วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก PCE ต่ำคาด

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก PCE ต่ำคาด

วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยได้แรงหนุนจากสหรัฐประกาศประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP ไตรมาส 2/67 ขยายตัว 3.0% สูงกว่าคาด รวมทั้งช่วงบ่าย ธปท. เผยเศรษฐกิจไทยเดือนก.ย. ฟื้นตัวจากส่งออกและท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตามดัชนีปรับตัวขึ้นได้จำกัด จากการ ปรับน้ำหนัก MSCI มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และไอซีที ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,359.07 จุด +1.66 จุด +0.12% มูลค่าการซื้อขาย 60,052.99 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี +4.20 จุด +0.31% และเดือนที่ผ่านมาดัชนี +38.21 จุด +2.89%) Program Trading -3,662.77 ลบ. ต่างชาติ -3,184.24 ลบ. TFEX -6,854 สัญญา ตราสารหนี้ -3,180.61 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 228.03 จุด หรือ +0.55% ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่ 2 ติดต่อกันหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ของสหรัฐฯ สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย. ในรอบเดือนส.ค. ดัชนีดาวโจนส์ +1.8% ดัชนี S&P500 +2.3% และดัชนี Nasdaq +0.6%
+สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (PCE) รวมหมวดอาหารและพลังงาน + 2.5%YoY ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ +2.6%YoY จาก +2.5%YoY ในเดือนมิ.ย. ดัชนี PCE ทั่วไป + 0.2%MoM ในเดือนก.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ +0.1%MoM ในเดือนมิ.ย.
+สหรัฐฯ เปิดเผยว่าการใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคในเดือนก.ค. +0.5% สอดคล้องคาดการณ์ จากระดับ 0.3% ในเดือนมิ.ย.บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง
+ FedWatch Tool บ่งชี้ว่าบรรดาเทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนก.ย. ขณะที่มีโอกาสน้อยลงที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 0.5%
+เงินเฟ้อในยูโรโซนลดลงสู่ระดับ 2.2% ในเดือนส.ค. ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2564 และใกล้เป้าหมายที่ระดับ 2% สนับสนุนคาดการณ์ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมเดือนก.ย.
+เช้านี้ค่าเงินบาทเปิดที่ระดับ 34.08 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงหนัก” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 33.88 บาทต่อดอลลาร์

ปัจจัยลบ 

 

 

-จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตลดลงสู่ 49.1 ในเดือนส.ค. จาก 49.4 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 49.5 หดตัวติดต่อกันเดือนที่ 4 ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน
- สรท.รายงานว่าการที่เงินบาทแข็งค่าเร็วในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาส่งผลให้รายได้ส่งออกไทยหาย 1.7 ล้านล้านบาท คาดไตรมาส 4 กระทบหนัก
-8M67 ตลท.รายงานนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1.24 แสนล้านบาท
-สถานการณ์น้ำท่วมหนักในภาคเหนือขณะที่กรมอุตุฯเตือน 3-6 กันยายนจะมีร่องมรสุมพาดผ่านเหนือกลาง อีสาน อีกระลอก ระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าหลาก

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามดาวโจนส์หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหลัง PCE อยู่ที่ 2.50% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นสู่ 67.9 จุด อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงเป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,355-1,370 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS
• FTSE Large Cap เข้า – ออก CRC EA MINT PTTGC OR FTSE Mid Cap เข้า – ออก BLA มีผล 6 ก.ย.
• หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำท่วม : TASCO DOHOME GLOBAL DCC DRT TOA DPAINT
• Thailand Focus 2024 : GULF ADVANC BH BDMS BBIK BE8 BCP BBGI
• ยอดส่งออกไทยเดือน ก.ค. เติบโต : STA NER CPF GFPT AAI ITC

 

หุ้นรายงานพิเศษ

CK "ซื้อ"  Bloomberg Consensus 26.75 บาท มีอัพไซต์  42%
"การจัดตั้งครม.ใกล้แล้วเสร็จ สร้าง Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มรับเหมาฯ"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก PCE ต่ำคาด

การจัดตั้งครม.ใกล้แล้วเสร็จ หลังจากโผรายชื่อครม.เริ่มนิ่ง ล่าสุดเหลือเพียงตรวจสอบคุณสมบัติ และมีโอกาสที่จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯภายในอาทิตย์นี้ (2-6 ก.ย.) ซึ่งหากแล้วเสร็จคาดจะสร้าง Sentiment เชิงบวกให้กับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจาก 2 ประเด็นดังนี้ 1) การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ โดยงบประมาณลงทุนของกระทรวงคมนาคมปีนี้ที่ 1.7 แสนลบ. ซึ่งตั้งแต่เดือน ต.ค. 66-ส.ค.67 ถูกใช้ไปเพียง 50% จึงมีโอกาสถูกเร่งเบิกจ่ายสูง และ 2) ภายหลัง การจัดตั้งครม.แล้วเสร็จ คาดโครงการที่อยู่ใน Roadmap จำนวน 13 เมกะโปรเจกต์ วงเงินกว่า 7.2 แสนลบ. ที่เตรียมรอเสนอให้กับรัฐบาลชุดใหม่ จะมีความคืบหน้ามากขึ้น

เรามองเป็นบวกกับทั้งกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยชื่นชอบ CK มากสุด เนื่องจากแม้ 2H67 จะเป็น Low Season ของกลุ่มดังกล่าวเนื่องจากเป็นฤดูฝนและมีวันหยุดยาวช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม คาดผลประกอบการจะถูกชดเชยจากบริษัทร่วมที่เติบโตดี อาทิ BEM CKP และยังมีปันผลจาก TTW รวมทั้งมี Backlog ที่สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 2.2 แสนลบ. เพียงพอต่อการรับรู้ 3-4 ปี ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกาไรปี 67 และ ราคาเหมาะสมราว 1,786 ลบ. +19%YoY (1H67 คิดเป็นเพียง 34%) และ 26.75 บาท มีอัพไซต์ 42% แนะนา "ซื้อ"

หุ้นมีข่าว

(+) BH (Bloomberg Consensus 296.00 บาท) ชี้ลูกค้าต่างชาติไตรมาส 3/2567 พุ่ง รับไฮซีซัน อานิสงส์รัฐบาลหนุน ดันผลดำเนินงานนิวไฮ มอง "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" เอื้อธุรกิจโรงพยาบาลโต เผยอยู่ระหว่างศึกษาก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่หลายแห่ง หลังรพ.เดิมเริ่มแน่น ชัดเจนแล้ว 1 แห่งร่วมกับพันธมิตร ส่วนที่ภูเก็ตกำหนดเปิดปี 2568-69 ด้านโบรกอัพกำไรปี 2567 เป็น 7.83 พันล้านบาท โต 12% จากปีก่อน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BA (Bloomberg Consensus 26.87 บาท) ปลื้มยอดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้ายาวถึงไตรมาส 1/2568 มั่นใจทั้งปีขนส่งผู้โดยสาร 4.5 ล้านคน ขณะที่ราคาน้ำมันผันผวน ขาลงระยะสั้นหนุนทำกำไรไตรมาส 3/2567 เผยเริ่มใช้น้ำมัน SAF พร้อมรับการปรับกฎเกณฑ์สนามบินทั่วโลก และยังคงงบลงทุน 2.3 พันล้านบาท ยกระดับสนามบินตราด และสนามบินสมุย ตามแผนระยะ 3 ปี (2567-2569) (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WHA (Bloomberg Consensus 6.00 บาท) ปรับเป้ายอดขายที่ดินในไทยขึ้นเป็น 2,250-2,300 ไร่ พร้อมปรับเป้ายอดขายที่ดินรวมทั้งปี 2567 ขึ้นเป็น 2,400 ไร่ รับกระแสต่างชาติระดับโลกย้ายฐานลงทุนในไทยมั่นใจปิดดีลลูกค้าเทครายใหญ่ไตรมาส 3/2567 นี้ พร้อมเดินหน้าแตกไลน์งานบริหารจัดการและบริการเพื่อความยั่งยืน (ESG) รองรับความต้องการลูกค้าทั่วโลก (ที่มา ทันหุ้น)

(+) GABLE (Bloomberg Consensus 4.95 บาท) ส่งซิกไตรมาส 3/2567 ฟอร์มแจ่ม รับงานทะลักดันกำไรขั้นต้นพุ่ง พร้อมปรับกรอบรายได้ปีนี้ใหม่เป็นเติบโต 10-15% จากปีก่อน หลังตุนแบ็กล็อกแน่นกว่า 5 พันล้านบาท แถมใส่เกียร์รุกโครงการใหม่เติมพอร์ตเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)