วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ JMART ยังต้องดิ้นรนต่อไป
ความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้สร้างแรงกดดันต่อบริษัทอย่าง JMART ที่ต้องอาศัยหุ้นกู้เป็นช่องทางในการระดมเงินทุน เพราะ 80% ของแหล่งเงินทุนของบริษัทคือหุ้นกู้
ดังนั้น สถานการณ์ในปัจจุบันจึงทำให้บริษัทประสบปัญหาในการ refinance หุ้นกู้ 2.5 พันล้านบาท (กำหนดครบอายุเดือนกันยายน 2567) ทั้งนี้ JMART กำลังอยู่ในกระบวนการออกหุ้นกู้ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งปัญหาในตลาดตราสารหนี้ทำให้บริษัทต้องเพิ่มแรงจูงใจให้กับผู้ซื้อหุ้นกู้ โดยการออกหุ้นกู้แบบมีหลักประกัน โดยใช้หุ้น
JMT เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน และ กำหนดอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว (coupon rate) เพิ่มขึ้นเป็น 5.2% สำหรับ
หุ้นกู้อายุ 1.75 ปี นอกจากนี้ ตามข้อมูลสรุปใน factsheet ของหุ้นกู้ JMART บริษัทยังยังมีวงเงินสินเชื่อ
(credit line) ธนาคารเปิดไว้อีกประมาณ 3.4 พันล้านบาท ซึ่งสามารถใช้เป็นแหล่งเงินทุนสำรอง
ตลาดตราสารหนี้จะเป็นตัวจำกัดศักยภาพการเติบโตในระยะยาว
ในฐานะที่เป็นบริษัท holding ซึ่ง JMART มีภาระต้องมีการสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทอื่น ๆ ในเครือ ดังนั้น ภาวะที่ยากลำบากในตลาดตราสารหนี้จึงจะเป็นความเสี่ยงเมื่อบริษัทจำเป็นต้องออกหุ้นกู้เพิ่มเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว ทั้งนี้ JMART มีกำหนดไถ่ถอน/refinance หุ้นกู้ 2.5 พันล้านบาทในเดือนกันยายน 2567 และ อีก 1.5 พันล้านบาท ในเดือนกันยายน 2568
ผลประกอบการ 2Q67F ถูกกดดันจาก JMT และ J-mobile
เราคิดว่าผลประกอบการของบริษัทส่วนใหญ่ที่อยู่ในเครือ JMART จะอยูในโหมดชะลอตัว เราคาดว่ากำไรจาก JMT ลดลง ในขณะที่คาดว่ากำไรของ J-Mobile จะเพิ่มในอัตราที่ชะลอลง และ ของ SINGER จะทรงตัว ซึ่งจะส่งผลให้กำไรของ JMART ใน 2Q67F อยู่ที่ 143 ล้านบาท (จาก 236 ล้านบาทใน 1Q67 และ จากที่ขาดทุน 611 ล้านบาทใน 2Q66)
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2567F/2568F ลง 4%/8% และ ปรับลดราคาเป้าหมายปีนี้เหลือ 11.50 บาท
การปรับลดประมาณการกำไรปี 2567F โดยปรับต้นทุนทางการเงินเพิ่มเป็น 5.2% (จาก 4.9%) และ ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568F สะท้อนถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานของ JMT ทั้งนี้ เมื่อใช้ PE ที่ 15x ทำให้เราได้ราคาเป้าหมายปี 2567 ใหม่ที่ 11.50 บาท จากเดิม ที่ 12.00 บาท
Risks
กำไรต่ำกว่าที่คาดไว้, JMT เก็บเงินสดได้ต่ำกว่าประมาณการร, กำไร/ขาดทุนจากการบันทึกมูลค่าเงินลงทุนแบบ MTM