วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง Window Dressing /เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน พ.ค.
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Down แนวรับ 1,305/1,297 จุด แนวต้าน 1,316/1,325 จุด ภาพระยะยาว ยังคงอยู่ในแนวโน้ม ขาลงไปทดสอบแนวรับของกรอบ Down Channel (กรอบ 1,190-1,358 จุด) ที่ 1,284/1,273 จุด ตามลำดับ
ส่วนภาพระยะสั้น ดัชนีฯ เริ่มเข้าสู่การปรับฐาน หลังจากแรลลี่ขึ้นไปว่ากว่า 43 จุด จากระดับต่ำสุด 1,281.87 จุด เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. แนะนำ ขึ้นขาย รอซื้อคืนที่แนวรับ
ประเด็น Event สำคัญ วันนี้
SET50/SET100 Index: บจ. ที่ถูกเพิ่มหรือถอดออกจากการคำนวณดัชนี SET50/SET100 Index งวด 2H24 จะเริ่มมีผลต่อราคาปิดวันนี้เป็นต้นไป โดยการปรับปรุงหุ้นที่ถูกเพิ่มหรือถอดออกจากการคำนวณ ได้แก่
+ หุ้นที่เข้าคำนวณ SET50 รอบนี้มี 4 บริษัท คือ BJC BCP TIDLOR ITC (เป็นไปตามคาด) ส่วนหุ้นที่เข้าคำนวณ SET100 รอบนี้มี 9 บริษัท คือ BA BJC CKP JAS MBK QH SKY (เป็นไปตามคาด) PRM TIPH (Positive Surprise)
-หุ้นที่ถูกถอดออกจาก SET50 Index นี้ 4 บริษัท คือ BANPU SAWAD KCE COM7 (เป็นไปตามคาด) ส่วนหุ้นที่หลุด SET100 รอบนี้ 9 บริษัท คือ AURA, FORTH, MOSHI, ORI, SNNP, TKN (เป็นไปตามคาด) BYD NEX THG (Negative Surprise) ส่วน RCL ไม่ถูกถอดออก (Positive Surprise)
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ:
+US รายงานเงินเฟ้อเดือน พ.ค. Consensus คาด PCE/Core PCE เดือน พ.ค. เติบโตลดลงที่ 0% MoM/0.1% MoM (Vs เดือน เม.ย. 0.3% MoM/0.2% MoM) 2.6% YoY/2.6% YoY (Vs เดือน เม.ย. 2.7% YoY/2.8% YoY) ซึ่งจะส่งผลบวกต่อโอกาสสูงขึ้นที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย. (CME FedWatch Tool ให้โอกาสลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย. 57.1% ขณะที่ผลสำรวจ FMS เดือน มิ.ย. 2024 พบว่า 39% ของผลสำรวจคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย.)
-US รายงานดัชนีวัดความเชื่อมั่นสำรวจโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน เดือน มิ.ย. คาดว่า Consumer Sentiment ลดลงเป็น 65.8 (Vs เดือน พ.ค. 69.1) ส่วนแนวโน้มเงินเฟ้อ 1 ปี/5 ปี ข้างหน้า คาดอยู่ที่ 3.3% YoY/3.1% YoY (Vs เดือน พ.ค. 3.3% YoY/3.0% YoY)
-TH ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน พ.ค. Consensus คาดขาดดุลสูงขึ้นเป็น -USD2.3bn (Vs เดือน เม.ย. -USD0.04bn) ส่วน Industrial Production เดือน พ.ค. คาดเติบโต +1.35% YoY (Vs เดือน เม.ย. +3.43% YoY) Private Consumption เดือน พ.ค. คาดลดลง -1% YoY (Vs เดือน เม.ย. +1.6% YoY) Private Investment เดือน พ.ค. คาดเติบโตลดลง -1% YoY (Vs เดือน เม.ย. 5% YoY) สะท้อนเศรษฐกิจเดือน พ.ค. อ่อนแอ จากการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนที่เติบโตในอัตราลดลง
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ TIDLOR ITC TIPH (ถูกเพิ่มคำนวณในดัชนี SET50/SET100 Index เริ่มมีผลต่อราคาปิดวันนี้)
Strategic daily picks
TIDLOR ปิด 18.70 บาท/แนวรับ 18.20 บาท แนวต้าน 19.30 บาท
TIDLOR ได้รับการคัดเลือกเป็นหุ้นที่เข้าคำนวณใน 2H24 SET50 Index ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2024 เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน TIDLOR ยังอยู่ในทิศทางการฟื้นตัวของกำไร อิงกำไร 1Q24 ฟื้นตัว QoQ จากการตั้งสำรองที่ลดลง สอดคล้องกับภาพอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัว ผลจากการเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ ประกอบกับราคารถ ยนต์ใช้แล้วฟื้นตัว ส่งผลให้แนวโน้มการขาดทุนรถยึดที่ลดลง ขณะที่พอร์ตสินเชื่อคาดว่ายังสามารถเติบโต 18% YoY ในปี 2024E ทั้งนี้ KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD 21.87 บาท
ITC ปิด 23.50 บาท/แนวรับ 22.90 บาท แนวต้าน 24.30 บาท
ITC ได้รับการคัดเลือกเป็นหุ้นที่เข้าคำนวณใน 2H24 SET50 Index ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2024 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันบริษัทคาดแนวโน้ม 2H24 น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่า 1H24 จากแนวโน้มคำสั่งซื้อต่างประเทศปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งคงเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ในปี 2024 ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 3.15 พันล้านบาท (+38.03% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 25.30 บาท
TIPH ปิด 27.00 บาท/แนวรับ 26.00 บาท แนวต้าน 28.50 บาท
TIPH ได้รับการคัดเลือกเป็นหุ้นที่เข้าคำนวณใน 2H24 SET100 Index ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2024 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันปี 2024 บริษัทคาดจะมีการลงทุนเพิ่มในการเข้าถือหุ้นใน TIP Laos เพิ่มเติมจากปัจจุบัน 10% (ณ วันที่ 31 มี.ค. 2024) รวมถึงมีแผนลงทุนธุรกิจประกันภัยในประเทศกัมพูชา เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ บริษัทยังเป้าหมายการเติบโตต่อเนื่อง โดยในส่วนของบริษัทแกนหลักอย่าง TIP ยังคงเป้าหมายการเติบโตระดับ 2 เท่า ของภาพรวมอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยที่คาดปี 2024 จะโต 5-6% เบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวม 3.01-3.04 แสนล้านบาท