วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้นผลการประชุมเฟด
วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวบวกเล็กน้อยในช่วงแรก ก่อนที่จะเผชิญแรงขาย กดดันให้ดัชนีปรับตัวลงในแดนลบ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ แรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มค้าปลีก และธนาคาร ส่วนแรงซื้อมาจากหุ้นกลุ่มไอซีที
โดยนักลงทุนติดตามการประชุม FOMC ในวันที่ 19-20 ก.ย. นี้ เพื่อดูทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,522.96 จุด -4.61 จุด -0.30% มูลค่าการซื้อขาย 43,233 ลบ.ต่างชาติ -1,117.08 ลบ. TFEX -14,664 สัญญา ตราสารหนี้ -1,740.19 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้ และให้น้ำหนัก 70.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมเดือนพ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 69% ในการสำรวจก่อนหน้านี้
+ ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.45% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีไว้ที่ระดับ 4.20% ตามคาด
+ กรมการค้าภายในเผยผู้ผลิตสินค้า-บริการ เตรียมลดราคาหลังต้นทุนพลังงานลดจากมาตรการรัฐ เล็งดึงร้านค้าธงฟ้า 1 แสนแห่งทั่วไทยร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
+ คลังได้เรียกธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มาหารือมาตรการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี คาดว่าจะเรียกประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส.ภายในสัปดาห์นี้
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 106.57 จุด หรือ -0.31% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง ก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 28 เซนต์ -0.3% ปิดที่ 91.20 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ ภายหลังจากซาอุดิอาระเบียและรัสเซียขยายเวลาการปรับลดอุปทานน้ำมันจนถึงสิ้นปีนี้
- สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ซูแนค ไชน่า (Sunac China) หนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นของจีน ยื่นคำร้องขอคุ้มครองภาวะล้มละลายต่อศาลสหรัฐฯ แล้วเมื่อวันอังคารที่ 19 ก.ย. 2566 ไม่นานหลังจากได้รับอนุมัติจากเจ้าหนี้ให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้มูลค่าเกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 3.6 แสนล้านบาท
- ผู้นำยูเครนกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) เรียกร้องนานาประเทศให้การรับรองข้อตกลงสันติภาพ 10 ประการของยูเครน และให้รัสเซียถอนตัวจากดินแดนของยูเครน รวมทั้งให้มีการตั้งคณะตุลาการพิเศษเพื่อดำเนินคดีอาชญากรรมสงครามต่อรัสเซีย
- นายอีไล แรตเนอร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฝ่ายกิจการความมั่นคงอินโด-แปซิฟิกกล่าวว่า จีนจะประสบความล้มเหลวในการปิดล้อมไต้หวัน และจีนจะประสบความยากลำบากในการบุกโจมตีไต้หวันโดยตรง
- รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ระบุว่า ธนาคารพาณิชย์อังกฤษเสี่ยงเผชิญหนี้เสียเพิ่มมากขึ้น หลังถูกกดดันจากมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลในช่วงเกิดโรคโควิด-19 ระบาด
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจาก Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ยังไหลออกต่อเนื่อง ประกอบกับนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อติดตามผลการประชุมเฟดในวันนี้ กรอบดัชนีในวันนี้ 1,515-1,530 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้น mai ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว : SPA AU D RP
• ราคาน้ำตาลปรับตัวขึ้น : KBS KSL KTIS BRR
• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล : TNP KK CPALL CPAXT STEC CK ITD
• ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น : PTTEP PTT BCP TOP
• หุ้นเสียประโยชน์จากลดค่าไฟฟ้า : GPSC BGRIM EA SSP • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากลดค่าไฟฟ้า : CPALL CRC HMPRO
