วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในช่วงแคบ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ที่ปรับตัวบวก-ลบ เล็กน้อย โดยสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ

โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับมีการปรับน้ำหนักหุ้นเข้า-ออกดัชนี FTSE Rebalance ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,542.03 จุด -3.11 จุด -0.20% มูลค่าการซื้อขาย 52,067 ลบ. ต่างชาติ -1,935.41 ลบ. TFEX +2,218 สัญญา ตราสารหนี้ -404.28 ลบ.
 

ปัจจัยบวก    

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ +0.7% ปิดที่ 90.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2565 และพุ่งขึ้น 3.7% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในปีนี้ รวมถึงปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันท่ามกลางความวิตกอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่ตึงตัว
+ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่าบรรดาเทรดเดอร์คาดว่ามีโอกาส 97% ที่ FED จะตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 20 ก.ย.นี้ และคาดว่ามีโอกาส 67% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.
+ โฆษกทำเนียบเครมลิน ยืนยันว่า รัสเซียและเกาหลีเหนือไม่ได้มีการลงนามในข้อตกลงทางทหารแต่อย่างใด ในระหว่างที่นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือเดินทางเยือนรัสเซียในสัปดาห์ที่ผ่านมา
+ ทอท.รับนโยบาย "เศรษฐา" เร่งศึกษาแผนสร้างสนามบินนานาชาติอันดามัน คาดใช้เงินลงทุนกว่า 70,000 ล้านบาท ดันเป็นศูนย์กลางการขนส่งกลุ่มจังหวัดอันดามัน รองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยว
+ รมช.คลังเปิดเผยถึงนโยบายการพักหนี้เกษตรกรและธุรกิจเอสเอ็มอีว่าเบื้องต้นได้ประเมินว่าจะมีเกษตรกรและเอสเอ็มอีที่อยู่ในข่ายได้รับการพักชำระหนี้จากนโยบายของรัฐบาลไม่เกิน 7 ล้านบาท
+คาดการประชุมครม.จะมีวาระพิจารณาเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาทก่อนสิ้นสุดปีงบประมาณประจำปี 2566 ในวันที่ 30 ก.ย. 2566

ปัจจัยลบ 

 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 288.87 จุด หรือ -0.83% เนื่องจากหุ้นกลุ่มชิปร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอของผู้บริโภค ขณะที่การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐส่งผลกดดันหุ้นอะเมซอนและหุ้นของบริษัทเติบโตรายใหญ่อื่น ๆ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์บวก 0.12%
- สหรัฐ อังกฤษ และแคนาดาประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่ออิหร่าน หลังครบรอบหนึ่งปีการเสียชีวิตของ มาห์ซา อามินี หญิงอิหร่านชาวเคิร์ดที่เสียชีวิตขณะถูกควบคุมตัวโดยตำรวจด้านศีลธรรมของอิหร่าน ซึ่งได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิหร่าน
- จีนรายงานว่าดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค.ของจีนลดลง 0.3%MoM หลังจากที่ลดลง 0.2% ในเดือนก.ค. ถือเป็นการร่วงลงแรงที่สุดในรอบ 10 เดือนตอกย้ำถึงความรุนแรงของวิกฤติภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน
- ตลาดหลักทรัพย์ สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กันยายน 2566 พบว่าสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 54,535.41 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 2,978.42 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 147,540.14 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 90,026.31 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด ขณะที่มีแรงกดดันจากเม็ดเงิน Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทรงตัวในระดับสูง พยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน กรอบดัชนีในวันนี้ 1,535-1,550 จุด

กลยุทธ์การลงทุน     

• หุ้น mai ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว : SPA AU D RP
• ราคาน้ำตาลปรับตัวขึ้น : KBS KSL KTIS BRR
• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล : TNP KK CPALL CPAXT STEC CK ITD
• ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น : PTTEP PTT BCP TOP

  

หุ้นรายงานพิเศษ  

SABINA "ซื้อ" - Bloomberg Consensus 30.00 บาท
"มุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการช่วง 2H66 คาดจะเติบโต HoH"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

