วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ติดตามการวินิจฉัยคดีพรรคก้าวไกล

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ติดตามการวินิจฉัยคดีพรรคก้าวไกล

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ นักลงทุนติดตามการประชุม FOMC ของสหรัฐฯ ในวันที่ 30-31 ม.ค. นอกจากนี้นักลงทุนยังติดตามประเด็นทางการเมือง ในวันที่ 31 ม.ค. นี้

ประเด็นศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคดี 'พิธา-ก้าวไกล' หาเสียงแก้ไขมาตรา 112 ล้มล้างการปกครองหรือไม่ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,373.14 จุด -3.14 จุด -0.23% มูลค่าการซื้อขาย 42,492 ลบ.Program Trading -944.79 ลบ. ต่างชาติ -1,396.64 ลบ. TFEX +239 สัญญา ตราสารหนี้ -3,520.53 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 133.86 จุด หรือ +0.35% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลบท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนก่อนรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของ FED และการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงอัลฟาเบทและไมโครซอฟท์
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ +1.35% ปิดที่ 77.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจาก IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลกและสถานการณ์ในตะวันออกกลางมีแนวโน้มตึงเครียดมากขึ้น
+ IMF เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) คาด GDP โลกปีนี้จะขยายตัว 3.1% โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และมาตรการกระตุ้นด้านการคลังของจีน
+ IMF เปิดเผยว่าการใช้นโยบายที่เข้มงวดของธนาคารกลางต่าง ๆ ทำให้เงินเฟ้อลดลงเร็วกว่าคาดในภูมิภาคส่วนใหญ่ และคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
+ ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2564 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
+ สหรัฐเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่อิสราเอลและซาอุดีอาระเบียจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตสู่ระดับปกติ แม้อิสราเอลปฏิเสธแนวคิดการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์
+ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยว่าจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมระหว่าง 1-28 ม.ค. รวมทั้งสิ้น 2,743,147 คน (+40%YoY) สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 132,587 ล้านบาท

ปัจจัยลบ

 

- สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 101,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 9.026 ล้านตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 8.750 ล้านตำแหน่ง
- กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยว่าเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธร่อนหลายลูกบริเวณชายฝั่งตะวันตกของประเทศในการทดสอบยิงขีปนาวุธร่อนจากเรือดำน้ำบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศ
- จีนกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อราดื้อยา แคนดิดา ออริส (Candida auris) ที่มีอันตรายถึงชีวิตจนมีการเรียกร้องให้ทางการจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่าสินเชื่อระบบแบงก์ไทยปี 2566 เติบโตในระดับต่ำ โดยมียอดคงค้างสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศปิดสิ้นปี 2566 ที่ประมาณ 14.8 ล้านล้านบาท เติบโตเพียง 0.2% ชะลอตัวจากปี 2565 ที่เติบโต 2.7% ซึ่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวที่ไม่ต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในวันนี้คือ การวินิจฉัยคดีของพรรคก้าวไกล กรณีหาเสียงแก้ไขมาตรา 112 ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ กรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,365-1,380 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• Easy E-Receipt : BJC CPALL CPAXT COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK
• หุ้นเด่น IAA : AOT CPALL CPN GPSC
• หุ้นที่คาดว่างบจะออกมาดี : SPA AUCT PLANB PRM
• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

ADVICE - บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน)
SET / SERVICE (ราคา IPO 3.24 บาท)
ราคาเหมาะสม consensus 6.50-7.15 บาท

• ADVICE จำหน่ายปลีก-ส่งสินค้าไอที เช่น คอมพิวเตอร์ประกอบ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป และอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมถึงสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ผ่านช่องทางสาขาและช่องทางออนไลน์ และให้บริการหลังการขายที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร

•บริษัทมีรายได้ปี 63-65 และงวด 9M66 เท่ากับ 12,541 ลบ. 14,306 ลบ. 14,388 ลบ. และ 10,337 ลบ.(-8% YoY) ตามลำดับ โดยหลักเป็นการลดลงของรายได้จากการขายสินค้ากลุ่มคอมพิวเตอร์ประกอบ (D.I.Y) และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค โดยมีสาเหตุหลักจากภาพรวมตลาดสินค้าไอทีที่ชะลอตัวลง เนื่องจากความต้องการสินค้าดังกล่าวมีสูงมากในปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์ COVID-19 ที่ผู้บริโภคซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากเพื่อรองรับการเรียนและการทำงานในรูปแบบทางไกล ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ถึงรอบการเปลี่ยนสินค้า ผู้บริโภคจึงยังไม่ซื้อสินค้าเพิ่มเติม รายงานผลประกอบการ ปี 63-65 และงวด 9M66 มีกำไรสุทธิที่ 234 ลบ. 430 ลบ. 206 ลบ.และ 137 ลบ.(-3%YoY) ตามลำดับ

