วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ LH ประมาณการ 1Q67F: คาดพรีเซลและกำไรเพิ่มขึ้น YoY
ผู้บริหารของ LH แนะว่าพรีเซลใน 1Q67 น่าจะอยู่ในช่วง 5.6-5.8 พันลบ. เพิ่มจาก 4.8 พันลบ.ใน 1Q66 หลัก ๆ มาจากการเปิดโครงการใหม่ในระดับบนมูลค่าโครงการ 6.5 พันลบ. ที่ นันทวัน บางนา กม.15 (ขายได้แล้ว 10%) ประสบความสำเร็จด้วยดี
แต่อย่างไรก็ตาม พรีเซลดังกล่างยังต่ำกว่าเป้าหมายใน 1Q67 อยู่ที่ 6 พันลบ. เพราะว่ามีการยกเลิกการจองอยู่บ้างราว 400 ลบ. จากโครงการวีเว่ กรุงเทพกรีฑา หากนับจากยอดรวมพรีเซลใน 1Q67 แล้ว โครงการแนวราบมีพรีเซลเพิ่มขึ้นเกือบ 5 พันลบ. ส่วนพรีเซลของโครงการคอนโด ฯ อยู่ราว 700-800 ลบ. ทั้งนี้ ฐานพรีเซลใน 4Q66 สูงอยู่ที่ 8.6 พันลบ. จากการเปิด
โครงการคอนโดฯ ระดับบนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่โครงการ “วัน เวลา ” มูลค่าโครงการ 1.5 หมื่นลบ.
คาดกำไรใน 1Q67F เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY
เราคาดรายได้จากการขายบ้านทรงตัวอยู่ที่ 4.8 พันลบ. กล่าวเป็นนัยว่าอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะต่ำกว่า 30%ขณะที่ พรีเซลส่วนใหญ่ของโครงการนันทวัน บางนา กม.15 ยังคงต้องใช้เวลาในการก่อสร้างให้เสร็จสมบูรณ์และพร้อมโอน ดังนั้น เราคาดรายได้จะเข้ามาตั้งแต่ 2Q67 แต่ทว่า รายได้จากธุรกิจโรงแรม/ธุรกิจให้เช่าและบริการ(1/3 ของรายได้รวม) อาจเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำ YoY จากภาคการท่องเที่ยวแข็งแกร่ง นอกจากนี้ เราคาดส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมจะเติบโตเป็นเลขสูงหลักเดียว โดยรวมแล้วกำไรสุทธิน่าจะอยู่ที่ 1.45 พันลบ. (+7% YoY แต่ -60% QoQ) จากฐานสูงที่ได้รวมกำไรมูลค่า 2 พันลบ.
จากการขายสินทรัพย์ไปใน 4Q66 (Figure 1)
โมเมนตัมการเติบโตดีขึ้นใน 2H67
แม้ว่า พรีเซล/กำไรใน 1Q67F อาจคิดเป็น 23%/18% จากประมาณการเราเต็มปีนี้ เรายังคาดว่าโมเมนตัมการเติบโตดีขึ้นใน 2H67 เพราะ LH ตั้งเป้าการเปิดโครงการใหม่ ๆ อีกราว 1.1 หมื่นลบ. ใน 1H67 และเกือบ 2.0 หมื่นลบ.ใน 2H67 อีกทั้งได้วางแผนการตลาดใหม่ที่จะดันยอดขายในโครงการวันเวลาคอนโดฯ ราวกลางปี 2567 โดย catalyst ดังกล่าวจะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจหลักจากการขายบ้านได้ดี นอกจากนั้นใน 4Q67 ทาง LH จะขายห้างสรรพสินค้า Terminal 21 พัทยาเข้ากอง REIT เพื่อเพิ่มกระแสเงินสดและมีกำไรจากการขายครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่อยู่อาศัยเพื่อขายของ LH ราว 22% มีราคาต่ำกว่า 7 ลบ./ยูนิต ซึ่งมีสิทธิในการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหา ฯ จากเดิม 2%/1% เหลือ 0.01% นั้น LH อาจไม่ได้รับประโยชน์ในลำดับต้น ๆ จากมาตรการกระตุ้นอสังหา ฯ ล่าสุดของภาครัฐโดยที่อยู่อาศัยเพื่อขายของ LH ส่วนใหญตั้งราคาพรีเมี่ยมให้กลุ่มผู้ซื้อระดับบนและหรูหรา
Valuation & Action
จากฐานต่ำในปีที่แล้ว เราคาดกำไรฟื้นตัวกลับพอสมควรในปีนี้จากรายได้ที่แข็งแกร่งขึ้นและ margin ดีขึ้น โดยเราคงประมาณการกำไรปี 2567F ที่ 8 พันลบ. (+8% YoY) และราคาเป้าหมาย SoTP เดิมที่ 8.70 บาท (จากธุรกิจหลักที่ 3.8 บาท อิงจาก PE ที 16.0x จากประเด็นความเป็นไปได้ในการฟื้นตัวชัดเจนของธุรกิจขายที่อยู่อาศัยและพอร์ตการลงทุนที่ 4.9 บาท) (Figure 7) ทั้งนี้ LH ได้ประกาศจ่าย DPS งวด 2H66 ที่ 0.30 บาท (ขึ้น XD วันที่ 3 พ.ค.67)
Risks
ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ โอกาสมีนโยบายกระตุ้นจากภาครัฐ การให้สินเชื่อมีความเข้มงวดมากขึ้นท่ามกลางภาวะหนี้สินภาคครัวเรือนสูงยืดเยื้อรวมทั้ง การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