วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.โกลเบล็ก ลุ้นขึ้นต่อ

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.โกลเบล็ก ลุ้นขึ้นต่อ

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ในแดนบวก ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้น มีแรงซื้อมากในหุ้นกลุ่มพลังงาน การแพทย์ และอิเล็กทรอนิกส์ โดยกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อ เดือนเม.ย.67 +0.19%YoY จากตลาดคาด -0.1 ถึง +0.1%

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,369.92 จุด +6.67 จุด +0.49% มูลค่าการซื้อขาย 37,512 ลบ. Program Trading -541.76 ลบ. ต่างชาติ -1,498.11 ลบ. TFEX +23,927 สัญญา ตราสารหนี้ +2,143.03 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 176.59 จุด หรือ +0.46% ได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 175,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 238,000 ตำแหน่ง
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ หรือ +0.47% ปิดที่ 78.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานข่าวเกี่ยวกับการทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
+ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนกล่าวว่า จีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับสหภาพยุโรป ในการสนับสนุนการประชุมสันติภาพระหว่างประเทศที่มีความครอบคลุม เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
+ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติจีนรายงานว่า หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองข้ามพรมแดนทั่วจีนรับรองการเดินทางขาเข้า-ขาออก ช่วงหยุดยาววันแรงงาน (1-5 พ.ค.) ปีนี้เกือบ 8.47 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 35.1%YoY ซึ่งส่งสัญญาณว่าการบริโภคเริ่มฟื้นตัวแล้ว
+ ผลการประชุมหารือระหว่างบริษัทการท่องเที่ยวของจีนและไทยสรุปว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเยือนไทยในปี 2567 สูงเกิน 2 ล้านคนแล้ว เมื่อนับถึงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้จีนกลายเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขนาดใหญ่ที่สุดของไทย

ปัจจัยลบ

 

 

+/- จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการชะลอตัวลงในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 52.5 จากระดับ 52.7 ในเดือนมี.ค. แต่ดัชนีสูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการมีการขยายตัว และนับเป็นเดือนที่ 16 ติดต่อกันที่ดัชนีอยู่เหนือระดับดังกล่าว
- กระทรวงกลาโหมไต้หวันตรวจพบการบุกรุกจากอากาศยานของกองทัพจีนข้ามช่องแคบไต้หวัน ขณะที่จีนระบุว่า กองทัพเรือกำลังปฏิบัติการซ้อมรบด้วยเรือยกพลขึ้นบก
- รัสเซียส่งออกปิโตรเลียมกลั่นให้กับเกาหลีเหนือมากกว่า 165,000 บาร์เรลในเดือนมี.ค. ซึ่งละเมิดมติคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ (UN)
- แหล่งข่าวชาวปาเลสไตน์เปิดเผยว่ากองทัพอิสราเอลได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศบริเวณตะวันออกของเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา
- ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจัดเก็บรายได้ของคลังในครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 67 จัดเก็บได้น้อยกว่าเป้าหมายกว่า 27,000 ล้านบาทเป็นผลจากการลดอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้มันดีเซลและเบนซิน

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,360-1,375 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   

• หุ้นได้ประโยชน์จากอากาศร้อนจัด : TACC SAPPE ICHI PLUS COCOCO MALEE TIPCO
• หุ้นเด่น IAA : AOT CK CPALL MINT
• Digital Wallet : CPALL BJC CRC DOHOME GLOBAL HMPRO
• สินค้าส่งออกเดือน มี.ค.ที่ยังเติบโต : STA NER TRUBB TEGH XO ITC AAI
• ไมโครซอฟท์ ลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ : INSET SYMC INET ITEL TKC

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

GPSC "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 60 บาท
คาดกำไร 1Q67 เติบโต QoQ แต่หดตัว YoY

•คาดกำไร 1Q67 ที่ 875 ลบ. เติบโต 83%QoQ แต่หดตัว 22%YoY โดยโรงไฟฟ้า SPP ปริมาณการขายไฟฟ้าเติบโตขึ้นตามความต้องการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและความต้องการใช้ไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมที่เติบโตขึ้น ขณะที่ราคาขายต่อหน่วยปรับตัวขึ้นตามค่า Ft ที่ปรับตัวขึ้นจาก 20 สตางค์สู่ 39.72 สตางค์ อย่างไรก็ตามต้นทุนถ่านหินปรับตัวลง 7% QoQ เหลือ 140-143 $/ton และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ปรับตัวลงตามปัจจัยฤดูกาลเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการเพิ่มเติม นอกจากนี้ส่วนแบ่งกำไรลดลงเนื่องจากคาดว่าโรงไฟฟ้า ไซยะบุรีจะพลิกเป็นขาดทุนราว 100 ลบ. เนื่องจากเข้าสู่ Low Season

•แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 60 บาท : ในการประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Prospective PER โดยใช้ค่าเฉลี่ย PE Ratio ย้อนหลัง 3 ปีปรับลดด้วย 0.6 S.D. ได้ค่าเฉลี่ย 32 เท่า ทั้งนี้เราคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 2567 ราว 1.87 บาทต่อหุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปี 2567 อยู่ที่ราว 60 บาทต่อหุ้น ซึ่งยังมี upside ได้อีก เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) ERW (Bloomberg consensus 6.05 บาท) เดินหน้าเพิ่มราคา มั่นใจรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักเติบโต มั่นใจทั้งปี RevPAR เติบโต 15% ตามเป้า ชูไตรมาส 1/2567 RevPAR เติบโต 10% และอัตราการเข้าพักทรงตัวสูงที่ 85% ขณะที่ช่วงโค้งสองโรงแรมกลุ่ม HOP INN เข้ามาหนุน เปิดต่อ ศรีราชา ราชบุรี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ITEL (Bloomberg consensus 3.50 บาท) ชี้ดาต้าเซ็นเตอร์ไทยบูม หลังไมโครซอฟท์เตรียมลงทุนไทย เป็นโอกาสเชื่อมต่อกับดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศ รองรับการใช้งาน คาดเห็นแผนการลงทุนชัดเจนปีนี้ มองความต้องการดาต้าเซ็นเตอร์เติบโตต่อเนื่อง เผยรัฐเดินหน้าเบิกจ่ายงบ ดันโครงการประมูลจ่อคิวเพียบ คาดยื่นประมูลกว่า 3 พันล้านบาท ลุย Health Technology พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 2567 เติบโต 15-20% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ACE (Bloomberg consensus 3.60 บาท) พร้อมเข้าร่วมประมูลพลังงานทดแทน 3,600 เมกะวัตต์ แย้มมีโครงการเดิมที่มีศักยภาพร่วมประมูลกว่า 200 เมกะวัตต์ เดินหน้าจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตามแผนกว่า 10 โครงการ ปี 2568 มองโอกาสโครงการพลังงานในประเทศเป็นหลัก ชูโอกาสขาย REC (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SAV (Bloomberg consensus 24.10 บาท) รับทรัพย์อู้ฟู่ อุตสาหกรรมการบินเติบโตแรง จำนวนไฟลต์กัมพูชาโตกว่า 20% แถมท่องเที่ยว ไทย เวียดนาม และกัมพูชา เติบโตแรง หลังจำนวนนักท่องเที่ยวมาไทยช่วงไตรมาส 1 พุ่งกว่า 10 ล้านคน เที่ยวบินคึกคัก (ที่มา ทันหุ้น)