•จำนวนหุ้น IPO ไม่เกิน 170.00 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 27.42% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้ 0.5 บาทต่อหุ้น โดยราคา IPO คิดเป็น historical P/E ที่ประมาณ 10.00 เท่า คิดเทียบกับ P/E บริษัทที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน ได้แก่ COM7 18.6x , SIS 12.4x , SVOA 13.2x และ SYNEX 15.1x

หุ้นมีข่าว

PTTEP (Bloomberg Consensus 176 บาท) รายงานกำไร 4Q66 ที่ 1.83 หมื่นลบ.ดีกว่าที่เราคาด 7.6% และเติบโต 17%YoY และ 1%QoQ เนื่องจาก โดยปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ 475KBOED เพิ่มขึ้น 2%QoQ แต่ลดลง 5%YoY เนื่องจากโครงการ G2/61 (แหล่งบงกช) ไม่มี Shutdown เหมือนใน 3Q66 ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 48.41$/bbl ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลง3.3%QoQ สู่ 83.75 $/bbl ขณะที่ราคาขายก๊าซฯ ปรับตัวขึ้นราว 1.5%QoQ สู่ 5.85$/MMBTU จากการปรับราคาขายของโครงการ Contract 4 และ JDA ขณะที่คาดว่าต้นทุนการผลิตจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยสู่ 28.87$/bbl เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินการลดลงจากการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามมีค่าใช้จ่ายพิเศษรวมราว 3.1 พันลบ. จากด้อยค่าในโครงการ Mozambique เป็นหลัก

- ความเห็น มุมมอง Neutral ต่อผลประกอบการ 1Q67 ที่คาดว่าการผลิตจะทรงตัวที่ 473 KBD แต่ราคาขายก๊าซฯ จะปรับตัวลง 1%QoQ สู่ 5.86$/MMBTU ขณะที่ต้นทุนการผลิตทรงตัวใกล้ 29$/bbl อย่างไรก็ตามมีประกาศปันผลอีก 5.25 บาทต่อหุ้น (ส.ค.66 จ่ายไปแล้ว 4.25 บาทต่อหุ้น) คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 6.5% ต่อปี สูงกว่าอุตสาหกรรมที่ 4.6% จึงแนะนำ“ซื้อรับปันผล”

(+) ASAP (Bloomberg consensus - บาท) รับอานิสงส์ฟรีวีซ่าไทย-จีนถาวร ดีเดย์เริ่ม 1 มีนาคมนี้ บิ๊ก "ทรงวิทย์" ชี้หนุนดีมานด์เช่ารถทะลัก พร้อมใส่เกียร์เร่งเดินหน้าส่งมอบอีวี "ฉางอัน" เต็มพิกัด หลังช่วงที่ผ่านมาส่งไปแล้วมากกว่า 1,000 คัน แถมปักหมุดปี 2567 รายได้ราว 3 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SAMART (Bloomberg consensus - บาท) ซุ่มปั้นโมเดลธุรกิจใหม่ เสริมพอร์ตรายได้ประจำเพิ่ม คาดชัดเจนช่วงกลางปีนี้ แถมเดินหน้าสอยของใหม่ อัพ Backlog เพิ่ม จากเดิม 1.5 หมื่นล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ 6 พันล้านบาท พร้อมปักธงปี 2567 กำไรนิวไฮในรอบ 8 ปี โครงการเรียงคิวเพียบ-ไร้ตั้งสำรองก้อนโต ส่วนรายได้ทั้งปีมองไว้ราว 1.3 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TQR (Bloomberg consensus - บาท) กางแผนธุรกิจปี 2567 เน้นธุรกิจประกันภัยต่อรูปแบบใหม่ ทั้งประกันรถยนต์ EV-ประกันภัยไซเบอร์-ประกันด้าน ESG ฟากบิ๊กบอส "ชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์" เดินหน้าพัฒนาประกันภัยต่อ Alternative กับ TQM ALPHA มองโอกาสประกันภัยใน Digital Asset เพิ่ม ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ พร้อมเดินหน้าทำ M&A สร้าง New S-Curve (ที่มา ทันหุ้น)