วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ TU ผลประกอบการ 2Q67: ดีกว่าคาดเพราะ ITC แข็งแกร่ง
กำไรสุทธิของ TU ใน 2Q67 อยู่ที่ 1.22 พันล้านบาท (+19% YoY, +6% QoQ) ดีกว่าประมาณการของเรา 5% แต่เป็นไปตาม consensus เนื่องจากผลการดำเนินงานของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงออกมาแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ กำไรสุทธิในงวด 1H67 คิดเป็น 39% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเราที่ 6.1 พันล้านบาท TU
ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.31 บาท/หุ้น (กำหนดขึ้น XD วันที่ 21 สิงหาคม 2567) คิดเป็นอัตรา
ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 2.2%
การฟื้นตัวของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงช่วยหนุนกำไรจากการดำเนินงาน
ยอดขายเพิ่มขึ้น 4% YoY และ 6% QoQ เป็น 3.53 หมื่นล้านบาทจากการเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง
(+41% YoY), สินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม (+16% YoY) และ อาหารแปรรูป (+1% YoY) ในขณะเดียวกันยอดขายในธุรกิจอาหารแช่แข็งลดลง 6% YoY เพราะอุปสงค์ในสหรัฐชะลอตัวลง ประกอบกับมีการใช้กลยุทธ์การกำหนดขนาดธุรกิจที่เหมาะสม (right-sizing strategy) ส่วน GPM เพิ่มขึ้นเป็น 18.5%(+1.6ppts YoY และ 1.2ppts QoQ) เนื่องจาก margin ของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 11.1ppts YoY และ 5.6ppts เป็น 31.3% ในขณะที่ margin ของธุรกิจอาหารแปรรูปเพิ่มขึ้น 2.3ppts QoQ เป็น 18.9% เนื่องจากราคาขายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายยังเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เป็น 13.0% เนื่องจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน และ มีการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มขึ้น ดังนั้น กำไรจากการดำเนินงานจึงเพิ่มขึ้น 10% YoY และ 29% QoQ เป็น 2.16 พันล้านบาท
ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเริ่มลดลงแล้ว
ส่วนแบ่งกำไรจาก JVs และ บริษัทร่วมเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งมากถึง 237% YoY และ 13% QoQ เป็น 179
ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ Avanti Group ซึ่งคิดเป็น 75% ของส่วนแบ่งกำไร
ทั้งหมดในไตรมาสนี้ ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยในไตรมาสนี้เริ่มลดลงแล้ว โดยลดลงไป 4% QoQ เหลือ 620
ล้านบาท เนื่องจากยอดหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยลดลงเหลือ 6.44 หมื่นล้านบาท จาก 6.63 หมื่นล้านบาทใน 1Q67 อย่างไรก็ตาม TU มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงถึง 237 ล้านบาท เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าลง (จากที่ขาดทุน 250 ล้านบาทใน 2Q66 และ จากที่มีกำไร 209 ล้านบาทใน 1Q67)
คาดว่าโมเมนตัมของกำไรจะเป็นบวกต่อเนื่องใน 2H67F
เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มผลการดำเนินงานของ TU ใน 2H67F เพราะคาดว่า GPM จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป เพราะเราคาดว่าราคาขายจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าต้นทุนวัตถุดิบ ในขณะเดียวกัน เราคาดว่า TU จะได้อานิสงส์เล็กน้อย (1%-2% ของกำไรสุทธิปี 2568F) จากการทำข้อตกลงกู้เงินกับ ITC เนื่องจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลงทั้งในประเทศไทย และ ในต่างประเทศยังน่าจะนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกของ TU ในปีหน้าด้วย
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำซื้อ TU และ ประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 19.70 บาท อิงจาก PER ที่ 15.0x (ค่าเฉลี่ย
ระยะยาว)
Risks
ต้นทุนวัตถุดิบแพงขึ้น, อัตราแลกเปลี่ยน และ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก