วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก วินิจฉัยคดีนายก

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก วินิจฉัยคดีนายก

วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน โดยได้รับแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่ม Big Cap จากความคืบหน้าเกี่ยวกับกองทุนรวมวายุภักษ์ อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงติดตามศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีคุณสมบัตินายก และการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐในวันนี้

มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มไอซีที และอิเล็กทรอนิกส์ มีแรงขายในหุ้นกลุ่มค้าปลีก และการเงิน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,297.79 จุด +0.72 จุด +0.06% มูลค่าการซื้อขาย 40,546.34 ลบ. Program Trading -291.85 ลบ. ต่างชาติ +172.50 ลบ. TFEX -16,419 สัญญา ตราสารหนี้ -6,866.60 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 408.63 จุด หรือ +1.04% หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด ทำให้นักลงทุนเชื่อว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
+ สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจาก การใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 2.2% YoYในเดือนก.ค. ต่ำกว่า ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3%YoY จากระดับ 2.7%YoY ในเดือนมิ.ย.
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุน ให้น้ำหนัก 55% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำกว่า 50% ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PPI
+ ที่ประชุมครม. เห็นชอบการจัดตั้งองค์กรการค้าประกันเครดิต หรือนากก้า ซึ่งจัดตั้งเป็นสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติเพื่อเป็นกลไกในการค้าประกันสินเชื่อรูปแบบใหม่
+ คลังเตรียมเปิดขาย "กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง" ประเภท ก. ประมาณ 1-1.5 แสนล้านบาท เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ก.ย.นี้

ปัจจัยลบ 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.71 ดอลลาร์ หรือ -2.14% ปิดที่ 78.35 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลน้อยลงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สงครามในตะวันออกกลางจะลุกลาม เป็นวงกว้างเนื่องจากอิหร่านยังไม่ได้ดำเนินการตามคำขู่ที่จะโจมตีอิสราเอลเพื่อตอบโต้กรณีแกนนำกลุ่มฮามาสถูกลอบสังหาร ในกรุงเตหะราน

- กองทัพอิสราเอลยังคงเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีใกล้กับเมือง ข่านยูนิส ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา แม้นานาชาติพยายามผลักดันให้มีการบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติการสู้รบใน ฉนวนกาซา และป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งลุกลามไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง
- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา (Africa CDC) ประกาศให้การระบาดของโรคฝีดาษลิง (monkeypox) หรือ mpox ในแอฟริกา เป็นภาวะฉุกเฉินสาธารณสุขด้าน ความมั่นคงแห่งทวีป (PHECS)

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้แกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีประเด็นการเมืองสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดีนายกเศรษฐาช่วงบ่ายวันนี้ ขณะที่ตลาดมีแรงหนุนสหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ที่ต่ำกว่าคาด มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,290-1,307 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุน DATA CENTER และ CLOUD SERVICE : GULF ADVANC TRUE INSET ITEL
• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
• หุ้นได้ประโยชน์จากนโยบาย Digital Wallet ได้แก่ CPALL BJC DOHOME GLOBAL HMPRO TNP KK
• สินค้าส่งออกเดือน มิ.ย. ที่เติบโตดี : STA NER TRUBB TEGH ITC AAI
• MSCI Global Standard Indexes เข้า – ออก AWC EA GPSC IVL MSCI Small Cap Indexes เข้า BJC EA KAMART TLI ออก BA BYD EPG NEX ORI PTG RBF THANI SC SJWD SKY SNNP THCOM มีผล 2 ก.ย.

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

TU (Bloomberg Consensus 17.80 บาท)
อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มดีขึ้น

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก วินิจฉัยคดีนายก

งวด 2Q67 มียอดขายเท่ากับ 35,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +3.6%QoQ และ +6.2%YoY ส่วนใหญ่เป็นผลจากการฟื้นตัวของ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า ด้านอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.5% ดีขึ้นจาก 17.3%ใน 1Q67 และ 16.9% ใน 2Q66 เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า และธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง ส่งผลให้มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,219 ล้านบาท +5.7%QoQ และ 18.5%YoY โดย 1H67 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 6,502 ล้านบาท +15.7%YoY

ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการช่วง 2H67 โดยบริษัทได้มีการปรับเป้ารายได้ปี 67 ขึ้นเป็นเติบโต 4-5% (จากเดิม 3-4%) และปรับ Margin ขึ้นเป็น 18-18.5% (จากเดิม 17-18%) ปัจจุบัน TU เทรดที่ PER 15.7x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม FOOD ที่ 63.0x เราจึงแนะนำ “ซื้อ” โดยบริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.31 บาท/หุ้น (XD: 21/8/67)

หุ้นมีข่าว

(+) JMART (Bloomberg Consensus 11.50 บาท) ราคาหุ้นร้อนฉ่า!! ปิดตลาดวานนี้ (13 ส.ค.2567) ชนซิลลิ่งทะยาน 30.77% มาอยู่ที่ระดับ 11.90 บาท อานิสงส์กำไรของบริษัทย่อย JMT โตแรงเกินคาดหมดกังวลปัจจัยลบ ด้านผู้บริหาร "อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา" คอนเฟิร์มคืนหนี้บอนด์ 2.5 พันล้านบาท ช่วงกันยายนนี้ฉลุย ระบุฐานะการเงินแน่นปึ้ก พร้อมลั่นครึ่งหลังปี 2567 ฟอร์มแจ่มต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BGRIM (Bloomberg Consensus 29.75 บาท) เล็งครึ่งปีหลัง 2567 มีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3 โครงการ และภายในปี 2593 ตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตเป็น 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 โดยมีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50% แย้มมีดีล M&A อยู่ 2-3 ดีล พร้อมอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.18 บาทต่อหุ้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SAPPE (Bloomberg Consensus 115.65 บาท)โชว์กำไรไตรมาส 2/67 ออลไทม์ไฮ ทะลุ 400 ล้านบาท โต 31.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เดินหน้าปั้นแบรนด์สร้างความแข็งแกร่งในตลาดโลก พร้อมเดินหน้าออกสินค้าใหม่ เตรียมแตกไลน์โปรดักต์ใหม่ภายใต้แบรนด์ Mogu Mogu (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WHA (Bloomberg Consensus 6.00 บาท) "จรีพร จารุกรสกุล" ส่งสัญญาณบวกเล็งปรับเป้ายอดขายที่ดินใหม่ สยายปีกรองรับนักลงทุนที่จ่อย้ายฐานการลงทุนและการผลิตเข้าไทยต่อเนื่อง โชว์ผลงานครึ่งปีแรก 2567 ฟอร์มเด่น มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไร 7,273 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,653 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91% (YoY) แบ่งเป็นรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติ 7,080 ล้านบาท และกำไรปกติ 2,549 ล้านบาท จากการเติบโตของ 4 กลุ่มธุรกิจ "โลจิสติกส์-นิคมอุตสาหกรรม-สาธารณูปโภคและพลังงาน-ดิจิทัล“ (ที่มา ทันหุ้น)