร์เรล สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดีเซลของสหรัฐที่พุ่งขึ้น จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่ลดลง และการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งในลุยเซียนา แต่ปรับตัวลง 0.1% ในรอบสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน
+ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่าหน่วยงานจีนกำลังวางแผนปรับลดภาษีอากรแสตมป์สำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศลงสูงสุด 50% อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการฟื้นฟูตลาดหุ้นที่กำลังซบเซาของประเทศ
+ รัฐบาลเชื่อมั่นศักยภาพสมุนไพรไทย พร้อมผลักดันให้สมุนไพรมีมูลค่าในตลาดโลกเพิ่ม ซึ่งการบริโภคผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศไทยปี 2565 มีมูลค่าสูงถึง 5.2 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นจาก ปี 2564 ซึ่งมีมูลค่าราว 4.8 หมื่นล้านบาทและได้คาดการณ์เป้าหมายในปี 2570 ให้ขนาดตลาดวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สมุนไพรของไทยเพิ่มขึ้นถึงกว่า 1 แสนล้านบาท
ปัจจัยลบ
- กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวลง 6.7%YoY ในเดือนก.ค. ปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 7 เนื่องจากการชะลอตัวของอุปสงค์และเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรม
- สหรัฐฯประเมินเบื้องต้นบ่งชี้ว่าการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกของนายเยฟเกนี ปริโกซิน ผู้นำกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ เป็นการลอบสังหารที่อาจได้รับการรับรองโดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
- ตลาดหลักทรัพย์ สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-25 สิงหาคม 2566 พบว่า นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 51,189.73 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,919.06 ล้านบาท นักลงทุน ต่างประเทศขายสุทธิ 130,972.16 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 81,701.48 ล้านบาท
- นิด้าโพลชี้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อตั้งรัฐบาลสลายขั้วแก้ความขัดแย้งได้
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแรงหนุนจากการเมืองในประเทศที่มีเสถียรภาพมากขึ้น หลังสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นและคาดหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,550-1,570 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : STEC STPI SIRI SC SKY XPG
• FETCO แนะนำกลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการ : ERW CENTEL SPA
• iPhone 15 เปิดตัว ก.ย. : COM7 SPVI CPW SYNEX
• MSCI rebalance มีผล 1 ก.ย. : MSCI Global Standard Index เข้า TTB ออก CBG SAWAD MSCI Small cap index เข้า CBG COM7 ITC PSG SAWAD ออก PTL SINGER S
• หุ้นได้ประโยชน์จากกรณีญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนรังสีลงทะเล : TU ASIAN TC CFRESH
• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล : TNP KK CPALL CPAXT STEC CK ITD
หุ้นรายงานพิเศษ
EKH "ซื้อ" Bloomberg Consensus 9.56 บาท
"มุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ 2H66 คาดจะโตทั้ง HoH และ YoY"
•(+) งวด 2Q66 มีกำไร 26 ลบ. -46%YoY -67%QoQ โดยหลักมาจากการวัดมูลค่ายุติธรรมใน KLINIQ 45 ลบ. หากตัดรายการดังกล่าวออก กำไรปกติจะอยู่ที่ 71 ลบ. +45%YoY +28%QoQ ขณะที่ รายได้จากโรงพยาบาลยังคงเติบโตดีสู่ 299 ลบ. +23.6%YoY +15%QoQ เติบโตทั้งจากผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก จากการกลับมาระบาดของโควิด-19 ช่วงสงกรานต์ ส่วน %GPM อยู่ที่ระดับ 44.3% (2Q65 = 40.2%, 1Q66 = 42.39%) เพิ่มขึ้นตามรายได้ที่ปรับเพิ่มขึ้น
