วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ EKH ท้องฟ้าสดใส
ได้เข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์งวด 2Q66 และยังคงมองบวกกับแนวโน้มธุรกิจของ EKH โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 26 ล้านบาทใน 2Q66 (-46.5% YoY, -66.7% QoQ) ซึ่งใกล้เคียงกับประมาณการของเราที่ 25 ล้านบาท แต่ดีกว่า consensus 52.9%
แต่หากไม่รวมผลขาดทุนพิเศษ 45 ล้านบาทจากการบันทึกมูลค่าหุ้น The Klinique Medical Center (KLINIQ.BK/KLINIQ TB) ด้วยวิธีมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (fair value through profit or loss หรือ FVTPL) กำไรปกติของ EKH จะอยู่ที่ 71 ล้านบาท (+45.4%YoY, +43.1% QoQ) ทั้งนี้ เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มของบริษัทใน 2H66 และในระยะยาว
ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ
i) กำลังจะเข้าสู่ช่วง high season ใน 3Q66 ซึ่งหลังจากที่ผลการดำเนินงานดีขึ้นใน 1H66 แล้ว เราคาดว่าจะยิ่งดีขึ้นไปอีกใน 3Q66 จากเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ (โรงพยาบาลเอกชัย, โรงพยาบาลคูน และธุรกิจ IVF) ซึ่งแนวโน้มธุรกิจที่พลิกกลับมาสู่ภาวะปกติ เนื่องจาก 3Q มักจะเป็นไตรมาสที่กำไรแข็งแกร่งที่สุดของปี
ii) การดำเนินงานของ EKH กลับมาอยู่ระดับก่อน COVID ระบาด โดยใน 3Q66 occupancy rate ในส่วนของ IPD โรงพยาบาลเอกชัยอยู่ในระดับสูงที่ >100 ในขณะที่ของ OPD ก็เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับ IPD ทั้งนี้ EKH ได้เปิดให้บริการตึก B มาตั้งแต่ปี 2562 โดยจำนวนผู้ป่วยที่ไม่รวม COVID-19 ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ผู้บริหารจึงมีแผนจะขยาย capacity ของ EKH โดยการก่อสร้างตึกใหม่ ซึ่งจะใช้ชื่อว่าตึก C โดยตั้งเป้าจะเปิดบริการในปี 2569 และจะมีขนาด 60 เตียงพร้อมทั้งมีศูนย์ MRI ด้วย
iii) ผลการดำเนินงานของธุรกิจ IVF ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารพบว่ามีผู้มาใช้บริการ IVF เพิ่มขึ้น MoM อย่างต่อเนื่องในงวด 8M66 โดยความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนไม่น่าจะส่งผลกระทบกับธุรกิจ IVF อย่างมีนัยสำคัญ เพราะธุรกิจนี้สามารถประคองตัวได้ดีในช่วงที่สถานการณ์เศรษฐกิจแย่ลง
iv) มองบวกกับแนวโน้มของโรงพยาบาลคูน ทั้งนี้ โรงพยาบาลคูนเริ่มมีกำไรสุทธิเป็นครั้งแรกใน 2Q66 หลังจากที่เริ่มเปิดให้บริการในเดือนกันยายน 2565 นอกจากนี้ EKH ยังเพิ่งเซ็นสัญญา joint venture กับ Wattanapat Hospital Trang (WPH.BK/WPH TB) เพื่อดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเฉพาะทาง และ nursing home ในจังหวัดกระบี่ ซึ่งเราคิดว่า joint venture แห่งนี้จะประสบความสำเร็จเหมือนกับโรงพยาบาลคูน
คงประมาณการกำไรปี 2566-2567F เอาไว้เท่าเดิม
เมื่ออิงจากผลประกอบการในงวด 1H66 เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิเต็มปีของ EKH เอาไว้ที่ 254 ล้านบาทในปี 2566F และ 276 ล้านบาทในปี 2567F โดยยังไม่รวมกำไร/ขาดทุนจาก KLINIQ
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2566 ที่ 9.80 บาท (ใช้ WACC ที่ 9%, TG ที่ 3%)
Risks
COVID-19 ระบาด, เกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่ และเกิดเหตุก่อการร้าย
