วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก กังวลเศรษฐกิจถดถอย
วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway up ได้แรงหนุนจากสำนักงานงบประมาณ ชี้ว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตสามารถแจกได้ทันที หากได้รัฐบาลชุดใหม่ ขณะที่การจัดตั้ง ครม. มีความคืบหน้ามากขึ้น คาดจะสามารถจัดตั้งได้ภายในกลางเดือนก.ย.นี้
มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มค้าปลีก ธนาคาร และขนส่ง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,364.60 จุด +10.96 จุด +0.81% มูลค่าการซื้อขาย 42,261.36 ลบ. Program Trading -833.29 ลบ. ต่างชาติ -699.64 ลบ. TFEX -1,583 สัญญา ตราสารหนี้ -956.11 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ภาพรวมการท่องเที่ยวประเทศไทย มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่ 1 มกราคม-1 กันยายน 2567 อยู่ที่ 23,640,205 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 1,111,380 ล้านบาท
+ สนค. ได้ติดตามข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของประเทศกลุ่มอาเซียน โดยพบว่าเงินเฟ้อเฉลี่ย 6 เดือนแรกของปี 67 (ม.ค.-มิ.ย.) ของไทยเทียบกับ 9 ชาติในอาเซียน ไทยมีเงินเฟ้อต่ำเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาครองจากบรูไนที่ติดลบ 0.26% ซึ่งไทยมีอัตราเงินเฟ้อเท่ากับ 0 หรือไม่เปลี่ยนแปลง
+ สรท. เปิดเผยว่า ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนกรกฎาคม 2567) การส่งออกมีมูลค่า 25,720.6 ขยายตัว 15.2%YoY และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 938,285 ล้านบาท ขยายตัว 21.8%YoY
+ ฐานข้อมูล CEIC ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 6 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.) เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนของประเทศไทยต่ำเป็นอันดับที่สองรองจากบรูไนจากทั้งหมด 9 ประเทศในอาเซียน ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ในช่วง 7M67 ของไทยอยู่ที่ 0.42% เฉพาะเดือนก.ค.เท่ากับ 0.52%
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 626.15 จุด หรือ -1.51% หลังมีรายงานว่า ภาคการผลิตของสหรัฐฯ หดตัวลงอย่างต่อเนื่องเพิ่มกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากเท่าใด
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วงลง 3.21 ดอลลาร์ หรือ -4.36% ปิดที่ 70.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบเกือบ 9 เดือนหลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าข้อพิพาทด้านการเมืองในลิเบียมีแนวโน้มคลี่คลาย ทั้งนี้ข้อพิพาทดังกล่าวส่งผลให้ลิเบียระงับการผลิตและการส่งออกน้ำมันดิบในช่วงที่ผ่านมา
- สหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 47.2 จากระดับ 46.8 ในเดือนก.ค.ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566 และต่ำกว่า ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 47.5
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.9 ในเดือนส.ค. จากระดับ 49.6 ในเดือนก.ค. โดยดัชนี PMI อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตสหรัฐฯ อยู่ในภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวติดต่อกันเดือนที่ 2
- นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวหาว่ารัฐบาล สหราชอาณาจักรตัดสินใจที่น่าละอายในการประกาศระงับการส่งออกอาวุธบางรายการให้แก่อิสราเอล
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงกดดันจากรายงานว่าภาคการผลิตของสหรัฐ หดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ประกอบกับราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,350-1,365 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS
• FTSE Large Cap เข้า – ออก CRC EA MINT PTTGC OR FTSE Mid Cap เข้า – ออก BLA มีผล 6 ก.ย.
• หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำท่วม : TASCO DOHOME GLOBAL DCC DRT TOA DPAINT
• Thailand Focus 2024 : GULF ADVANC BH BDMS BBIK BE8 BCP BBGI
• ยอดส่งออกไทยเดือน ก.ค. เติบโต : STA NER CPF GFPT AAI ITC
หุ้นรายงานพิเศษ
MASTER (ราคาเหมาะสม 53.00 บาท)
แนวโน้มผลประกอบการ 2H67 เติบโตต่อเนื่อง
•แนวโน้มผลประกอบการ 2H67 เติบโตต่อเนื่อง : คาดผลประกอบการ 2H67 ยังขยายตัวได้ดี เนื่องจากธุรกิจจะเริ่มเข้าสู่ High Season ในช่วงไตรมาส 3 ขณะที่ทิศทางของลูกค้าต่างชาติเติบโตดีต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสัดส่วนของลูกค้าต่างชาติอยู่ที่ระดับ 24% โดยเป็นกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีนและอินโดนีเซีย ซึ่งรายได้จากลูกค้าต่างชาติเป็นหนึ่งใน Key growth ในระยะยาว โดยบริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้ต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 25-30% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เราคงประมาณรายได้และกำไรปีสุทธิปี 67 เท่ากับ 2,200 ล้านบาท และ 468 ล้านบาท เติบโต +15%YoY และ +12%YoY ตามลำดับ
•คงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 67 เท่ากับ 53.00 บาท : ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าด้วยวิธี P/E Ratio โดยอิง PER 30 เท่า (เทียบค่าเฉลี่ยย้อนหลัง – 0.5SD) เนื่องจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สูงขึ้น ได้ราคาเหมาะสมปี 67 เท่ากับ 53.00 บาท ยังมี Upside จากราคาปัจจุบัน คงคำแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) D (Bloomberg Consensus 3.14 บาท) แย้มผลงานครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก เหตุธุรกิจทันตกรรมยังดี รับดีมานด์ลูกค้าคลินิกทำฟันขยายตัว และมีรายได้ขายยาสีฟัน ELITE SMLE เข้ามาเสริม กางแผน 3 ปี ยกระดับคลินิกทำฟันในเชียงใหม่-ภูเก็ต เป็น “โรงพยาบาลทำฟัน” เหมือน รพ.BIDH เดินหน้าบุกตลาด CLMV และอาหรับ (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) DOD (Bloomberg Consensus - บาท) “ดีโอดี” ส่งซิกครึ่งปีหลังแจ่ม! หลังกลุ่มแพทย์–เภสัช กลุ่มคอสเมติคส์-กลุ่มคลินิกเสริมความงาม จ่อสั่งออเดอร์ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพียบเฉลี่ย 60-70 SKUs ต่อเดือน มั่นใจปี 2567 โกยรายได้รวม 1,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) JR (Bloomberg Consensus - บาท) ประกาศคว้างานโครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยแห่งใหม่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รังสิต กับ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มูลค่าโครงการ 65 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกพุ่ง 8,331 ล้านบาท ผู้บริหาร "สุรเดช" เดินหน้ากลยุทธ์ Quick Win เต็มพิกัด ลุยประมูลงานใหม่ หวังเติมแบ็กล็อกแตะ 10,000 ล้านบาท ดันรายได้ปีนี้โตตามเป้า (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) BBIK (Bloomberg Consensus 46.00 บาท) โชว์แบ็กล็อกนิวไฮ 1,377 ล้านบาท หนุนผลประกอบการครึ่งปีหลังโตแกร่ง มั่นใจทุบสถิติโตต่อเนื่อง 8 ปีซ้อน ชูดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของภาคธุรกิจทยอยกลับมาดำเนินการ (ที่มาข่าวหุ้น)