วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี GFC - ซื้อ
เราคงมุมมองบวกต่อ GFC หลังได้ update ข้อมูลกับบริษัท โดยผู้บริหารยังคงเป้าหมายรายได้ปี 24F และเปิด 2 สาขาใหม่ตามแผนต้น 3Q24F
ส่วนประเด็นนโยบายจีนส่งเสริมมีบุตรกับรพ.รัฐบาล ไม่น่ากระทบกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและไม่ต้องการรอคิวเพื่อเข้ารับบริการกับ รพ.รัฐบาล เราคงมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐาน GFC และไม่เห็นปัจจัยลบใหม่ โดยปีนี้คาดกำไรสุทธิ (35%y-y) เติบโตตามการใช้บริการเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา 2 แห่ง และมีโอกาสขยายตลาดลูกค้าต่างชาติ คงคำแนะนำ Buy สำหรับ GFC (TP24F ที่ 12.50)
ประเด็นสำคัญ
1. ผู้บริหารมองว่าข่าวเมืองเซี่ยงไฮ้ออกนโยบายรวมเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ 12 ประเภทในประกันสุขภาพขั้นพื้นฐาน (มีผล 1 มิ.ย.24) เพื่อลดภาระครอบครัวที่ต้องการมีบุตร และเพิ่มอัตราการเกิด เป็นนโยบายส่งเสริมมีบุตรกับรพ.รัฐบาลในท้องถิ่น ซึ่งเหมือนกับนโยบายของเมืองปักกิ่งที่ออกประกาศไปและมีผลบังคับ 15 ก.ค.23 จึงไม่น่ากระทบกลุ่มลูกค้าเป้าหมายบริษัท ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและไม่ต้องการรอคิวเพื่อเข้ารับบริการกับ รพ.รัฐบาล
2. ช่วง 2Q24F สาขาพระราม 3 ให้บริการลูกค้าเฉลี่ย 70-80 case ต่อเดือน (vs 2Q23 เฉลี่ย 60-70 case ต่อเดือน, 1Q24 เฉลี่ย 90-100 case ต่อเดือน)
3. การขยายสาขา 2 แห่ง เป็นไปตามแผน โดยต้น 3Q24F จะเปิดสาขาพระราม 9 และสาขาอุบลราชธานี เพื่อขยายตลาดชาวไทยและต่างชาติ ผู้บริหารมองว่าช่วงแรกการใช้บริการของสาขาพระราม 9 น่าจะมาจากลูกค้าชาวไทยเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยลดความหนาแน่นของการใช้บริการของสาขาพระราม 3 ที่มีอัตราใช้บริการเกือบเต็ม Capacity ที่ราว 90-95 case ต่อเดือน ส่วนการขยายตลาดลูกค้าต่างชาติ ปัจจุบันมีการวางแผนร่วมกับเอเจนซี 1 ราย เพื่อทาตลาดลูกค้าชาวจีน ส่วนสาขาอุบลฯ จะช่วยขยายตลาดทั้งในประเทศ และต่างชาติ (ลาว+กัมพูชา)
4. ผู้บริหารคงเป้าหมายรายได้ปี 24F ที่ 480 ลบ. และมีเป้าหมายรายได้ลูกค้าต่างชาติราว 20% ของรายได้ปี 24F เติบโตตามจานวนการให้บริการที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่ รวมทั้งคาดจะมีผลของ Economies of scale จากการใช้บริการที่เพิ่มขึ้น ช่วยชดเชยค่าเสื่อมสาขาใหม่ที่เพิ่มขึ้นต่อปีราว24 ลบ.
ความเห็นและคำแนะนำ
- เราคงมุมมองต่อ GFC หลังได้ update ข้อมูลกับบริษัท เนื่องจาก 1) มองว่ามีโอกาสเติบโตตามตลาด IVF ในไทยจากจุดเด่นการให้บริการของไทย และไทยยังเป็นประเทศเป้าหมายของกลุ่มต่างชาติที่ต้องการมีบุตร รวมทั้งการปลดล็อคกฎหมายอุ้มบุญ 2) ทิศทางการใช้บริการใน 1H24F สอดคล้องกับมุมมองเรา และ 3) การเปิดสาขาใหม่ 2 แห่งตามแผน จะทำให้รายได้ 2H24F เติบโตต่อเนื่อง y-y และ h-h
- แนวโน้ม 2Q24F เบื้องต้นเราคาดกำไรสุทธิราว 19 ลบ. (+22%y-y -35%q-q) เติบโต y-y ตามรายได้ให้บริการ (+8%y-y -19%q-q) จากจำนวนลูกค้าใช้บริการเพิ่มขึ้น และมี Economies of scale ของการใช้บริการเพิ่มขึ้น ทำให้คาดมี %Gross margin ราว 48% ดีขึ้นจาก 47.7% ใน 2Q23 แต่ลดลงจาก 50.1% ใน 1Q24 ส่วนกำไรสุทธิคาดลดลง q-q เป็นไปตามปัจจัยฤดูกาล และความต้องการฝั่งตัวอ่อนเพื่อให้มีลูกทันปีมังกรลดลงจาก 1Q24
- หากกำไรสุทธิ 2Q24F เป็นไปตามเราคาด จะทำให้กำไรสุทธิ 1H24F คิดเป็น 45% ของกำไรทั้งปี เราคงประมาณการปี 24F คาดกำไรสุทธิ 105 ลบ. (+35%y-y) เติบโตตามทิศทางรายได้ให้บริการ (+35%) และคาดผลบวกค่าใช้จ่ายการเงินลดลงเต็มปี ช่วยลดผลกระทบต้นทุนจากการเปิดสาขาใหม่ใน 2H24F
- คงคำแนะนำ Buy สำหรับ GFC (TP 12.50 บาท) ประเมินด้วยวิธี DCF WACC 8% L-T growth 3% คิดเป็น Imply PE ปี 24F ที่ 26 เท่า มอง GFC น่าสนใจ 1) มีโอกาสขยายตลาดลูกค้าต่างชาติ หลังเปิด 2 สาขาใหม่ และ 2) คาดกำไรสุทธิ 2H24F เติบโตดีกว่า 1H24F นอกจากนี้ราคาหุ้นซื้อขาย PE ปี 24F ที่ 22 เท่า คิดเป็น 0.93 เท่า PEG (คาดปี 24F-26F กำไรสุทธิเติบโต +24%CAGR) และต่ำกว่า PE เฉลี่ยกลุ่มการแพทย์ที่ 26 เท่า