•(0) งวด 2Q66 มีกำไร 114 ลบ. +4.5%YoY -2.4%QoQ (ตามตลาดคาด) โดยมีรายได้ 838 ลบ. ทรงตัว YoY -3.6%QoQ โดยหลักมาจากรายได้ OEM ที่หดตัว 64%YoY 75%QoQ (สัดส่วน 10% ในปี 65 ลดลงสู่ 3% ของรายได้รวม) ตามเศรษฐกิจยุโรปที่ชะลอตัวลง ทำให้บางคำสั่งซื้อถูกเลื่อนส่งมอบไปยังช่วงปลาย 3Q66 อย่างไรก็ตาม ยอดขายแบรนด์ SABINA (สัดส่วน 96%) ยังคงเติบโตดี 7%YoY +8%QoQ ทั้งในส่วนหน้าร้านและออนไลน์ ส่วน %GPM ปรับดีขึ้นสู่ 49.6% (2Q65 = 45.7%, 49.4%) จากการเปิดตัว New Collection ที่ราคาสูงขึ้น

•(+) ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการช่วง 2H66 คาดจะเติบโต HoH จากกำลังซื้อของคนในประเทศและนักท่องเที่ยวที่คาดจะเติบโตดีตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ประกอบกับยอดขาย OEM ที่จะฟื้นโตดี หลังจากถูกเลื่อนส่งมอบจาก 2Q66 มาในช่วง 3Q-4Q66 ทั้งนี้ ช่วง 2H66 บริษัทยังไม่มีแผนขยายสาขาในประเทศ โดยคงจำนวนสาขาไว้ที่ราว 520-525 แห่ง แต่ในต่างประเทศมีแผนเปิดเพิ่มอีก 6 แห่ง สู่ราว 100 สาขา ณ สิ้นปีนี้ ซึ่งบริษัทยังคงมุ่งเน้นและเห็นศักยภาพในการเติบโตในฟิลิปปินส์จากจำนวนประชากรที่มากกว่าไทยราว 2 เท่าตัว ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 66 ราว 475 ลบ. +14%YoY (1H66 มีกำไร 230 ลบ. +9%YoY คิดเป็น 48% ของประมาณการทั้งปี 66) และราคาเหมาะสม 30.00 บาท Upside 12% แนะนำ “ซื้อ”

 

หุ้นมีข่าว

(+) III (Bloomberg consensus 14.80 บาท) บิ๊กบอส III "ทิพย์ ดาลาล" ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลัง 2566 ขนส่งพีคไฮซีซัน เตรียมพร้อมส่ง ANI ลงสนามเทรดไตรมาส 4/2566 นี้ ขณะที่ AOTGA ลุยเข้าประมูลธุรกิจการให้บริการภาคพื้นสนามบินสุวรรณภูมิ รับอานิสงส์จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เร่งตัว (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MENA (Bloomberg consensus 2.63 บาท) ประเมินครึ่งปีหลังผลงานเติบโตโดดเด่นกว่าครึ่งปีแรก ตามธุรกิจโลจิสติกส์ที่ขยายตัว หนุนธุรกิจขนส่งซีเมนต์ คอนกรีต สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเฉพาะทาง สินค้าควบคุมอุณหภูมิสดใส อีกทั้งรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก TDM เต็มไตรมาส ฟากซีอีโอ "สุวรรณา ขจรวุฒิเดช" ประกาศ! ปูพรมขยาย Fleet ธุรกิจ Mixer ตามแผน ชี้รายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SYNEX (Bloomberg consensus 15.60 บาท) ลั่นธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ส่งซิกไตรมาส 4/2566 ผลงานทำนิวไฮ รับไฮซีซันไอทีบูม-ไอโฟน 15 หนุน เล็งได้อานิสงส์ดิจิทัลวอลเล็ตภาครัฐปีหน้า ชี้เม็ดเงินกว่า 5 แสนล้านบาท ช่วยหนุนรายได้พุ่ง แถมล่าสุดจัดงาน "Synnex Partners Connext 2023" ปั๊มยอดขายเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTTGC (Bloomberg consensus 41.50 บาท) จับมือพันธมิตร TotalEnergies ENEOS เปิดโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ Solar Rooftop ขนาด 6.7 เมกะวัตต์ สร้างพลังงานทดแทนประมาณ 9,500 เมกะวัตต์-ชั่วโมง (MWh) ต่อปี ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่า 4,300 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี (ที่มา ทันหุ้น)