วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตาเงินเฟ้อจีน และคดีถอดถอนนายกฯ เศรษฐา

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตาเงินเฟ้อจีน และคดีถอดถอนนายกฯ เศรษฐา

ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways แนวต้าน 1,325/1,330 จุด (EMA 50 วัน) แนวรับ 1,316/1,310 จุด (EMA 25/10 วัน) ภาพระยะสั้น ดัชนีฯ อยู่ระหว่างทดสอบแนวต้าน Neckline 1,325-1,330 จุด

เพื่อเลือกข้างว่าจะเป็น 1. รูปแบบขึ้นต่อ Double Bottom (W-Shape) หากสามารถทะลุแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ ด้วยวอลุ่มสูงขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักที่ 1,370 จุด หรือในทางตรงกันข้าม 2. กลับมาเป็นรูปแบบขาลง Double Top (M-Shape) ลงมาที่ 1,286 จุด หากดัชนีฯ ร่วงหลุดต่ำกว่า 1,310 จุด (EMA 10 วัน)

ประเด็น Event สำคัญวันนี้

US: การแถลงการณ์รอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริหารการเงินประจำสภาผู้แทนฯ ของประธานเฟด Powell โดยตลาดจะให้ความสนใจต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการดำเนินนโยบายยผ่อนคลายทางการเงินในอนาคต

TH: คดีถอดถอนนายกฯ เศรษฐา คาดว่าศาลฯ จะมีการอภิปรายก่อนที่จะมีการกำหนดนัดไต่สวนเพิ่มเติม หรือนัดพิจารณาตัดสินคดีในวันที่ 24 ก.ค. หรือ 31 ก.ค. โดยคาดว่าจะเป็นความเสี่ยงเชิงลบต่อตลาด จากความเสี่ยงเกิดสุญญากาศทางการเมือง หากศาลฯ ตัดสินให้ถอดถอนนายกฯ เศรษฐาจริง แต่ในทางตรงกันข้าม ความเสี่ยงที่ลดลงจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นเช่นกัน

US: สุนทรพจน์ของ Fed Chicago Goolsbee (Non-Voter) และคณะกรรมการเฟด Bowman (Voter) จับตาสัญญาณดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งหน้า

UK: บริษัทน้ำมัน BP ออกรายงานแนวโน้มน้ำมันประจำปี อาจส่งผลต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบโลกระยะสั้น

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตาเงินเฟ้อจีน และคดีถอดถอนนายกฯ เศรษฐา

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตาเงินเฟ้อจีน และคดีถอดถอนนายกฯ เศรษฐา

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ

CH: รายงานเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. โดย Consensus คาดเติบโต -0.1% MoM, +0.4% YoY (Vs เดือน พ.ค. -0.1% MoM, +0.3% YoY) โดย Trading Economics คาดการณ์เงินเฟ้อจีน ณ สิ้นเดือน ธ.ค. เติบโตต่ำต่อเนื่องที่ +0.4% YoY ส่วน PPI เดือน มิ.ย. คาดเติบโตลดลงเป็น -0.8% YoY (Vs เดือน พ.ค. -1.4% YoY) แต่ ณ สิ้นปีนี้ คาดว่าจะเติบโต +1.5% YoY ทั้งนี้ แนวโน้มเงินเฟ้อที่ยังคงเติบโตต่ำ สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งสอดคล้องกับ 2Q24E GDP Growth ที่ตลาดคาดว่าการเติบโตจะปรับลดลงเหลือ +0.8% QoQ (Vs 1.6% QoQ ใน 1Q24)

 

 

 

US: Wholesales Inventories เดือน พ.ค.: Consensus คาดเพิ่มขึ้นเป็น +0.6% MoM (Vs เดือน เม.ย. +0.2% MoM) อย่างไรก็ดี Trading Economics คาดการสะสมสินค้าคงคลังจะปรับลดลงในเดือนเหลือ +0.2% MoM ในเดือน ก.ย. และ 0.3% MoM ในเดือน ธ.ค. สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงอ่อนแอ

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นบวก ได้แก่ MASTER MINT NER

Strategic daily picks 

MASTER    ปิด 60.25 บาท/แนวรับ 58.25 บาท แนวต้าน 63.50 บาท

กำไร 1Q24 คิดเป็น 18% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2024E ที่ 604 ล้านบาท (+45% YoY) โดยโมเมนตัมกำไรยังขยับขึ้น QoQ และ YoY ใน 2Q24E จากการเร่งตัวของลูกค้ากิจการโรงพยาบาล ที่เข้ามาใช้บริการในช่วงวันหยุดยาว นอกจากนี้ ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมก็อยู่ในทิศทางขาขึ้นเช่นกัน จากการทยอยรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามแผนการลงทุน ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยเร่งผลประกอบการใน 2H24E ทั้งนี้ KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD 73.00 บาท

MINT    ปิด 29.25 บาท/แนวรับ 28.25 บาท แนวต้าน 31.50 บาท

ปี 2024 จะลงทุน 1.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากแผนเดิมที่ 1.3 หมื่นล้านบาท เพื่อรีแบรนด์และปรับปรุงห้องพัก น่าจะทำให้การปรับขึ้นค่าห้องพักเฉลี่ยเติบโตต่อเนื่อง พร้อมคงตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ราว 8-10% และกำไรราว 15-20% ต่อปี ในช่วง 3 ปี (ปี 2024-26) ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 3.46 พันล้านบาท (+6.17% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 40.37 บาท

NER    ปิด 5.15 บาท/แนวรับ 4.80 บาท แนวต้าน 5.60 บาท

กำไรปกติ 1Q24 ดีตามคาด และ KTX คาดโมเมนตัมกำไรปกติ 2Q24 จะแข็งแกร่งขึ้น QoQ จากแนวโน้มราคาขายที่คาดจะสะท้อนราคายางขาขึ้นอย่างเต็มที่ โดย KTX คงมุมมองเชิงบวกต่อราคายาง-การฟื้นตัวของกำไรปกติในปี 2024 และคาดการเพิ่มขึ้นปริมาณขายยาง จากการขยายกำลังการผลิต STR จะหนนุการเติบโตของกำไรปกติในปี 2025-26 ทั้งนี้ KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD 6.51 บาท

 

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตาเงินเฟ้อจีน และคดีถอดถอนนายกฯ เศรษฐา