วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ PLT เริ่มใช้งานเรือมือสองลำใหม่ในปลายเดือนกรกฎาคม
เราคาดว่ากำไรของ PLT ใน 3Q67F จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจาก i) บริษัทเริ่มใช้งานเชิงพาณิชย์เรือมือสองลำใหม่ Pilatus #66 ระวางบรรทุก 3,666 CBM เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 และ ii) อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจขนส่ง LPG เพิ่มขึ้นสำหรับสัญญา Contract of Affreightment (COA)
ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม บริษัทได้เซ็นสัญญาให้บริการ Time Charter อายุ 12 เดือนกับลูกค้าใหม่ PETCO Trading Labuan ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ PETRONAS โดยบริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี (olefins) แล สินค้าที่เกี่ยวข้องตามเส้นทางในเอเชียได้ นอกจากนี้ เรายังคาดว่าอัตราค่าระวางที่ผูกกับราคาน้ำมันดีเซลตามสัญญา COA ของเรือบรรทุก LPG 13 ลำของบริษัท (คิดเป็น65% ของกองเรือทั้งหมด) จะสูงขึ้น หลังจากที่ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศเพิ่มขึ้น 4% QoQ เป็น 32.94 บาท/ลิตร ใน 3Q67 ในขณะเดียวกันราคาน้ำมันเตากำมะถันสูง (HSFO) ซึ่งเป็นต้นทุนเชื้อเพลิงของธุรกิจขนส่ง LPG ทางทะเลยังลดลง QoQ ใน 3QTD67 ตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ดังนั้นเราจึงมองว่าทั้งอัตราค่าระวางที่สูงขึ้นและต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลงน่าจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจขนส่ง LPG ทางเรือ
ของ PLT ใน 3Q67F เพิ่มขึ้น QoQ
มีแผนจะซื้อเรือเพิ่มอีกหนึ่งลำในปี 2568F
ผู้บริหารตั้งเป้าจะซื้อเรือมือสองระวางบรรทุกประมาณ 5,000 CBM เพิ่มอีกหนึ่งลำในปีหน้า ซึ่งจะทำให้จำนวนเรือบรรทุก LPG ในกองเรือของ PLT เพิ่มขึ้นเป็น 21 ลำ จาก 20 ลำในปัจจุบัน ทั้งนี้เราได้รวมเรือลำใหม่นี้เข้าไว้ในประมาณการกำไรปี 2568F ของเราเรียบร้อยอยู่แล้ว
Valuation
เรายังคงคำแนะนำซื้อ PLT และประเมินราคาเป้าหมายปี 2567F ที่ 1.14 บาท อิงจาก PE ที่ 15.0x เราเชื่อ
ว่าราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะดีขึ้นใน 3Q67 เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้เอาไว้ที่ 88 ล้านบาท (+99% YoY) และปีหน้าที่ 110 ล้านบาท (+26% YoY)
Risks
ความผันผวนของราคาน้ำมันดีเซล, อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจเรือบรรทุก LPG และรถบรรทุก LPG
