วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

วันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นปรับตัวลงและผันผวนในแดนลบ คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาค หลัง ประธานเฟดยังคงส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ สะท้อน US Bond Yield พุ่งขึ้นสู่ 4.636% +13.30bps ประกอบกับแรงขายของหุ้นใหญ่บางตัว

อาทิ DELTA AOT และ JMT ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,389.57 จุด -15.40 จุด -1.10% มูลค่าการซื้อขาย 50,968 ลบ. ต่างชาติ -2,385 ลบ. TFEX -6,471 สัญญา ตราสารหนี้ -3,749.04 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 391.16 จุด หรือ +1.15% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเติบโตที่ปรับตัวขึ้นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐทรงตัวหลังพุ่งแรงในวันพฤหัสบดี นักลงทุนมุ่งสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ ในสัปดาห์หน้า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์บวกขึ้นราว 0.7%
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ +1.9% ปิดที่ 77.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากการที่อิรักสนับสนุนให้กลุ่มโอเปคพลัสปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก แต่ร่วงลงเกือบ 4.2% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาจากคาดการณ์แนวโน้มปริมาณน้ำมันส่วนเกิน
+ นางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐจะเดินทางเยือนจีนในปีหน้าตามคำเชิญของรมว.คลังของจีน ขณะที่ทั้งสองประเทศพยายามติดต่อกันให้มากขึ้นและปรับปรุงความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด
+/- ธปท.สำรวจการให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์พบว่า ในไตรมาสสุดท้ายของปี 66 มาตรฐานการปล่อยสินเชื่อยังคงเข้มงวดมากขึ้นในสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ จากกังวลความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้กู้และความเสี่ยงของหลักทรัพย์ค้ำประกัน และคุณภาพสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์คาดว่าจะด้อยลง อัตราการอนุมัติสินเชื่อมีแนวโน้มปรับดีขึ้น การแข่งขันปล่อยสินเชื่อระหว่างธนาคารสูงขึ้นจากอุปทานคงค้างในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังอยู่ในระดับสูง

ปัจจัยลบ 

- มูดี้ส์ประกาศลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐสู่ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" โดยคาดการณ์ว่าการขาดดุลการคลังของสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับสูงมาก และจะทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลงอย่างมาก

 

- ตลาดการเงินยังคงติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดย WHO เปิดเผยกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN) ว่า เด็กหนึ่งคนถูกสังหารโดยเฉลี่ยทุก ๆ 10 นาทีในฉนวนกาซา
- รายงานของสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า อัตราความยากจนในปาเลสไตน์จะเพิ่มขึ้นอีก 34% ส่งผลให้ผู้คนเกือบครึ่งล้านตกอยู่ในภาวะยากจน หากสงครามในกาซายังคงดำเนินต่อไปเป็นเดือนที่ 2
- จีนเปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศประจำเดือนต.ค.อยู่ที่ระดับ 3.1012 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลง 1.38 หมื่นล้านดอลลาร์จากระดับของเดือนก.ย. ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.0975 ล้านล้านดอลลาร์
- ตลาดหลักทรัพย์ สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค.-10 พ.ย. 2566 พบว่าสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 69,571.44 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 3,442.95 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 182,336.25 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 116,207.76 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนยังจับตาตัวเลข CPI และ PPI ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ประกอบกับปัจจัยในประเทศใกล้สิ้นสุดการประกาศงบ 3Q66 ของบริษัทจดทะเบียนกลางสัปดาห์นี้ มองกรอบดัชนี 1,380-1,395 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Bond Yield ปรับตัวลง : TIDLOR SAWAD MTC
• นายกสั่งเอกชนเดินหน้าโครงการเหมืองแร่โปแตช : TRC ITD
• Digital Wallet และ e-Refund : BJC CPALL CPAXT CRC CPN COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

