วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เลือกเก็งกำไรโดยไม่สนใจการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติมากเกินไป

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เลือกเก็งกำไรโดยไม่สนใจการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติมากเกินไป

นักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มขายน้อยลง แต่การกลับมาน่าจะต้องรอปี 2568 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธินับจากต้นปี (YTD) ถึง 111,193 ล้านบาท โดย 1-25 มิ.ย. ขายสุทธิ 29,034 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามไม่ใช่นักลงทุนต่างชาติทิ้งหุ้นไทย แต่เลือกซื้อในรายอุตสาหกรรม โดยมีการถือครองเพิ่ม (เมื่อดูจาก Foreign ownership = Foreign holding + NVDR) โดยนับจากต้นปีจะเห็นการถือครองเพิ่มในกลุ่มยานยนต์, สื่อสาร, การแพทย์ และในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เริ่มมีสัญญาณบวกในกลุ่มบรรจุภัณฑ์, ค้าปลีก, อาหาร และท่องเที่ยว ทำให้เราแนะนำนักลงทุนเน้นการเลือกรายตัวโดยไม่ไปโฟกัสการขายของต่างชาติมากเกินไป เราประเมินนักลงทุนต่างชาติมีโอกาสขายน้อย แต่ยังคงมุมมองการกลับมาซื้อต่างชาติจะเกิดในช่วงต้นปี 2568 มากกว่าที่จะเป็นในปีนี้ ทั้งนี้ค่าเงินบาทจะมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังส่วนต่างดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ-ไทยหดแคบลงถึงระดับหนึ่ง ซึ่งเราประเมินจะเกิดขึ้นหลังการลดดอกเบี้ยของเฟดไปแล้ว 2-3 ครั้ง // ช่วงสั้นกลุ่มสื่อสาร บรรจุภัณฑ์ อาหาร และอิเล็กทรอนิกส์ จะยังเป็นกลุ่มที่น่าสนใจในการลงทุนและเก็งกำไร

สัปดาห์สุดท้ายไตรมาส 2 มีโอกาสฟื้นตัวทั้งจาก Windows dressing และการซื้อคืน (Short recovering) หลังจำนวนหุ้นที่ขายชอร์ตได้ และเกณฑ์การขายชอร์ตที่จะเข้มข้นขึ้น สัปดาห์นี้เรามองมีโอกาสที่หุ้นไทยจะฟื้นตัวจากการ Window dressing ในหุ้นที่ปรับลดลงมาก ขณะเดียวกันการเปิดเผยรายชื่อหุ้นที่สามารถขายชอร์ตได้ ที่จะมีจำนวนลดลง (เนื่องจากเกณฑ์ใหม่ market cap ของหุ้นต้องใหญ่ขึ้น เป็น 7,500 ล้านบาท จากเดิม 5,000 ล้านบาท) อีกทั้งการขายชอร์ตจะทำได้ยากขึ้นจากการเริ่มใช้ราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายสุดท้าย (uptick rule) คาดจะทำให้มีแรงซื้อคืนในหุ้นที่ยังมีสถานะชอร์ตที่ยังไม่ซื้อคืนสูง อาทิ EA, TOP, BEM, IVL, KTC, SPRC, COM7, TIDLOR, IRPC, MINT, CBG, OSP  
 

ภาพรวมกลยุทธ์ มีโอกาสฟื้นจากการเกิด short covering นักลงทุนทยอยแบ่งไม้ซื้อ ขณะที่นักเก็งกำไรเลือกหุ้นที่มีสถานะชอร์ตคงค้างเยอะ อาทิ TOP, AWC, COM7 // หุ้นเด่น (Top picks) สำหรับครึ่งปีหลัง 2567 ที่เราแนะนำคือ ADVANC, BSRC, BTG, CK, CPALL, CPF, KBANK, MTC, OSP, SCGP, TIDLOR และ TU

หุ้นแนะนำ: SYNEX*, SAMART*, ADVANC*, SCGP*

แนวรับ: 1,300-1,311 / แนวต้าน : 1,335 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ    

3 มือฉมังตั้งวายุภักษ์ 3 รัฐวิสาหกิจร่วมลงขัน เบื้องลึกขุนคลังตั้งวายุภักษ์ 3 ต้องการฟื้นหุ้น หวั่นเงิน TESG เข้ามาไม่ทันการ ได้ทีมที่เคยตั้งวายุภักษ์เดิมมาช่วยลุย จับตาเร่งเดินห้าดึงรัฐวิสาหกิจร่วมลงขัน ด้านรัฐมนตรีช่วยคลัง ยืนยันเดินหน้าเพิ่มสิทธิ์ของชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ ช่วยพัฒนาประเทศ (ทันหุ้น)

ครม.ไฟเขียว ตั้งบอร์ด Cloud First Policy ให้อำนาจวางนโยบายใช้คลาวด์ประเทศ - ส่งเสริมการขับเคลื่อนตามนโยบายการใช้คลาวด์ของหน่วยงานภาคร้ฐ กำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการใช้คลาวด์ โครงสร้างการบริหาร แนวทางการบริหารจัดการด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การโอนย้ายระบบงานของภาครัฐทั้งระบบ (กรุงเทพธุรกิจ)

ตลท.โชว์ 260 หุ้นผ่านเกณฑ์ uptick จับตาหุ้นใหญ่ถูกซื้อกลับหลังเทียบปริมาณขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืนขึ้นแท่นสูงสุด  BANPU-EA-TOP-BEM และ IVL หุ้นไม่ผ่านเกณฑ์ถึง 74 หุ้น คาดหลังเปิดรายชื่อแรงซื้อกลับสัปดาห์นี้   (กรุงเทพธุรกิจ) 

ครม.ไฟเขียว เว้นค่าฟีธุรกิจโรงแรม 2 ปี เริ่ม 1 ก.ค. ยกเว้นค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรม 40 บาท/ห้อง 2 ปี (ประชาชาติ)
 

ไฟฟ้าเฮ ขายตรง PTT ลุ้นพ้นชอร์ตฟอล กพช. สั่งลุย Direct PPA กรอบ 2 พันเมกะวัตต์ ด้านเลขาธิการ กกพ. รับลูกพร้อมดำเนินการให้เสร็จปีนี้ ประกาศวิสัยทัศน์นำพา กกพ. เป็นองค์กรความน่าเชื่อถือ ชี้ต่างชาติสนใจไฟฟ้าสีเขียวมากกว่า 10 ราย ส่วนการเก็บชอร์ตฟอล PTT รอบ 2 ลั่นต้องรอบคอบอสจะรอดูคำสั่งศาลมาพิจารณา (ทันหุ้น)

SCB แจ้งยุติให้บริการแอปพลิเคชัน Robinhood มีผลวันที่ 31 ก.ค.นี้ (ผู้จัดการออนไลน์)

GULF ผนึกกูเกิ้ลใหญ่จัดเต็มธุรกิจคลาวด์ ร่วมดำเนินธุรกิจการให้บริการระบบคลาวด์ในประเทศ (ทันหุ้น)

THANI ผลขาดทุนรถยึดจะผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาสนี้ และคาดเห็นสัญญาณดีขึ้น (ทันหุ้น)

หุ้นติด Cash Balance JPARK ติด Cash Balance ระดับ 1  มีผลตั้งแต่วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 67 

 

ประเด็นติดตาม 27 มิ.ย. – โต้วาทีผู้ลงสมัครปธน.สหรัฐฯ ครั้งแรก / 28 มิ.ย. – US PCE / TH Industrial Production

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)