วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway
วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในช่วงแคบ +,- ราว 3 จุด จากตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ นักลงทุนติดตามผลการดำเนินงานที่ทยอยประกาศ โดยมีแรงขายในหุ้นกลุ่มค้าปลีก และอสังหาฯ
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,373.33 จุด -3.04 จุด -0.22% มูลค่าการซื้อขาย 42,251 ลบ.Program Trading +2,643.28 ลบ. ต่างชาติ -1,479.22 ลบ. TFEX -35,976 สัญญา ตราสารหนี้ +3,356.28 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 172.13 จุด หรือ +0.44% ปิดที่เหนือระดับ 39,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ +0.78% ปิดที่ 78.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้ราคาน้ำมันลดช่วงบวก
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 67% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 54% ในการสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
+ อิสราเอลประกาศเปิดจุดผ่านแดนเคเรม ชาโลม เพื่อให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรรมเข้าสู่ฉนวนกาซา
+ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) เตรียมเดินทางเข้าพบนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เพื่อหารือเกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
+ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) หารือกระทรวงการคลังปรับเงื่อนไขกองทุนประหยัดภาษี SSF ให้ใกล้เคียง LTF โดยสนับสนุนยกเลิก SSF เปลี่ยนมาเป็น LTF
ปัจจัยลบ
- สหรัฐเพิกถอนใบอนุญาตบางส่วนที่อนุญาตให้บริษัทต่าง ๆ จัดส่งสินค้าต่าง เช่น ชิป ให้กับหัวเว่ย เทคโนโลยี่ บริษัทผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมจากจีน
- บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จากัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า ข้อมูลจากเครดิตบูโรในช่วง 1Q67 พบว่าตั้งแต่ 1 ม.ค.67 ที่มีการปรับการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเพิ่มจาก 5% มาอยู่ที่ 8% ต่อปี ทำให้การจ่ายหนี้มีปัญหา มีหนี้ค้างชำระ 30-90 วันเพิ่มขึ้น
- ที่ประชุมกกร.ปรับประมาณการ GDP ปี 2567 เป็น 2.2-2.7% ลดลงจากเดิมคาดไว้ที่ 2.8-3.3% เนื่องจากคาดว่าการส่งออกมีแนวโน้มโตได้เพียง 0.5-1.5% ลดลงจากเดิมคาดไว้ที่ 2-3% ตามทิศทางการค้าโลกที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งด้าน ภูมิรัฐศาสตร์
- ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ลดลงจากการสำรวจ ครั้งก่อน จากปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน ได้แก่ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ เงินเฟ้อ และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง ยังขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด นักลงทุนยังติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะสิ้นสุดในสัปดาห์หน้าอย่างใกล้ชิด มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,365-1,380 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นได้ประโยชน์จากอากาศร้อนจัด : TACC SAPPE ICHI PLUS COCOCO MALEE TIPCO
• หุ้นเด่น IAA : AOT CK CPALL MINT
• Digital Wallet : CPALL BJC CRC DOHOME GLOBAL HMPRO
• สินค้าส่งออกเดือน มี.ค.ที่ยังเติบโต : STA NER TRUBB TEGH XO ITC AAI
• ไมโครซอฟท์ ลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ : INSET SYMC INET ITEL TKC
หุ้นรายงานพิเศษ
KBANK (Bloomberg Consensus 145 บาท)
กำไร 1Q67 +26%YoY +44%/QoQ
•กำไรงวด 1Q67 เท่ากับ 13,486 ล้านบาท +26%YoY +44%QoQ เนื่องจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) -8%YoY -14%QoQ ขณะที่ NIM ขยับดีขึ้นสู่ 3.76% จาก 3.66% ในปี 66 เป็นทิศทางที่ดีกว่าเป้าในการรักษาระดับใกล้เคียงเดิม
•%NPL ณ ปลายงวด 1Q67 เท่ากับ 3.19% ไม่เปลี่ยนแปลงจากปลายปี 66 ทั้งนี้ Credit Cost ลดเหลือ 189 bps จาก 208 bps ในปี 66 แต่ยังใกล้กับกรอบบนของเป้าหมายที่ระดับ 175 – 198 bps ทั้งนี้อัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อ NPL (Coverage Ratio) เท่ากับ 150% ใกล้เคียงกับปลายปี 66 ที่ระดับ 152%
•ปลายงวด 1Q67 แม้สินเชื่อโดยรวมหดตัว 1.07%YTD ห่างไกลเป้าการเติบโตของสินเชื่อ 3-5% แต่สินเชื่อปล่อยใหม่ยังเติบโตดีและเป็นไปตามกลยุทธ์มุ่งเน้นสินเชื่อคุณภาพ
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานในปีนี้ที่คาดจะเห็นการตั้งสำรองหนี้สูญลดลงและความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยง NPL ที่ทำได้ดี Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 67 เฉลี่ย 44,417 ล้านบาท +5% ราคาหุ้นซื้อขายที่ PBV ที่ระดับ 0.59x ต่ำกว่ากลุ่มที่ระดับ 0.61x ขณะที่ราคาหุ้นลดลง 2%YTD ยังมี upside เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) PTTEP (Bloomberg consensus 180.00 บาท) คาดปริมาณขายไตรมาส 2/2567 ที่ 5.14 แสนบาร์เรลต่อวัน รับรู้โครงการ จี 1/61 (เอราวัณ) เต็มไตรมาส ทั้งปีคาดที่ 5.09 แสนบาร์เรลต่อวัน ประเมินราคาน้ำมันดิบทั้งปีที่ 70-90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล คงแผนลงทุน 5 ปี ที่ 36,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปีนี้วางงบประมาณ 6,700 ล้านดอลลาร์ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) IP (Bloomberg consensus - บาท) ปักธงเปิดสาขา Lab Pharmacy สิ้นปี 2567 ครบ 40 แห่ง จากปัจจุบันที่ 35 แห่ง ฟากผู้บริหาร เดินหน้าพัฒนาสินค้านวัตกรรมยาตา นวัตกรรมรักษา โรคพาร์กินสันด้วย Gene Therapy คาดหนุนรายได้ปี 2570 โตก้าวกระโดด ส่วนปีนี้คาดผลงานโต 30-35% แตะ 2.4 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SCGP (Bloomberg consensus 40.00 บาท) มองช่วงที่เหลือของปี 2567 ตลาดกลุ่มประเทศอาเซียนยังเติบโต ความต้องการผู้บริโภคเริ่มฟื้นต่อเนื่อง ปักธงรายได้ปีนี้โต 150,000 ล้านบาท กำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์แตะ 90% ช่วยดันวอลุ่มการขายของบริษัทเพิ่ม แย้มมีร่วมทุน 2-3 ดีลปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PJW (Bloomberg consensus - บาท) บอสใหญ่ "วิวรรธน์ เหมมณฑารพ" มองธุรกิจ ครึ่งปีหลัง 2567 โดดเด่น เตรียมขายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ปลายปีนี้ หลังได้อนุมัติ อย. ด้านธุรกิจ Master Laundry ปีนี้คาดยอดขายโต 50% ส่วนธุรกิจยานยนต์ บรรจุภัณฑ์ ยังมีคำสั่งซื้อต่อเนื่อง ตุนแบ็กล็อกยาวถึงปี 2568 (ที่มา ทันหุ้น)