วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เงินมีโอกาสไหลเข้าตราสารหนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เราให้จับตา

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เงินมีโอกาสไหลเข้าตราสารหนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เราให้จับตา

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ บวกกับตราสารหนี้ อาจกระทบระยะสั้นต่อหุ้น การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ วานนี้ ตัวเลขส่วนใหญ่ เป็นการให้ภาพเศรษฐกิจที่ลดความร้อนแรงลง อาทิ GDP ไตรมาส 1/67 ที่ 1.3% QoQ (คาดการณ์ที่ +1.3% และไตรมาสก่อนหน้าที่ +1.6% QoQ),

การบริโภคส่วนบุคคล ไตรมาส 1/67 ที่ +2.0% QoQ (คาดการณ์ +2.2% QoQ และไตรมาสก่อนหน้า +2.5% QoQ), การขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (สัปดาห์ 25 พ.ค.) 219,000 ตำแหน่ง (คาดการณ์ 217,000 และ เม.ย.ที่ 215,000 ตำแหน่ง), ยอดบ้านรอการขาย (Pending Home Sales) เม.ย. -7.7% MoM (คาดการณ์ -1.0% MoM และมี.ค. +3.4% MoM) แม้การลดความร้อนแรงของตัวเลขเศรษฐกิจจะบวกต่อมุมมองการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในระยะ 2-3 เดือนข้างหน้า แต่ในระยะสั้นอาจจะไม่ได้ส่งผลบวกต่อหุ้น ขณะเดียวกันโอกาสลดดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อาจทำให้มีการขายทำกำไรระยะสั้นในหุ้นและไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ได้ เมื่อดูปฏิกิริยาจาก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง ปิดที่ 104.744 (จากวานนี้ 105.117) ขณะที่ทีผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีสหรัฐฯ ปรับลดลงเหลือ 4.550% (จากวานนี้ที่ 4.616%)

ภาพทางเทคนิคของตลาดอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงมุมมอง Valuation หุ้นไทยแข็งแกร่งแถว 1,300 จุด และการปรับลงในช่วง มิ.ย.เป็นโอกาสซื้อ  แม้วานนี้ตลาดฟื้นตัวเล็กน้อย แต่การหลุดแนวรับระยะ 6 เดือน ที่ 1,355 จุด ทำให้แนวโน้มระยะสั้นเป็นลบมากขึ้น นอกจากนี้การพิจารณาองค์ประกอบของตลาด (Market breath) จะเห็นการอ่อนกำลังขององค์ประกอบในหุ้นรายตัว เมื่อพิจารณาจาก 1) จำนวนหุ้นที่ยืนเหนือเส้นค้าเฉลี่ย 20 วัน ที่ลดลงต่อเนื่อง โดย SET50 เหลือ 15 ตัว (จาก 33 ตัว เมื่อ 17 พค) 2) สัดส่วนหุ้นที่มีโมเมนตัมและทิศทางเชิงบวกใน SET50 ที่เหลือเพียง 18% ขณะที่โมเมนตัมและทิศทางเชิงลบ 50% 3) จำนวนหุ้นใน SET50 ที่ใกล้ระดับสูงสุดเทียบใกล้ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ (ห่างไม่เกิน 20%) อยู่ที่ 3 ตัว เทียบกับ 20 ตัว

 

ปัจจัยข้างต้นมีโอกาสฉุดโมเมนตัมของ SET Index ลง อย่างไรก็ตาม Valuation ของตลาดหุ้นไทยค่อนข้างแข็งแกร่งที่ 1,300-1,500 จุด การปรับลดลงใกล้กรอบล่างดังกล่าวในช่วง มิ.ย. จากความกังวลปัจจัยภายนอก และการเมืองในประเทศ เรามองเป็นโอกาสในการซื้อ  
 

ภาพรวมกลยุทธ์ ปัจจัยกังวลต่างๆ รวมทั้งการลดน้ำหนักของ MSCI วันนี้ทำให้คาดหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งลง 1,300-1,330 จุด ซึ่งจะเป็นโอกาสซื้อที่ดีที่สุดในรอบ 12-18 เดือน และด้วย Valuation ของ SET ที่แข็งแกร่งในระดับ 1,300 จุด เราประเมินความเสี่ยงของการลงแรงถึงระดับ 1,100-1,200 จุด อยู่ในระดับต่ำ 

หุ้นแนะนำ: SCGP*, STP*, BSRC*, BBGI*

แนวรับ: 1,300-1,330 / แนวต้าน : 1,355 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ    

วันนี้ MSCI Rebalancing  - หุ้นเข้า-ออก MSCI Rebalancing รอบใหม่ BTS-LH-MTC หลุด Global Standard ส่วน JTS ติดโผลกลุ่มหุ้น Small Cap ในขณะที่หุ้นที่ถูกนำออกมี 10 บริษัท ประกอบด้วย KSL-BLAND-DITTO-FORTH-MAJOR-PSL-RS-SGP-SPCG-WHAUP (อินโฟเควสท์) 

บลูมเบิร์กเปิดวิเคราะห์ 'เศรษฐกิจไทยน่าห่วง' หลังการเมืองระส่ำ เพราะ 'ผู้นำมีคดี' - บทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่าย ห่วงเศรษฐกิจไทย หลังส่อแววประเทศไม่มีความมั่นคงทางการเมืองอีกครั้ง เพราะผู้นำอย่างนายกฯเศรษฐา ทวีสิน กำลังเผชิญคดีความ ขณะที่ทักษิณ ชินวัตร และพรรคก้าวไกล ต่างก็เผชิญกับการดำเนินคดีที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน (กรุงเทพธุรกิจ)

คมนาคม ปลื้มเอกชนไทย-เทศ สนใจ Landbridge กว่า 100 ราย คาดเริ่มประกวดราคา Q4/68 

รมว.คลังรับ Climate Change กระทบเศรษฐกิจ หนุนตลาดทุนรุกคาร์บอนเครดิต - จ่อภาษีที่ดินฯเอื้อพื้นที่สีเขียว เตรียมพิจารณามาตรการภาษีลดหย่อนติดตั้ง Solar Cell บนหลังคาบ้าน 
 

ทรัมป์ถูกศาลตัดสินมีความผิดทุกข้อกล่าวหา ในการพิจารณาคดีจ่ายเงินลับ ทรัมป์ถูกตั้งข้อหาในความผิดทางอาญา 34 กระทง จากการปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินค่าปิดปาก 130,000 ดอลลาร์ให้กับสตอร์มี แดเนียลส์ วัย 44 ปี รวมทั้งการจ่ายเงินปิดปากนางแบบเพลย์บอย และคนเฝ้าประตู (ไทยโพสท์)

AWS ลงทุน 1.9 แสนล้านบาท เปิด Region ในไทย เริ่มให้บริการต้นปี 2568 เป้าหมายก็เพื่อรองรับนักพัฒนา สตาร์ตอัป ผู้ประกอบการ หน่วยงานรัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรไม่แสวงผลกําไร ให้เลือกใช้บริการคลาวด์ในศูนย์ข้อมูลที่ตั้งในประเทศไทย (กรุงเทพธุรกิจ)

COCOCO รุกน้ำมันมะพร้าวแพกเกจใหม่ เจาะออนไลน์ - ตปท. ปูทางดันรายได้ในปี 69


ประเด็นติดตาม:   31 พ.ค. CN NBS Manufacturing PMI (May)/ US PCE Price Index (Apr)

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)