หุ้นรายงานพิเศษ
SINO <SET/TRANS> ราคา IPO 1.40 บาท
ราคาเหมาะสม 2.02 บาท
*Globlex Securities เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายซึ่งได้รับค่าธรรมเนียมในการจัดจำหน่ายในครั้งนี้
•SINO ผู้ขนส่งทางทะเลเส้นทางไทย-สหรัฐอันดับหนึ่ง ประกอบธุรกิจ ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยแบ่งรายได้เป็น 4 ประเภทดังนี้ 1) บริการขนส่งสินค้าทางทะเล 2) บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ 3) บริการให้เช่าคลังสินค้า และ 4) บริการสนับสนุนงานบริการ โลจิสติกส์ โดยมีสัดส่วนรายได้ปี 65 ที่ 97.1%, 0.7%, 0.4% และ 1.4% ตามลำดับ โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขนส่งสินค้าไปยังอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย ที่ 78.1% 12.3% และ 6.9% ตามลำดับ
•รายได้และกำไรสุทธิปี 63-65 อยู่ที่ 834-5,907 ลบ. และ 23-691 ลบ. ตามลำดับ โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ตลอด 3 ปีที่ 166% และ 444% ต่อปีตามลำดับ เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้การขนส่งทางเรือมีความต้องการเพิ่มขึ้นทำให้ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น อีกทั้งเงินบาทที่อ่อนค่าหนุนการเติบโตของกำไร อย่างไรก็ตามรายได้และกำไร 1H66 หดตัว 78%YoY และ 91%YoY สู่ 3,703 ลบ. และ 830 ลบ. ตามลำดับ หลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายทำให้การขนส่งทางเรือกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
•จำนวนหุ้น IPO 292 ล้านหุ้น แบ่งเป็นการออกหุ้นใหม่ 240 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นเดิม 52,000,000 หุ้นมูลค่าระดมทุน 336 ลบ. และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,456 ลบ. ราคา IPO คิดเป็น trailing P/E 6.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 58 เท่า
•การระดมทุนเพื่อ 1.ขยายพื้นที่บริการรับฝากตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ 2.ลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศ ASEAN และลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และ3. เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ และเพื่อขยายกิจการ
หุ้นมีข่าว
(+) ERW (Bloomberg consensus 6.10 บาท) ลั่นโรงแรมเข้าไฮซีซัน ไตรมาส 4/2566 อัตราการเข้าพักไม่ต่ำกว่า 80% นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้า ฟรีวีซ่าจีนหนุน มั่นใจรายได้โตตามเป้า ลุยขยายโรงแรมเพิ่ม คาดสรุปซื้อไอบิสปีหน้า ส่วนค่าไฟฟ้าลดลงเป็นบวก แย้มต้นทุนค่าไฟฟ้า 6-7% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SBNEXT (Bloomberg consensus - บาท) จับตาผลงานครึ่งหลังปี 2566 เด่น หลังปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ ขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มหนุนยอดขายได้มากขึ้น คาดหวังโค้ง 3/2566 ผลงานพลิกบวกได้วางแผนผุดสินค้า IOT ใหม่เพิ่มเติม พร้อมอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนเป้ารายได้ใหม่ให้สอดคล้องกับบริษัทแม่ SABUY (ที่มา ทันหุ้น)
(+) DOD (Bloomberg consensus - บาท) รับจ้างผลิตอาหารเสริมบูม ลูกค้าหน้าใหม่เรียงคิวป้อนออเดอร์ เชื่อครึ่งปีหลัง 2566 โกยเงิน 400 ล้านบาท แถม AWL ยอดขายฮอต เดินหน้าเพิ่มช่องทางออนไลน์ทำเงิน กางแผนเจาะตลาดวิตามิน ชี้มูลค่าสูงใกล้เคียงอาหารเสริมหมื่นล้าน จ้องผนึกพาร์ตเนอร์ลุยธุรกิจ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BCP (Bloomberg consensus 42.95 บาท) รับอานิสงส์ค่าการกลั่น-ราคาน้ำมันดิบขาขึ้น ชูบริษัทลูก BCPG-BBGI รายได้ฟื้น แถมเริ่มรับรู้การเข้าซื้อเอสโซ่ หนุนรายได้-กำไรช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ฟื้นตัวโดดเด่น ย้ำเดินหน้าแผน Synergy มั่นใจสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาทต่อปี ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป (ที่มา ทันหุ้น)