วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ปรับ MSCI
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Down พักตัวต่อเนื่อง หลังจากช่วงที่ผ่านมาดัชนี ปรับตัวขึ้นแรง โดยวานนี้นักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ GDP งวด 2Q67 (ประมาณการครั้งที่ 2)
แรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ จาก sentiment หุ้น Nvidia ที่ปรับตัวลง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,357.41 จุด -8.31 จุด -0.61% มูลค่าการซื้อขาย 35,372.62 ลบ. Program Trading +179.35 ลบ. ต่างชาติ +967.93 ลบ. TFEX -13,828 สัญญา ตราสารหนี้ -1,318.87 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 243.63 จุด หรือ +0.59% ขานรับตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ที่ขยายตัวแข็งแกร่งใน 2Q67 แต่ ผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ฉุดดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดลบ
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.39 ดอลลาร์ หรือ +1.87% ปิดที่ 75.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากแนวโน้มอุปทานน้ำมันในตลาดโลกตึงตัว หลังจากลิเบียระงับการผลิตน้ำมันและอิรักวางแผนปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
+ สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP ประจำไตรมาส 2Q67 ว่า ขยายตัว 3% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้ง ที่ 1 ที่ระดับ 2.8% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ที่ระดับ 2.8% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและ การลงทุนของภาคเอกชน
+ สหรัฐฯ เปิดเผยว่าตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 232,000 ราย
ปัจจัยลบ
- รัสเซียเตรียมเปิดฉากรุกกลับเพื่อยึดคืนพื้นที่ในแคว้นคูสค์ ที่กองทัพยูเครนยึดครองไปก่อนหน้านี้
- กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) เปิดเผยว่าได้สังหารนักรบระดับสูงของกลุ่มติดอาวุธญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ (PIJ) ใกล้กับชายแดนซีเรีย-เลบานอน
-ญี่ปุ่นรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ได้แก่ อัตราว่างงานแตะระดับ 2.7% ในเดือนก.ค. 2567 เพิ่มขึ้นจาก 2.5% ในเดือนมิ.ย. และยอดค้าปลีกในเดือนก.ค. 2567 ขยายตัว 2.6%YoY ลดลงจาก 3.7% ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 2.9%
- หอการค้าไทยและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประเมิน มูลค่าความเสียหายสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือเบื้องต้นประมาณ 4-6 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 0.02-0.03% ของ GDP
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้แกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงหนุนจากตัวเลข GDP ของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งใน 2Q67 ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ดีดตัวขึ้น หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่การปรับน้ำหนัก MSCI ช่วงท้ายตลาดอาจทำให้ดัชนีผันผวน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ 1,350-1,365 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• MSCI Global Standard Indexes เข้า – ออก AWC EA GPSC IVL MSCI Small Cap Indexes เข้า BJC EA KAMART TLI ออก BA BYD EPG NEX ORI PTG RBF THANI SC SJWD SKY SNNP THCOM ใช้ราคาปิด 30 ส.ค.
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS
• FTSE Large Cap เข้า – ออก CRC EA MINT PTTGC OR FTSE Mid Cap เข้า – ออก BLA มีผล 6 ก.ย.
• หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำท่วม : TASCO DOHOME GLOBAL DCC DRT TOA DPAINT
• Thailand Focus 2024 : GULF ADVANC BH BDMS BBIK BE8 BCP BBGI
• ยอดส่งออกไทยเดือน ก.ค. เติบโต : STA NER CPF GFPT AAI ITC
หุ้นรายงานพิเศษ
EGCO "ซื้อ" (IAA Consensus 128.00 บาท)
"กำไรงวด 2Q67 เท่ากับ 1.4 พันล้านบาท -16&QoQ, -5%YoY"
•งวด 2Q67 บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 1,393 ลบ. -16%QoQ, -5%YoY สาเหตุหลักจาก มีการรับรู้ผลขาดทุนสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงินเพิ่มขึ้นจานวน -426 ลบ. โดยมีรายได้รวมเท่ากับ 11,511 ลบ. +1%QoQ, -26%YoY บริษัทมีกำไรจากการดำนินงาน 1,819 ลบ. +14%QoQ, -31%YoY เติบโต QoQ จากโครงการเคซอน(QPL) เอสบีพีแอล และบีแอลซีพี มีปริมาณขายไฟเพิ่มขึ้น รายได้ลดลง YoY จากโครงการพาจู อีเอส และบฟข. มีปริมาณการขายไฟฟ้าลดลง จากการ ซ่อมบำรุงตามแผน ในช่วง 1H67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,055 ลบ. -12%YoY
•ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานในช่วง 2H67 เนื่องจากความคืบหน้าของโครงการ Yunlin ที่บริษัทสามารถติดตั้งเสา Monopile ได้ครบ 80 ตัว โดยคาดว่าจะ COD ในช่วง 4Q67 และโครงการเคซอน(QPL) สัญญาซื้อขายไฟใหม่จะเสร็จสิ้นภายในปี 67 สำหรับสัญญาเต็มรูปแบบจะเสร็จในปี 69 โดย IAA Consensus คาดกำไรปี 67 เฉลี่ย 7,181 ลบ. พลิกจากขาดทุนในปี 66 กำไรในช่วง 1H67 คิดเป็นสัดส่วน 43% ของประมาณการทั้งปี และมีราคาเหมาะสมเฉลี่ย 128.00 บาท บริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 3.25 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 ก.ย. 67 คิดเป็น Dividend Yield 3% ราคามี upside จากราคาเหมาะสมราว 20% เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) TEGH (Bloomberg Consensus 4.80 บาท) เข้าโหมดเติบโตรอบใหม่ คาดยอดขายยางแท่งปีนี้พุ่งออลไทม์ไฮ จากแรงหนุนปริมาณขายยาง EUDR สินค้ามาร์จิ้นสูง ลั่นไตรมาส 3/67 พีกสุดรอบปีนี้ จ่อบุ๊กรายได้ขายก๊าซชีวภาพให้ GGC นอกจากนี้ซุ่มศึกษาผลิตภัณฑ์ต่อยอดธุรกิจปาล์ม เช่น สกินแคร์ หนุนโตยั่งยืนในอนาคต (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) PLUS (Bloomberg Consensus 6.30 บาท) “โรแยล พลัส” คาดแนวโน้มครึ่งปีหลังโต รับ
ไฮซีซั่นธุรกิจในภูมิภาคยุโรปและสหรัฐฯ ผลิตภัณฑ์ใหม่เครื่องดื่มน้ำมะพร้าว 100% โกยเงิน เดินหน้าขยายตลาดและหาพันธมิตรลูกค้าใหม่ต่อเนื่อง เล็งปิดดีลลูกค้ารายใหญ่ภายในปีนี้ ดันยอดขายปีหน้าโตก้าวกระโดด (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) CH (Bloomberg Consensus 3.50 บาท) ลั่นรายได้ปีนี้มีโอกาสทะลุเป้าแตะ 2,000 ล้านบาท ตุนออเดอร์ครอบคลุมเป้าทั้งปีแล้ว ส่วนครึ่งปีหลังดีต่อเนื่อง อานิสงส์ภาวะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าดีขึ้น บวกท่องเที่ยวไทยไฮซีซั่น หนุนอาหารแปรรูปและขนมคึกคัก (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) WPH (Bloomberg Consensus - บาท) ลั่นผลงานครึ่งปีหลัง รายได้และกำไรโตเร้าใจ รับเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น หนุนผู้ป่วยไทย-ต่างชาติเพิ่มขึ้น ย้ำรายได้ปีนี้ออลไทม์ไฮทะลุ 1,900 ล้านบาท ผนึก EKH จ่อเปิดให้บริการโรงพยาบาลคูน อ่าวนาง ภายในไตรมาส 4/68 (ที่มา ข่าวหุ้น)