วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง การครบกำหนดตราสารอนุพันธ์

ในทางตรงกันข้ามดัชนีฯ จะเปลี่ยนเป็นสัญญาณอ่อนตัว หากดัชนีฯ หลุดแนวรับ EMA 25 วัน ที่ 1,397 จุด

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้

+การครบกำหนดตราสารอนุพันธ์เดือน ธ.ค.: อิงสถิติความสัมพันธ์ระหว่าง SET50 Futures กับการ Long และ Short สุทธิของนักลงทุนต่างชาติ พบว่า ในเดือนที่สิ้นสุดไตรมาส ก่อน Series รายไตรมาสสิ้นสุดอายุ 10 วันทาการ (LTD-10) หากต่างชาติมี Position ฝั่งไหน (ในช่วงครึ่งเดือนแรกก่อน LTD-10) จะส่งผลต่อในช่วง 10 วันทำการสุดท้ายในทิศทางเดียวกัน โดยมีความแม่นยำ 70.97%

หากลงทุนด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวและถือถึงวันหมดอายุในช่วง 2016-3Q23 จะมีกำไรเฉลี่ย 11.6 จุด/ไตรมาส โดยไตรมาสที่กำไรสูงสุด 59.0 จุด และไตรมาสที่ขาดทุนสูงสุด -46.0 จุด กรณีในวันที่ 1-15 ธ.ค. 2023 ที่ผ่านมา พบว่าต่างชาติมี Long สะสมสุทธิ 21,819 หมื่นสัญญา อิงจากสถิติ 31 ไตรมาสย้อนหลัง มีโอกาส 70.97% ที่ S50Z23 จะปิดสูงกว่าระดับ 854.8 จุด ในวันสิ้นสุดสัญญา

-BOJ: ตลาดจับตาสัญญาณท่าทีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในอนาคตของผลประชุม BOJ ครั้งล่าสุด หลังจากวานนี้ ผู้ว่า BOJ อูเอดะ ส่งสัญญาณอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต ขณะที่อดีตกรรมการ BOJ ทากาโกะ มาซาอิ ออกมาตำหนิและเสนอให้นาย อูเอดะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสื่อสารที่สร้างความสับสน เพราะคำพูดแสดงท่าทีคุมเข้มทางการเงินของนายอูเอดะในรัฐสภา ขัดแย้งกับความเห็นล่าสุดของกรรมการ BOJ หลายคนที่เตือนว่า ไม่ควรมีการดีเบตกันก่อนเวลาอันควรในเรื่องการยุตินโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
 

+เทศกาลปีใหม่ไทย (Food, Commerce): ม.หอการค้าไทย เปิดเผย “พฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2024” ว่า แผนการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงปีใหม่ 2024 (วันที่ 29 ธ.ค. 2023-1 ม.ค. 2024 อยู่ที่ 1.05 แสนล้านบาท +2.8% YoY สูงสุดในรอบ 4 ปี โดยกลุ่มตัวอย่างมองว่าบรรยากาศในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2024 จะคึกคัก มองทิศทางดังกล่าวเป็นสัญญาณที่ดีต่อแนวโน้มการบริโภคภายในเริ่มฟื้นตัว ขณะที่จะต่อยอดด้วยมาตรการรัฐบาลในช่วง 1H24 ทั้ง Easy E-Receipt (ใช้จ่ายไม่เกิน 50,000 บาท และออกใบกำกับออนไลน์ นำไปลดหย่อนภาษีได้) และ Digital Wallet ที่กำลังรอหารือข้อกฎหมายกับกฤษฎีกา

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้

+China: รายงาน Industrial Profits (YTD) เดือน พ.ย. Consensus คาดว่าปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเป็น -6% YoY (Vs เดือน ต.ค. -7.8% YoY)

+Japan: Housing Starts เดือน พ.ย. Consensus คาด -4.3% YoY (Vs เดือน ต.ค. -6.3% YoY)

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นบลูชิพที่มีปัจจัยบวกจากการเพิ่มคำนวณใน SET50/SET100 Index งวด 1H24 ที่จะมีผลสัปดาห์หน้า ได้แก่ KCE SISB ICHI

 

Strategic daily picks

KCE    ปิด 55.25 บาท/แนวรับ 53.50 บาท แนวต้าน 57.50 บาท

KCE ได้ถูกเพิ่มคำนวณดัชนี SET50 ในรอบ 1H24 นอกจากนี้ บริษัทคาดรายได้และอัตรากำไรใน 4Q23 ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ราว 3-4% และประมาณ 10% ในปี 2024 โดย HDI จะมีผลงานดีที่สุดด้วยอัตราการเติบโต 25% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดทยอยปรับสูงขึ้นเป็น 26-27% ด้วยแรงหนุนจาก 1) อัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น และ 2) ต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 1.76 พันล้านบาท (-24.26% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 54.77 บาท

 

SISB   ปิด 35.25 บาท/แนวรับ 33.75 บาท แนวต้าน 37.25 บาท

4Q23 คาดมีกำไรสุทธิ 180 ล้านบาท เติบโต 40.2% YoY, 40% QoQ เนื่องจากจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 4,190 คน ใน 4Q23 (3Q23=4,125 คน) และรับรู้รายได้จากการขึ้นค่าเล่าเรียนเต็มไตรมาส ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2024 สูงถึง 30% จากจำนวนนักเรียนใหม่ที่เพิ่มขึ้น 600 คน ทำให้มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 4,700 คน (ปี 2023 ตั้งเป้าที่ 4,100-4,200 คน) ขณะเดียวกัน SISB เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้ถูกเพิ่มคำนวณดัชนี SET100 ในรอบ 1H24 Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 640.29 ล้านบาท (+73.39% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 40.29 บาท

ICHI    ปิด 15.30 บาท/แนวรับ 14.50 บาท แนวต้าน 15.80 บาท

บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2024 ที่ 8.8 พันล้านบาท (+10% YoY) โดยมีแผนว่า 95% ของเป้ารายได้ หรือ 8.4-8.5 พันล้านบาท มาจากโรงผลิตของบริษัท และอีก 5% มาจากการจ้างผลิต (OEM) คาดปีนี้จะมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลน่าสนใจที่ 5-6% (ล่าสุดจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.50 บาท หรือ 3.4%) Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 1.09 พันล้านบาท (+69.41% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 19.28 บาท