•(+) (EKH-WPH) เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา EKH ประกาศร่วมทุนกับ WPH มีทุนจดทะเบียน 200 ลบ. (สัดส่วน 49%) เพื่อประกอบธุรกิจ โรงพยาบาลคูน อ่าวนาง ซึ่งเป็นอาคารสูง 3 ชั้น ขนาด 36 เตียง ตั้งอยู่ที่ จ.กระบี่ สำหรับดูแลผู้สูงอายุทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งจะเริ่มให้บริการได้ช่วง 3Q68
ความเห็น
ประเด็นบวก
•1) (+) เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการช่วง 2H66 คาดจะเติบโตทั้ง HoH และ YoY จากการเข้าสู่ช่วง High Season ใน 3Q66 จากโรคประจำฤดู ปัจจุบัน U.Rate พุ่งสูงกว่า 90% (3Q65 = 89%, 2Q66 = 78%)
•2) (+) ธุรกิจ IVF มีแนวโน้มเติบโตดีจากกลุ่มลูกค้าชาวจีน และปัจจุบันมี Agency มาติดต่อหลายราย คาดทั้งปี 66 ราว 300 เคส จากช่วง 1H66 ให้บริการแล้ว 120 เคส เนื่องจากปีหน้าเป็นปีมังกรทอง
•3) (+) มุมมองบวกต่อดีล EKH-WPH ในการเปิด รพ.คูน อ่าวนาง เนื่องจากเป็นเขตพื้นที่ที่ WPH มีความเชี่ยวชาญ และมีดีมานต์จากกลุ่มคนไข้ในเครือข่ายมารับบริการอยู่แล้ว ประกอบกับอัตราค่าบริการที่สูงกว่า รพ.คูน พระราม 2 ราว 10% จึงคาดจะสามารถทำกำไรได้เลยในช่วงปีแรก
•4) (+) รพ.คูน พระราม 2 ปัจจุบันให้บริการ 20 เตียง จากทั้งหมด 30 เตียง เนื่องจากแพทย์และพยาบาลไม่เพียงพอ ปัจจุบันเตรียมเพิ่มจำนวนบุคลากร และคาดจะให้บริการครบทุกเตียงได้ในช่วงปี 67
ความเสี่ยง
•1) (-) ผลประกอบการของบริษัทยังเผชิญความผันผวนจากราคาของหุ้น KLINIQ
•2) (0) ปัจจุบัน รพ.เอกชัย เข้าสู่ช่วงของการให้บริการแบบ Full Capacity แล้ว จึงคาดหวังการเติบโตจากธุรกิจเดิมในช่วง 1-2 ปีต่อจากนี้ได้ไม่มาก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทอยู่ในระหว่างการพัฒนาอาคารแห่งใหม่ (พื้นที่หลังอาคารเดิม) งบลงทุน 250 ลบ. สามารถรองรับได้เพิ่มขึ้นอีก 60 เตียง คาดเริ่มให้บริการได้ในปี 69 ประกอบกับปัจจุบันมีเงินสดในมือเหลือเยอะราว 400 ลบ. จึงพร้อมเปิดรับดีลใหม่ๆในอนาคต
ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 66 ราว 254 ลบ. -54%YoY (1H66 มีกำไร 104 ลบ. คิดเป็น 41% ของประมาณการทั้งปี 66) หดตัวแรง YoY เนื่องจากมีปีก่อนมีกำไรพิเศษจาก KLINIQ ราว 410 ลบ. หากตัดรายการดังกล่าวออก กำไรปกติจะเติบโต 12%YoY และราคาเหมาะสม 9.56 บาท Upside 20% แนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) GPSC (Bloomberg consensus 73.50 บาท) มั่นใจผลงานครึ่งหลังของปี 2566 กลับสู่ภาวะปกติ สอดคล้องความเคลื่อนไหวราคาพลังงาน ปลื้มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Avaada ราว 300-350 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ ย้ำแผนเพิ่มสัดส่วนลงทุนพลังงานทางเลือก ทั้ง ไทย เวียดนาม จีน อินเดีย และไต้หวัน สร้างการเติบโตใหม่ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) FSMART (Bloomberg consensus - บาท) พุ่งเป้าธุรกิจอนาคตสร้าง S Curve ตั้งเป้าตู้เต่าบิน 8.5 พันเครื่อง เล็งนำเมนูสุดฮอตบรรจุกระป๋องขาย ส่วนบริการเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า "GINKA Charge Point" มองอนาคตหากติดตั้งได้ถึง 1 แสนจุด หนุนผลงานโดดเด่น (ที่มา ทันหุ้น)
(+) MICRO (Bloomberg consensus 2.10 บาท) เผยกลยุทธ์ครึ่งปีหลังเน้นดูแลรักษาพอร์ตลูกหนี้ที่ดีไว้ รวมถึงเน้นคุณภาพสินเชื่อเป็นหลัก คุม NPL ให้อยู่ระดับต่ำกว่า 4% รักษาพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 4,700-5,000 ล้านบาท ล่าสุดปรับเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่เหลือ 1,800-2,000 ล้านบาท เตรียมดีเดย์ปล่อยสินเชื่อจำนาเล่มทะเบียน (Title Loan) ในไตรมาส 4/2566 เสริมแกร่งรายได้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SKY (Bloomberg consensus 5.50 บาท) ผู้บริหารมั่นใจผลการดำเนินงานปีนี้สูงกว่าปีก่อน มีลุ้นเติบโต 100% จากปีก่อน เชื่อ Q3/66 ขยายตัวต่อเนื่อง แบ็กล็อกล้น 2.2 หมื่นล้านบาท รอคว้างานใหม่ 2 งาน มูลค่ารวม 4 พันล้านบาทเร็วๆ นี้ ส่วนงานประมูลบริการภาคพื้นรายที่ 3 สุวรรณภูมิ ปิดจ๊อบเดือน ต.ค. นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)