วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี CBG 2Q24F: ราคาหุ้นสะท้อนส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 2Q24F จะอยู่ที่ 602 ล้านบาท (-4% qoq และ +25% yoy) จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น 4% yoy และ สัดส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายที่ลดลงเพราะได้เบียร์คาราบาวมาช่วยจ่ายค่าสปอนเซอร์ EFL (ประมาณ 30 ล้านบาทต่อไตรมาส)
ทั้งนี้ เมื่อเทียบ qoq ยอดขายเครื่องดื่มชูกำลัง (energy drink) ในประเทศจะเพิ่มขึ้น 10% เนื่องจากได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 0.9ppt เป็น 24.3% เราเชื่อว่าตัวแทนจำหน่ายของ CBG เริ่มกลับมาตุนสต็อกเครื่องดื่มชูกำลังอีกครั้งใน 2Q24F (หลังจากที่ระบายสต็อกออกไปตั้งแต่ 4Q23 เพื่อสต็อกเบียร์) และ มีการเปลี่ยนโปรโมชันในธุรกิจเบียร์ไปที่ร้านค้าปลีกแบบ modern-trade แทน โดย CBG เริ่มผลักดันเครื่องดื่มชูกำลังไปให้ตัวแทนจำหน่ายอีกครั้งใน 2Q24 เรายังคงคำแนะนำถือ โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 74 บาท และคงประมาณการทุกรายการไว้เหมือนเดิม
รายได้จะลดลง 1% qoq จากการจำหน่ายสินค้าของบุคคลที่สาม
เราคาดว่ารายได้รวมจะลดลง 1% qoq มาอยู่ที่ 4.9 พันล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของรายได้ในธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง (+10% qoq เป็น 1.4 พันล้านบาท) จะหักล้างไปกับรายได้ที่ลดลงจากธุรกิจการจำหน่ายสินค้าของบุคคลที่สาม (-4% qoq เป็น 1.7 พันล้านบาท) เนื่องจากยอดขายในธุรกิจเบียร์ลดลง (-40% qoq เป็น 150 ล้านบาท) นอกจากนี้ เราคาดว่ายอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในต่างประเทศจะลดลง 3% qoq เนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองในเมียนมาร์ทำให้เกิดปัญหาด้านการขนส่ง เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง 0.3ppt qoq มาอยู่ที่ 26.5% เพราะโครงสร้างยอดขายเปลี่ยนแปลงไป จากการที่ยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในต่างประเทศลดลง qoq
ธุรกิจเบียร์ยังไม่ปัง
เราเชื่อว่ายอดขายจากธุรกิจการจัดจำหน่ายเบียร์จะลดลง 40% qoq (ออกวางจำหน่ายครั้งแรกใน 4Q23) เพราะ 1) มีการจัดจำหน่ายเบียร์ผ่านช่องทางร้านค้าปลีกแบบ modern-trade (ไม่ได้อยู่ภายใต้การจัดจำหน่ายของ CBG) มากขึ้น และ 2) อาจจะต้องอาศัยเวลากว่าที่เบียร์คาราบาวจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภค
ธุรกิจเบียร์จะเป็น upside ความเสี่ยงหลักอยู่ที่ความผันผวนของวัตถุดิบ
ราคาเป้าหมายของเราอิงจากP/E ปี 2024F ที่ 27.2x โดยราคาหุ้น CBG ในปัจจุบันคิดเป็น P/E ปี 2024F ที่ 25.6x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว -1SD ทั้งนี้ เรารู้สึกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวสูงมากเพราะกำไรต่ำในช่วงปีที่ได้รับผลกระทบจาก COVID เราแนะนำถือ CBG เพราะเราคิดว่าราคาหุ้นสะท้อนแนวโน้มบวกจากการได้ส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศเพิ่มขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ธุรกิจเบียร์ (ซึ่งอาจจะเป็น upside) ยังต้องใช้เวลากว่าที่จะเป็นที่นิยม เรามองว่าความเสี่ยงหลักอยู่ที่ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