วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ GLOBAL ภาวะตลาดอ่อนแอในช่วงต้นปี
ถึงแม้ว่ายอดขาย same store sales ของ GLOBAL จะหดตัวลง 12.3% ใน 4Q66 (ทำให้ SSS ปี 2566 ติดลบที่ -10.8%) แต่โมเมนตัมของยอดขายเริ่มดีขึ้น MoM ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2567
โดย SSS ในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ลดลงประมาณ 7-8% (อัตราการหดตัวดีขึ้น MoM) ทั้งนี้ เนื่องจากอุปสงค์มีแนวโน้มจะอ่อนแอ (จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร รายได้ภาคเกษตรของไทยในเดือนมกราคม 2567 ลดลงอีก 1% YoY หลังจากที่ลดลง 2% YoY ในปี 2566) ดังนั้น SSS จึงอาจจะหดตัวในระดับเลขตัวเดียวกลาง ๆ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เราคาดว่า SSS น่าจะดีขึ้นในไตรมาสต่อ ๆ ไป ตามอุปสงค์ที่ฟื้นตัวขึ้นจากการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล ทั้งนี้ ยอดเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม ณ เดือน มีนาคม 2567 อยู่ที่ 11.8% ของงบลงทุนรวม ซึ่งน่าจะเป็นเพราะความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล
อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากการใช้กลยุทธ์ house brand
อัตรากำไรขั้นต้นของ GLOBAL ในปี 2566 ลดลง 20bps YoY มาอยู่ที่ 25.6% เนื่องจากราคาเหล็กลดลง เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้น จากการใช้กลยุทธ์ house brand และ การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นใน 1Q24 อาจจะลดลง QoQ เพราะ product mix (น่าจะค่อนไปทางวัสดุก่อสร้างตามปัจจัยฤดูกาล) แต่ยังอาจจะเพิ่มขึ้น YoY
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2567 ลง
เราปรับสมมติฐานในการทำประมาณการกำไรปี 2567 ดังนี้ i) same store sales ii) อัตรากำไรขั้นต้น iii) การขยายสาขา และ iv) สัดส่วน SG&A ต่อยอดขาย (Figure 4) ซึ่งทำให้ประมาณการกำไรปี 2567F ของเราลดลงจากเดิม 2% โดยเราคาดว่ากำไรสุทธิของ GLOBAL ในปี 2567F จะโต 9% และ ปี 2568F จะโต 6%
Valuation & action
เราปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 จากเดิม 17.20 บาท เหลือ 16.20 บาท อิงจาก PER ที่ 29.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่าง GLOBAL กับคู่แข่งในประเทศ -0.5 S.D.) เพื่อสะท้อนถึง i) การปรับประมาณการกำไรและ ii) การจ่ายหุ้นปันผล ทั้งนี้ เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” GLOBAL
Risks
เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาได้น้อยกว่าที่วางแผนเอาไว้, ราคาพืชผลอ่อนแอ, ภัยธรรมชาติ, สินค้าค้างสต็อกเป็นจำนวนมาก