PRINC "เก็งกำไร"
มุมมองบวกต่อผลประกอบการ 3Q66 ต่อเนื่องไปยัง 4Q66

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

•งวด 3Q66 มีกำไร 38 ลบ. พลิกจาก 3Q65 และ 2Q66 ขาดทุน 90 ลบ. และ 374 ลบ. ตามลำดับ โดยมีรายได้จากการรักษาพยาบาล (สัดส่วน 91%) 1,480 ลบ. +8%YoY +33%QoQ และหากตัดรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับโควิด-19 เติบโตกว่า 39%YoY +24%QoQ จากจำนวนคนไข้ที่เพิ่มทั้ง OPD และ IPD และสะท้อนการรักษาโรคทั่วไปที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เติบโตแรง QoQ จากการเข้าสู่ช่วง High Season ที่มีโรคประจำฤดูฝนและโรคระบาด อาทิ ไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออก นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลงอย่างมีนัยสำคัญสู่ 315 ลบ. -29%YoY -38%QoQ เนื่องจาก 3Q65 มีค่าใช้จ่ายพิเศษในการตั้งสำรองการเสื่อมวัคซีนโควิด-19 และ 2Q66 มีตั้งค่าเผื่อลูกหนี้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติของโควิด-19 ทั้งนี้ช่วง 9M66 มีรายได้ 4,117 ลบ. -23%YoY และขาดทุน 483 ลบ. ตามลำดับ

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 3Q66 และแนวโน้ม 4Q66 ที่คาดจะเติบโต YoY แต่อาจปรับตัวลง QoQ หลังผ่านพ้นช่วง High Season ขณะที่แนวโน้มรายได้รักษาพยาบาลปี 67 คาดเติบโตราว 15-20% สนับสนุนจากจำนวนผู้ป่วยโรคทั่วไปที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประกอบกับแผนการเปิดให้บริการ รพ.พริ้นซ์ มุกดาหาร ขนาด 59 เตียง ช่วงปลายปี 67 และการลงทุนในธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ล่าสุดเพิ่งควบรวม "ผิวดี-พงศ์ศักดิ์" บุกตลาดเอสเธติคส์ความงาม ซึ่งมีสาขารวม 21 แห่ง ซึ่งจะมีการ Rebranding ช่วงเดือน ธ.ค.นี้ และให้บริการตั้งแต่ต้นปีหน้า รวมถึงธุรกิจศูนย์เฉพาะทาง อาทิ รักษามะเร็ง ดูแลผู้สูงอายุ และ IVF เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันซื้อที่ PE 77.1x สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 30x เราจึงแนะนำ “เก็งกำไร”

หุ้นมีข่าว

(+) NEX (Bloomberg consensus 15.00 บาท) ชี้ช่องโต รับดีมานด์ "ยานยนต์ไฟฟ้า" เข้าไม่หยุด ประชุมใหญ่ตัวแทน วางปีหน้าขายหัวลากอีวี 2-3 พันคัน ไม่รวมงานราชการที่จะออกมา ทั้ง รถขยะอีวี รถตู้อีวี รถกระบะอีวี ยังมีรถบัสอีวีรอส่งมอบอีก 800 คัน ชี้ขายนอกกลุ่มเทกออฟไตรมาส 4 เงินสดเยอะ 600 ล้านบาท อนุมัติซื้อหุ้นคืน 290 ล้านบาท รับราคาหุ้นต่ำกว่าพื้นฐาน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ASW (Bloomberg consensus 10.00 บาท) เผยเตรียมโอนโครงการใหม่ อีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 6,400 ล้านบาท พร้อมลุยเปิดคอนโด-บ้านเดี่ยวอีก 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1.51 หมื่นล้านบาท หนุนรายได้และยอดขายทั้งปีเติบโตแข็งแกร่ง ส่วนผลประกอบการ 9 เดือนแรก ปี 2566 ทำรายได้รวม 4,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% และมีกำไรสุทธิ 608 ล้านบาท กวาดยอดขาย 9 เดือนทะลุ 1.1 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SPVI (Bloomberg consensus - บาท) กางแผนไตรมาส 4/2566 เดินหน้าเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง กระตุ้นยอดขายปลายปี ด้าน E&E ลุยคว้าโปรเจ็กต์ใหม่ในสถานศึกษา แย้มแผนปี 2567 เตรียมเปิดสาขา iStudio เซ็นทรัล นครสวรรค์ คุมต้นทุนรัดกุม หนุนกำไร (ที่มา ทันหุ้น)

(+) OSP (Bloomberg consensus 30.70 บาท) ลั่นโค้งท้ายเข้าไฮซีซันเตรียมอัดโปรโมชั่น กิจกรรมการตลาดชิงส่วนแบ่งโดยเฉพาะเครื่องดื่มชูกำลัง หนุนยอดขายโตต่อเนื่อง ย้ำต้นทุนน้ำตาลเพียง 3% ของต้นทุนรวม รับผลกระทบจากราคาน้ำตาลปรับขึ้นในกรอบจำกัด เล็งผลักดันยอดขาย 5 แบรนด์ให้เติบโต 50% ต่อเนื่อง 3-5 ปี (ที่มา ทันหุ้น)