วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง MSCI Rebalance มีผลต่อราคาปิดวันนี้
ทางเทคนิค คาด SET Index อ่อนตัว แนวรับ 1,339/1,330 จุด แนวต้าน 1,360/1,366 จุด (EMA 10 วัน) ภาพใหญ่ดัชนีฯ อยู่ในทิศทางขาขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบ Down Channel ที่ 1,404 จุด ส่วนภาพระยะสั้น ผลจากการเกิดรูปแบบขาลง Zig-Zag Down และการทำจุดสูงสุดที่ต่ำลง (Lower High)
ส่งผลให้ดัชนีฯ วันนี้ มีโอกาสปรับตัวลง โดยบริเวณจุดต่ำสุดเดิมที่ 1,339/1,330 จุด เป็นจุดพิจารณาซื้อเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อลุ้นรีบาวนด์
ประเด็น Event สำคัญ วันนี้
TH Opp. Day: GRAMMY APCO MITSIB SYNEX NEO TPIPL VCOM PRINC LALIN ITTHI BA NCH GCAP BAREIT APCS ONEE BANPU K
- MSCI Rebalance งวด 2Q24 เริ่มมีผลบังคับใช้ต่อราคาปิดวันที่ 31 พ.ค. เป็นต้นไป: โดยน้ำหนักตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะปรับลดลง เนื่องจากการถูกถอดหุ้นออกจากการคำนวณมีมากกว่าหุ้นที่ถูกเพิ่มคำนวณ โดย 1) ดัชนี1 Global Standard Indexes มีหุ้นถูกถอด 3 บจ. ได้แก่ LH BTS MTC 2) ดัชนี Global Small Cap Indexes มี 4 บจ. ถูกเพิ่มคำนวณ ได้แก่ LH BTS MTC (ถูกย้ายมาจากดัชนี Global Standard Indexes) และ JTS ส่วนหุ้นถูกถอดออก มี 10 บจ. ได้แก่ BLAND, DITTO, FORTH, KSL, MAJOR, PSL, RS, SGP, SPCG, WHAUP เราคาดว่าแรงขายช่วงวันสุดท้ายของปี จะเพิ่มขึ้นทั้งหุ้นที่ถูกถอดออกจากการคำนวณ และหุ้นบลูชิพขนาดใหญ่ เนื่องจากน้ำหนักลงทุนที่ลดลง
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ:
+CH: รายงานภาคการผลิตและบริการเดือน พ.ค. โดย NBS Consensus คาดปรับขึ้นเล็กน้อย เป็น 50.5/51.5 (Vs เดือน เม.ย. 50.4/51.2) และคาดว่าทางการจีนจะทยอยออกมาตรการเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
+EU: รายงานเงินเฟ้อเดือน พ.ค. (คาดว่าจะมีผลต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการ ECB ก่อนการพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในการประชุม ECB Meeting ในวันที่ 6 มิ.ย.) โดย Consensus คาดว่า ลดลงเป็น +0.1% MoM, +2.5% YoY (Vs เดือน เม.ย. +0.6% MoM, +2.4% YoY) ส่วน Core Inflation เดือน พ.ค. คาดเพิ่มขึ้นเป็น +2.8% YoY (Vs เดือน เม.ย. +2.7% YoY)
-US: รายงานเสถียรภาพเงินเฟ้อ PCE Price เดือน เม.ย. Consensus คาดทรงตัวที่ +0.3% MoM, +2.7% YoY (Vs เดือน มี.ค. +0.3% MoM, +2.7% YoY) เช่นเดียวกันกับ Core PCE เดือน เม.ย. คาดลดลงเป็น +0.3% MoM, +2.8% YoY (Vs เดือน มี.ค. +0.3% MoM, +2.8% YoY) โดยหากออกมาจริง จะทาให้โอกาสลดดอกเบี้ยของเฟด ปรับลดลง เนื่องจากเงินเฟ้อยังไม่ปรับลดลงมายังกรอบเป้าหมายของเฟด
-TH: รายงาน Current Account เดือน เม.ย. คาด -USD0.4bn.(Vs เดือน มี.ค. เกินดุล +USD1.1bn.) และยอดค้าปลีกเดือน มี.ค. คาดดีขึ้นเป็น +4% YoY (Vs เดือน ก.พ. +3.8% YoY)
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ SIRI GLOBAL TCAP
Strategic daily picks
SIRI ปิด 1.62 บาท/แนวรับ 1.55 บาท แนวต้าน 1.70 บาท
ด้วย 66% ของ backlog 1.6 หมื่นล้านบาท ในปัจจุบัน จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2024 ทำให้ประมาณการรายได้จากการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ปี 2024 ของ KTX ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท มียอดขายรองรับแล้ว 38% ส่วนที่เหลือจะเติมเต็มด้วยโครงการพร้อมขาย (8.0 หมื่นล้านบาท) และการเปิดตัวโครงการใหม่อีก 5.2 หมื่นล้านบาท ในช่วงเวลาที่เหลือของปี ทั้งนี้ KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสมระยะ 12 เดือนข้างหน้า ที่ 2.05 บาท
GLOBAL ปิด 16.70 บาท/แนวรับ 15.90 บาท แนวต้าน 17.20 บาท
แนวโน้ม 2Q24 คาดจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 1Q24 หลังภาครัฐมีการอนุมัติงบประมาณออกมาและเริ่มมีการทยอยใช้งบประมาณ ซึ่งคาดจะช่วยสนับสนุนยอดขายต่อสาขา (SSSG) ใน 2Q24 ดีขึ้น โดยบริษัทเริ่มเห็นตัวเลข SSSG ช่วงเดือน เม.ย. 2024 ที่ผ่านมาปรับตัวดีขึ้นเหลือติดลบประมาณ 1% (1Q24=-5%) และคาดอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25-26% (1Q24=25%) ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 2.94 พันล้านบาท (+10.11% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 17.26 บาท
TCAP ปิด 49.00 บาท/แนวรับ 47.00 บาท แนวต้าน 51.00 บาท
TCAP คงเป้าหมายการขยายสินเชื่อ SME ของ T Plus เพิ่มขึ้น 2 พันล้านบาท เป็น ราว 8 พันล้านบาท ในปี 2024 (1Q24=6.3 พันล้านบาท) โดยคาดสินเชื่อจะเร่งตัวขึ้นใน 2H24 จากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวัง เพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกาไรสุทธิปี 2024 ที่ 6.99 พันล้านบาท (+5.82% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 54.82 บาท
