กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ ยังแกร่งกว่าตลาดหุ้นโลก ตามปัจจัยบวกภายในประเทศ

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ ยังแกร่งกว่าตลาดหุ้นโลก ตามปัจจัยบวกภายในประเทศ

หุ้นไทยมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ แรงหนุนหลักๆ ยังเป็นกองทุนวายุภักษ์ และมาตรการกระตุ้นการบริโภคที่กำลังจะออกมา

ในสัปดาห์ที่แล้ว (2-6 กันยายน) ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวโดดเด่น สวนทางกับตลาดหุ้นโลก และ ตลาดหุ้นเอเชียที่ย่อลงมาเพื่อสะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนดัชนี SET มีดังนี้

ปัจจัยแรก คือ มีการประกาศรายละเอียดของการออกกองทุนวายุภักษ์ใหม่ ทั้งกรอบเวลา ขนาด และผลตอบแทนที่รับประกัน ซึ่งช่วยเสริมความมั่นใจต่อตลาดหุ้นไทยอของนักลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีแผนจะเริ่มดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการแจกเงินสดในเดือนนี้

ปัจจัยที่สอง คือ กระแสเงินลงทุนในหุ้นจากต่างชาติแข็งแกร่งเกินคาดอย่างมาก เนื่องจากความมั่นใจที่
เพิ่มขึ้นต่อรัฐบาลใหม่, แนวโน้มการฟื้นตัวของ GDP ใน 2H67 และ เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างมากเพราะ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงแรงจากแนวโน้มการลดดอกเบี้ยสหรัฐ

สำหรับในสัปดาห์นี้ (9-13 กันยายน) เราคิดว่าดัชนี SET น่าจะขึ้นต่อได้ และ outperform ตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเรามองว่าแนวโน้มบวกของตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มาจากปัจจัยดังต่อไปนี้

ปัจจัยแรก ยังคงเป็นความคาดหวังต่อกองทุนวายุภักษ์ใหม่ และ การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการกระตุ้นการบริโภค โดยจะมีการเปิดขาย IPO ให้กับนักลงทุนรายย่อยในวันที่ 16-20 กันยายน และ คาดว่ากระทรวงการคลังจะเริ่มนำเม็ดเงินใหม่เข้ามาลงทุนในหุ้นไทยในเดือนตุลาคม

ปัจจัยที่สอง คือ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ โดยเฉพาะการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสิงหาคมที่
ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ทำให้ Fed Fund Futures สะท้อนความคาดหวังว่าจะมีการลดดอกเบี้ย
125bps ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ดังนั้น เราจึงคาดว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะลดลง และ เงินบาทจะแข็งค่า
ขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อกระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ทางการเงินของไทย

 

 

 

ติดตาม CPI สหรัฐเดือนสิงหาคม, การเปิดตัว iPhone 16 และ กระแสข่าวด้านนโยบายเศรษฐกิจจากรัฐบาลใหม่

ปัจจัยต่างประเทศ: นักลงทุนควรติดตาม i) ดัชนีเงินเฟ้อ CPI เดือนสิงหาคมของสหรัฐในวันที่ 11 กันยายน โดย consensus คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (headline inflation) จะอยู่ที่ 2.6% YoY (2.9% YoYในเดือนกรกฎาคม) และ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (core inflation) จะอยู่ที่ 3.2% YoY (จาก 3.2% YoY ในเดือนกรกฎาคม) ii) การเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐจากการที่ Apple Inc. มีกำหนดจะเปิดตัว iPhone 16 และ สินค้าใหม่ในวันที่ 9 กันยายน

ปัจจัยในประเทศ: นักลงทุนควรติดตามการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ต่อสภาในช่วงวันที่ 12-13 กันยายน... ซึ่งนอกจากประเด็นเด่นอย่างนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินสดแล้ว แผนปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนทั่วประเทศยังอาจจะมีนัยยะต่อหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องด้วย

ยังเน้นหุ้นตามกลยุทธ์เดือนกันยายน และ หุ้น laggard ที่เป็นเป้าการลงทุนของ ‘กองทุนวายุภักษ์’

เรามองว่าหุ้น domestic plays น่าจะยัง outperform อย่างต่อเนื่อง จากความคาดหวังจากประเด็นในประเทศดังกล่าวไปแล้วข้างต้น และ ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะกดดันหุ้นที่อ่อนไหวกับวัฏจักรเศรษฐกิจโลก เรายังคงเกาะอยู่กับหุ้นเด่นที่เราคัดไว้สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเดือนกันยายน อย่างเช่น CPAXT, CBG*, TFG, AAV* และ GPSC* นอกจากนี้ เรายังมองว่าหุ้น laggard ในกลุ่มที่อาจจะเป็นเป้าหมายการลงทุนของของกองทุนวายุภักษ์ มีความน่าสนใจ โดยหุ้นที่น่าสนใจในธีมนี้ได้แก่ BDMS*, BH*, HMPRO* และ CPN*

 

 

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ ยังแกร่งกว่าตลาดหุ้นโลก ตามปัจจัยบวกภายในประเทศ