วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ AAV ประมาณการ 1Q67F: คาดว่าจะมีกำไรจากธุรกิจหลัก
เราคาดว่าผลประกอบการของ AAV จะยังแข็งแกร่งใน 1Q67F โดยคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 1.05 พันล้านบาท (ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ YoY, ทรงตัว QoQ) สะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศในไทย
แม้ว่าราคาเชื้อเพลิงในไตรมาสแรกจะสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า AAV จะมีผลขาดทุนสุทธิ 1.05 พันล้านบาท แย่ลงทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากคาดว่าจะมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 2.1 พันล้านบาท (เงินบาทอ่อนค่าลง 2 บาท/ดอลลาร์ฯ) ทั้งนี้ ใน1Q67 TAA ได้เปิดเส้นทางบินใหม่จากหาดใหญ่ไปสิงคโปร์ และจากดอนเมืองไป Kaosiung (ไต้หวัน)
ซึ่งหลังจากเริ่มเปิดให้มีการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยและจีนโดยไม่ต้องขอวีซ่า ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารบนเที่ยวบินเหล่านี้ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 51% ของระดับก่อน COVID ระบาด ทั้งนี้ สถิติการดำเนินงานเบื้องต้นของบริษัทใน 1Q67 จำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 5.45 ล้านคน (+19.2 YoY, +7.1% QoQ) และจำนวนเที่ยวบินอยู่ที่ 32,092 เที่ยว (+17.9% YoY, +3.5% QoQ) ในขณะที่ Load factor จากเครื่องบินที่มีการใช้งานอยู่ที่ 93% (ดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ) โดยคาดว่ายอดขายของ AAV ใน 1Q67F จะอยู่ที่ 1.37 หมื่นล้านบาท (+51.3% YoY, +10.3% QoQ) ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 18.5% (จาก +13.0% ใน 1Q66 และ +17.8 ใน 4Q66)
ยังคงอยู่ในธีมการ Turnaround ในช่วงปี 2567-2568F
เราคาดว่ากำไรปกติของ AAV จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.58 พันล้านบาท (+238.7% YoY) ในปี 2567F และเพิ่มขึ้น เป็น 1.81 พันล้านบาท (+14.5% YoY) ในปี 2568F อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจจะมีผลขาดทุนสุทธิได้ หากค่าเงินบาทอ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลกระทบกับบริษัทจากมาตรฐานการบันทึกบัญชี
การแข่งขันเบาลงหลัง COVID
นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยใน 1Q67 มีจำนวนสูงถึง 9.4 ล้านคน (+43.5% YoY) โดยกลุ่มใหญ่ที่สุดมาจากจีน (1.8 ล้านคน), มาเลเซีย (1.2 ล้านคน) และรัสเซีย (0.6 ล้านคน) ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองกับอุปสงค์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ TAA จึงยังคงเดินหน้าแผนขยายฝูงบินจาก 56 ลำเป็น 60 ลำในปีนี้ นอกจากนี้ เรายังคาดว่าการท่องเที่ยวของไทยจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การแข่งขันในอุตสาหกรรมการบินดูเบาลงกว่าช่วงก่อน COVID ระบาด หลังจากที่ capacity ของฝูงบินในหลาย ๆ สายการบินถูกจำกัดมาหลายปี
Valuation & Action
เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 3.00 บาท (อิงจาก EV/EBITDA ที่ 10x)
Risks
ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้น, COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจดถอย