วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้นขึ้นต่อ

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,323.38 จุด +20.38 จุด +1.56% มูลค่าการซื้อขาย 62,358.60 ลบ. Program Trading +1,269.67 ลบ. ต่างชาติ -10,486.55 ลบ. TFEX +54,801 สัญญา ตราสารหนี้ +5,098.14 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 236.77 จุด หรือ +0.58% ปรับขึ้นต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล รวมทั้งจับตาการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตในสัปดาห์นี้
+ ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้าเหลือ 20% จากเดิม 25% หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่สูงเกินคาดและตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลง
+ นักลงทุนเทน้ำหนัก 100% คาดการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย.แบ่งเป็น 73.5% คาดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% และให้น้ำหนัก 26.5% คาดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%

ปัจจัยลบ

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.28 ดอลลาร์ หรือ -2.97% ปิดที่ 74.37 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าการผลักดันข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาอาจประสบความสำเร็จและนำไปสู่สันติภาพในตะวันออกกลาง และจากความกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันอ่อนแอลง
- เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาจะเริ่มการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ ในสัปดาห์นี้ เพื่อเสริมแกร่งความพร้อมในการป้องกันประเทศ ท่ามกลางภัยคุกคามทางทหารจากเกาหลีเหนือ
- สหรัฐเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวลง 0.6% ในเดือนก.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ คาดว่าจะลดลง 0.4% หลังจากปรับตัวลง 0.2% ในเดือนมิ.ย.

-สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานผลการสำรวจพบว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 21 ส.ค. และจะตรึงอัตราดอกเบี้ย ไปจนถึง 1Q68
-สภาพัฒน์รายงาน GDP ไทยในช่วง 2Q67 ขยายตัว 2.3% จากตลาดคาด 2.1-2.8%) เร่งขึ้นจาก +1.6% ใน 1Q67 ในช่วง 1H67 GDP ขยายตัว 1.9% ซึ่งยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ในภูมิภาคอาเซียน (สิงคโปร์ 2.9% อินโดนีเซีย 5% มาเลเซีย 5.9% ฟิลิปปินส์ 6.3% เวียดนาม 6.9%) ส่วน GDP ปี 67 ขยับกรอบเป็น 2.3-2.8% แต่ยังคงค่ากลางไว้ที่ 2.5%

แนวโน้มตลาดวันนี้     

คาดดัชนีในวันนี้โอกาสปรับตัวขึ้นต่อ ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้าลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟด ในสัปดาห์นี้กรอบดัชนีในวันนี้ 1,315-1,330 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
• สินค้าส่งออกเดือน มิ.ย. ที่เติบโตดี : STA NER TRUBB TEGH ITC AAI
• MSCI Global Standard Indexes เข้า – ออก AWC EA GPSC IVL MSCI Small Cap Indexes เข้า BJC EA KAMART TLI ออก BA BYD EPG NEX ORI PTG RBF THANI SC SJWD SKY SNNP THCOM มีผล 2 ก.ย.
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

GPSC (ซื้อ ราคาเหมาะสม 60 บาท)
กำไร 2Q67 เติบโต 65%QoQ และเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ YoY

•รายงานกำไร 2Q67 อยู่ที่ 1,429 ลบ. เติบโต 65%QoQ และเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ YoY โดยได้แรงหนุนจาก 1.ปริมาณการขายไฟฟ้าให้นิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 12%QoQ และ 12%YoY อย่างไรก็ตามราคาขายไฟฟ้าปรับตัวลงสู่ 3.45 บาทต่อหน่วย ลดลง 6%QoQ และลดลง 19%YoY ตามต้นทุนถ่านหินและ ก๊าซฯ ที่ปรับตัวลง และ 2.ต้นทุนถ่านหินปรับตัวลง 1%QoQ และลดลง 55%YoY สู่ 142 $/Ton และต้นทุน ก๊าซฯ ปรับตัวลง 12%QoQ และลดลง 28%YoY สู่ 319 บาท/MMBTU ขณะที่ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมอยู่ที่ 20 ลบ. ขาดทุนเพิ่มขึ้นจาก 1Q67 ที่มีผลขาดทุน 12 ลบ. โดยเขื่อนไซยะบุรี (เขื่อนผลิตไฟฟ้าที่ประเทศลาว) ขาดทุนลดลงเนื่องจากปริมาณน้ำ ที่เพิ่มสูงขึ้นจากเข้าสู่ฤดูฝน อย่างไรก็ตาม AVADA (Solar Farm ที่ประเทศอินเดีย) และ Changfang Xidao (Wind Farm ที่ประเทศไต้หวัน) มีค่าใช้จ่ายครั้งเดียวทำให้พลิกเป็นส่วนแบ่งขาดทุน ทั้งนี้ รายงานกำไร 6M67 ที่ 2.3 พันลบ. +61%YoY

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 3Q67 แม้ว่าภาครัฐจะประกาศคงค่า Ft ที่ 39.72 บาทต่อหน่วย แต่คาดว่าส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ 1.เขื่อนไซยะบุรีที่เข้าฤดูฝนเต็มไตรมาส 2.AVADA ไม่มีค่าใช้จ่ายครั้งเดียว และ 3. Changfang Xidao ที่ติดตั้ง Wind Farm แล้วเสร็จคาด Full COD 4Q67 เราจึงแนะนำ “ซื้อ” ความเสี่ยง ถูกถอดออกจาก MSCI Global Standard Indexes ซึ่งมีผล 2 ก.ย. 67

หุ้นมีข่าว

(+) SONIC (Bloomberg Consensus - บาท) อัดงบลงทุน 50 ล้านบาท ซื้อหุ้น A&B และ P&E สัดส่วน 60% รุกพลังงานทดแทน คาดเซ็นสัญญาแล้วเสร็จ 15 สิงหาคมนี้ ฟากบิ๊กบอส "สันติสุข โฆษิอาภานันท์" ลั่น 2 ปี ดันกำลังผลิตเพิ่มอีก 10 เมกะวัตต์ พร้อมปรับฐานบริการโลจิสติกส์ในประเทศ

(+) STEC (Bloomberg Consensus 9.50 บาท) ชี้ บริษัทโฮลดิ้ง "STECON" เข้าเทรดภายใน ต.ค.นี้ พร้อมเปิดยุทธศาสตร์ใหม่ เน้นลงทุน "ธุรกิจสร้างรายได้ประจำ - นิว เอสเคิร์ฟ" วางเป้าหมายในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า ดันรายได้ฐานใหม่เติบโตอย่างเด่น เสริมแกร่งธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง

(+) MOSHI (Bloomberg Consensus 62.00 บาท) ย้ำเป้ารายได้ปี 2567 เติบโต 20% เตรียมขยายสาขาภายใต้แบรนด์ Moshi Moshi เพิ่มอีก 33 สาขา ครอบคลุม 60 จังหวัด พร้อมแผน Collaboration Projects ร่วมกับศิลปินที่มีชื่อเสียง เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ ขณะที่กำไร 6 เดือนที่ 206.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.8%

(+) COCOCO (Bloomberg Consensus 15.30 บาท) มั่นใจปีนี้โกยรายได้โต 30-40% ตามเป้า เหตุความต้องการเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มการบริโภคของผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น หนุนงบไตรมาส 2/2567 กำไรที่ 227.15 ล้านบาท โต 73.44% ด้านโบรกคาดไตรมาส 3/2567 ลุ้นงบทำสถิติสูงสุดใหม่