วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้นขึ้นต่อ

ขณะที่ช่วงเย็นนักลงทุนติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดในงานประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,354.87 ลบ. +13.84 จุด +1.03% มูลค่าการซื้อขาย 62,545.75 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี 51.87 จุด +3.98%) Program Trading +1,016.57 ลบ. ต่างชาติ +2,842.55 ลบ. TFEX +15,472 สัญญา ตราสารหนี้ -2,087.06 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 462.30 จุด หรือ +1.14% เนื่องจากความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 1.82 ดอลลาร์ หรือ +2.49% ปิดที่ 74.83 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เฟดเตรียมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย.
+ รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่าร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ อยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ หลังจากคณะกรรมาธิการ เพื่อพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร
+/- เงินบาทเปิด 33.93 แข็งค่าสุดในรอบ 1 ปี 1 เดือนหลัง FED ส่งสัญญาณชัดลดดอกเบี้ย    

ปัจจัยลบ

- สิงคโปร์ประกาศคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศตามจุดผ่านแดนต่าง ๆ พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันเพื่อสกัดกั้นโรคฝีดาษลิง (mpox) ที่กำลังแพร่ระบาดในหลายประเทศของทวีปแอฟริกา
- คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวต่อรัฐสภาญี่ปุ่นว่า BOJ พร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นไปตามคาด โดยยังคงจับตาสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิด
 

 

- โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกันขู่เรียกเก็บภาษีในอัตราสูงจากประเทศที่ปฏิเสธรับผู้อพยพที่ถูกเนรเทศซึ่งบ่งชี้ว่านโยบายการย้ายถิ่นฐานและการค้าของเขาอาจเกี่ยวข้องกันใกล้ชิดหากเขาคว้าชัยเลือกตั้ง
- กองทัพอิสราเอลแถลงการณ์ว่าเครื่องบินรบอิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศในเลบานอน หลังประเมินว่ากลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ (Hezbollah) ที่มีอิหร่านหนุนหลังเตรียมยิงจรวดและขีปนาวุธถล่มอิสราเอล
- สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคเหนือ ส่วนกรมอุตุฯเตือนฝนตกเพิ่มขึ้น 44 จังหวัดเตรียมรับมือน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก
- ตลท. สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-23 สิงหาคม 2567 พบว่าสถาบัน ในประเทศซื้อสุทธิ 6,168.50 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 3,223.18 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 125,927.03 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 122,981.72 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย. ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น หนุนกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ 1,350-1,360 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
• MSCI Global Standard Indexes เข้า – ออก AWC EA GPSC IVL MSCI Small Cap Indexes เข้า BJC EA KAMART TLI ออก BA BYD EPG NEX ORI PTG RBF THANI SC SJWD SKY SNNP THCOM มีผล 2 ก.ย.
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS
• FTSE Large Cap เข้า – ออก CRC EA MINT PTTGC OR FTSE Mid Cap เข้า – ออก BLA
• หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำท่วม : TASCO DOHOME GLOBAL DCC DRT TOA DPAINT

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

BDMS "ซื้อ" Bloomberg Consensus 35 บาท Upside 33%
"มุมมองบวกต่อแนวโน้ม 2H67 โดยคาด 3Q67 จะเป็นจุดสูงสุดของปีนี้"

•งวด 2Q67 มีกำไร 3,335 ลบ. +9%YoY -18%QoQ โดยมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 24,694 ลบ. +7%YoY -3%QoQ โดยหลักมาจากกลุ่มคนไข้ต่างชาติ +11%YoY และ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นสู่ 27% (2Q66 = 26%, 1Q67 = 30%) จากการเพิ่มขึ้นของชาว Qatar, UAE และ USA ประกอบกับการเติบโตของ รพ.ในจังหวัดท่องเที่ยว อาทิ เชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ต แต่ปรับตัวลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล ส่วน %EBITDA ทรงตัวที่ระดับ 22.1% (2Q66 = 22.6%, 1Q67 = 25.2%) อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีปรับลดลงมาที่ 18% จากเฉลี่ย 20% จาก BOI โครงการ Digital Core Transformation มูลค่าลงทุน 1,100 ลบ. สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีราว 400 ลบ. ในระยะเวลา 3 ปี (ปี 67-70) ทั้งนี้ 1H67 มีกำไร 7,408 ลบ. +13%YoY

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 2H67 ที่มีแนวโน้มเติบโตดีตั้งแต่ 3Q67 จากจำนวนผู้ป่วยในประเทศและต่างชาติที่เพิ่มขึ้น สะท้อนรายได้ช่วงเดือน ก.ค. +11%YoY ประกอบกับการเข้าสู่ฤดูฝนและจะเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ ส่วน 4Q67 จะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 67 และราคาเหมาะสมราว 15,909 ลบ. +11%YoY (กำไร 1H67 คิดเป็น 47%) และ 35 บาท Upside 33% ตามลำดับ แนะนำ "ซื้อ"

หุ้นมีข่าว

(+) WHAUP (Bloomberg Consensus 5.20 บาท) ส่งสัญญาณธุรกิจครึ่งปีหลังฟอร์มแจ่ม รับอานิสงส์ดีมานด์ธุรกิจน้ำ-ไฟฟ้าพุ่ง พร้อมลุยต่อยอดลงทุนธุรกิจพลังงานสะอาด ผ่านโซลูชันใหม่ๆ และ Green Logistics สอดรับแผนการลงทุน WHA Group เผยปัจจุบันมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 932 เมกะวัตต์ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NCAP (Bloomberg Consensus - บาท) เผยครึ่งปีหลัง 2567 พอร์ตสินเชื่อรถจักรยานยนต์ โตใกล้เคียงครึ่งปีแรกที่ 5% ยันมีปัจจัยหนุนจากการท่องเที่ยว พร้อมเน้นรักษาพื้นที่แข็งแกร่งโซนภาคใต้ยึดหลักกลยุทธ์บริหารหนี้ให้มีคุณภาพด้วยการคัดเลือกลูกค้าและดีลเลอร์ ตั้งแต่ต้นทาง เป้าคุม NPL สิ้นปีที่ 2% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BEM (Bloomberg Consensus 10.95 บาท) กทพ. ไฟเขียว BEM งานสร้างทางด่วน 2 ชั้น มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท แลกขยายสัมปทานขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 กว่า 22 ปี 5 เดือน เซ็นสัญญาปีนี้ เริ่มก่อสร้างทันที หลังแจงป.ป.ช. ห่วงเอื้อเอกชน ยันให้ BEM ก่อสร้างคุ้มกว่า รัฐไม่ต้องใช้งบประมาณ หากเปิดประมูลใหม่ต้นทุนพุ่ง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BTG (Bloomberg Consensus 26.00 บาท) “เบทาโกร” ผ่านจุดต่ำสุด! มั่นใจผลงานครึ่งหลังปีนี้โตกว่าครึ่งปีแรก คาดยอดขายเพิ่มขึ้นตามดีมานด์บริโภคทั้งในไทยและต่างประเทศแข็งแกร่ง บวกราคาขายหมู-ไก่สูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนผลิตทรงตัว โชว์ออเดอร์ทะลักถึงสิ้นปีแล้ว ย้ำยอดขายปีนี้โต 5-10% (ที่มา ทันหุ้น)