วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ

ส่วนในระยะสั้นกลับมาเกิดสัญญาณซื้อวานนี้ หลังดัชนีฯ สามารถทำ Higher High และ Higher Low สูงขึ้น และจะยืนยันว่าเป็นขาขึ้นรอบใหม่ไปที่ 1,332 จุด ต่อเมื่อต้องทะลุผ่าน 1,296/1,304 จุด ขึ้นไปให้ได้ มิฉะนั้นดัชนีฯ มีแนวโน้มอ่อนตัวลงมาทดสอบแนวรับเดิม 1,273 จุด และลงต่อไปได้ถึง 1,265/1,250 จุด ตามลำดับ เราแนะนำ เริ่มซื้อเก็งกำไร หากดัชนีฯ ยืนเหนือ 1,296 จุด ขึ้นไปได้

ประเด็น Event สำคัญวันนี้ 

US: 2Q24E Earnings Results จับตา รายงานผลกำไร Eli Lilly คาด EPS USD2.75 Vs Previous USD2.11; Gilead Sciences คาด EPS USD1.60 Vs Previous USD1.66; Cheniere Energy คาด EPS USD 1.70 Vs Previous USD5.61; Datadog คาด EPS USD0.37Vs Previous USD0.36; Dillards คาด EPS USD5.95 Vs Previous USD7.93 ฯลฯ

TH: 2Q24E Earnings Results: จับตา รายงานผลกำไรของ CPAXT BH GPSC MAJOR OR PR9 PTTGC TIDLOR TOP

US สุนทรพจน์ของ Fed Richmond Thomas Barkin (Voter) โดยจะเป็นบวกต่อตลาด หากมีการส่งสัญญาณสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. เหมือนกรณีของ Fed San Francisco Mary Daly และ Fed Chicago Goosbee ที่สนับสนุนให้เร่งลดดอกเบี้ย เพื่อสนับสนุนการจ้างงาน

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ

US: Wholesale Inventories เดือน มิ.ย. (Figure 2) คาด +0.2% MoM (Vs เดือน พ.ค. +0.6% MoM) และคาดว่าจะขยายตัว +0.2% MoM และ +0.3% MoM ในเดือน ก.ย. และเดือน ธ.ค. สะท้อนภาคธุรกิจยังคงมีการสะสมสินค้าคงคลัง เพื่อรองรับยอดขายในอนาคต

US: รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ (Figure1) Weekly Initial Jobless Claims) คาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น +250K (ใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ +249K ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ส.ค. 2023) ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูง และเพิ่มโอกาสให้ตลาดกลัมมากังวลต่อความเสี่ยงของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ อีกครั้ง

 

 

JP: รายงาน Eco Watchers Survey Current/Outlook เดือน ก.ค. โดยตลาดคาดจะปรับตัวสูงขึ้นเป็น 47.8/48.5 (Vs เดือน มิ.ย. 47.0/47.9) สะท้อนสัญญาณบวกต่อภาวะเศรษฐกิจ โดยส่วนหนึ่งคาดว่ารับผลบวกจาก รายงาน Real Wage เดือน มิ.ย. ที่เป็นบวก ครั้งแรกรอบ 27 เดือน (ค่าจ้าง Cash Earnings เดือน มิ.ย. เติบโตสูงสุดตั้งแต่เดือน ม.ค. 1997 +4.5% YoY จาก 2% YoY ในเดือน พ.ค. ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ 2.6% Core Inflation Rate) คาดว่าจะช่วยเพิ่มการบริโภคในประเทศปรับตัวดีขึ้น

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำหุ้นที่มีประเด็นบวก ได้แก่ BA EKH PRM

Strategic daily picks

BA    ปิด 19.40 บาท/แนวรับ 18.80 บาท แนวต้าน 20.00 บาท

BA เผยโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก มูลค่า 2.9 แสนล้านบาท จะเป็นอุตสาหกรรมอนาคตและเป็นปัจจัยหนุนหลักที่ช่วยสร้างการเติบโตสูงแก่ BA ทั้งนี้ เฟสแรกจะใช้เวลาก่อสร้างภายใน 3 ปี เป็นส่วนของอาคารผู้โดยสาร (Terminal) ตามสัญญา ซึ่งใช้งบประมาณ 4 หมื่นล้านบาท และหลังจากสร้างเสร็จแล้วจะสร้างรายได้เข้ามาปีละประมาณ 4-5 พันล้านบาท (มาจากรายได้ค่าเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ 40% และรายได้จากค่าจอดเครื่องบิน 60%) โดย Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 558.50 ล้านบาท (-16.23% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 23.00 บาท

EKH    ปิด 6.40 บาท/แนวรับ 6.20 บาท แนวต้าน 6.70 บาท

ทิศทางธุรกิจใน 2H24 คาดรายได้และกำไรจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากจำนวนผู้ป่วย OPD และ IPD เข้ารับบริการรักษาพยาบาลศูนย์บริการทางการแพทย์ต่าง ๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งยังได้รับอานิสงส์จากศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) ที่มีคนไข้เข้ามาปรึกษาและใช้บริการมากขึ้น อีกทั้งโรงพยาบาลคูนยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 69.03 ล้านบาท (+61.85% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 8.50 บาท

 

 

 

 

 

PRM    ปิด 8.30 บาท/แนวรับ 8.00 บาท แนวต้าน 8.60 บาท

คาดผลการดำเนินงาน 2H24 เติบโตต่อเนื่องจาก 1H24 เนื่องจากแผนการขยายธุรกิจของบริษัทและการเข้าทำสัญญาให้บริการระยะยาว เพื่อเสริมความมั่นคงของรายได้ ประกอบกับอัตราการใช้เรือยังอยู่ในระดับสูง พร้อมกันนี้ในช่วง 2H24 บริษัทมีแผนซื้อเรือขนส่งและจัดเก็บน้ำมัน (FSU) เพิ่มอีก 1 ลำ ขณะเดียวกันแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q24 จะเติบโตมากกว่า 1Q24 และดีต่อเนื่องถึง 2H24 ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 565 ล้านบาท (+19.85% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 9.36 บาท