วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีพักตัว โดยมีแรงกดดันในหุ้นกลุ่มพลังงาน จากรัฐแถลงนโยบายเร่งด่วนต่อรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ชี้ว่ารัฐจะเร่งออกมาตรการเพื่อลดค่าพลังงานและสาธารณูปโภค อย่างไรก็ตามนักลงทุน จับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันนี้

เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ รวมทั้งการแถลงนโยบายรัฐในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,428.03 จุด -3.10 จุด -0.22% มูลค่าการซื้อขาย 64,216.02 ลบ. Program Trading +1,099.33 ลบ. ต่างชาติ +560.29 ลบ. TFEX -1,327 สัญญา ตราสารหนี้ -720.10 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ จีนรายงานว่ายอดส่งออกพุ่งขึ้น 8.7%YoY ในเดือนส.ค. แข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 6.5% และดีกว่าในเดือนก.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 7%
+ ตลท. เปิดเผยว่าการฟื้นตัวของดัชนีหุ้นไทยขณะนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่เกิดจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและบริษัทจดทะเบียนมีกำไรเติบโต 10% ซึ่งเป็นโมเมนตัมที่ค่อยๆ เห็นชัดขึ้น
+ SCB EIC มองภาคการก่อสร้างภาครัฐปี 67 มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหลังจากงบประมาณประจำปี 67 ประกาศใช้ สำหรับปี 68 มูลค่าการก่อสร้างภาครัฐมีแนวโน้มขยายตัว 3%

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 92.63 จุด หรือ -0.23% โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน ส่วนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดบวกติดต่อกันวันที่ 2 ขานรับการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 2.96 ดอลลาร์ หรือ -4.31 ปิดที่ 65.75 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้และปีหน้า
- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวเปิดเผยว่าสหรัฐอเมริกาจะติดตามการซ้อมรบร่วมระหว่างจีนกับรัสเซียที่กำลังจะเกิดขึ้นในทะเลญี่ปุ่น และน่านน้ำใกล้เคียง ขณะที่ความร่วมมือทางการทหารระหว่างสองชาติขยายใหญ่ขึ้น


 

- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายด้วยคะแนนเสียง 306 ต่อ 81 และส่งต่อไปยังวุฒิสภาซึ่งจะนำไปสู่การขึ้นบัญชีดำบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของจีนและบริษัทในเครือที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ
- ม.หอการค้าไทยเผยปี 67 ครัวเรือนไทยมีหนี้เฉลี่ย 6.06 แสนบาท สูงสุดรอบ 16 ปี เหตุเศรษฐกิจชะลอค่าครองชีพสูง รายได้ไม่พอรายจ่าย กังวล 6 เดือนข้างหน้าอาจจะส่งไม่ไหวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สัดส่วนหนี้ต่อ GDP ที่สูงถึง 90.8% ยังไม่น่ากลัว เพราะส่วนใหญ่กู้เพื่อสร้าง ความมั่นคงในชีวิต

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนจับตาการเปิดเผย CPI ของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,420-1,435 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS
• หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำท่วม : TASCO DOHOME GLOBAL DCC DRT TOA DPAINT
• ยอดส่งออกไทยเดือน ก.ค. เติบโต : STA NER CPF GFPT AAI ITC
• หุ้นได้ประโยชน์จากรัฐบาลใหม่ : CK STEC SEAFCO BJC CPALL CPAXT TNP
• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

PMC - บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ จำกัด (มหาชน)
mai / INDUS (ราคา IPO 1.82 บาท)
ราคาเหมาะสม consensus 3.40 - 4.12 บาท

•PMC เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สติ๊กเกอร์ (Sticker) หรือฉลากกาว (Self-Adhesive Label) รายใหญ่ของประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ สติ๊กเกอร์กระดาษ สติ๊กเกอร์ฟิล์ม และสติ๊กเกอร์ชนิดพิเศษอื่นๆ ให้กับลูกค้า กลุ่มธุรกิจโรงพิมพ์ฉลากสินค้า (Printers) และผู้ผลิตฉลากสินค้า (Converters) เป็นหลัก

•บริษัทมีรายได้ในช่วงปี 64 - 66 และงวด 1Q67 เท่ากับ 834 ลบ. 874 ลบ. 825 ลบ. และ 220 ลบ. ตามลำดับ โดยในปี 65 บริษัท มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัท มีการปรับเพิ่มราคาขายสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวขึ้น แม้ว่าปริมาณการขายรวมจะลดลงเล็กน้อย สำหรับปี 66 และ 1Q67 รายได้ลดลงเนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสติ๊กเกอร์กระดาษ ทำให้ปริมาณการขายสติ๊กเกอร์กระดาษลดลง %GPM เท่ากับ 21.2% 17.9% 17.1% และ 19.9% ตามลำดับ ช่วง 1Q67 อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯมีการสั่งซื้อวัตถุดิบในช่วง 3Q66 ซึ่งราคากระดาษ ราคาฟิล์มพลาสติก และค่าระวางเรือ มีการปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ช่วงปี 64 - 66 และงวด 1Q67 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 41.1 ลบ. 18 ลบ. 17.4 ลบ. และ 11.9 ลบ.(+1,883%YoY)

•จำนวนหุ้น IPO ไม่เกิน 115.715 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 30.0% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาทต่อหุ้น โดยราคา IPO คิดเป็น historical P/E ที่ประมาณ 17.40 เท่า คิดเทียบกับ P/E บริษัทที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน ได้แก่ SFLEX 28.7x,SELIC 21.4x และ SET-Packaging 21.0x วัตถุประสงค์การระดมทุน 1) ขยายธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการขยายศูนย์กระจายสินค้าในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน เช่น ประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม 2)ลงทุนขยายกำลังการผลิตและชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง 3) ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน 4)เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อสินค้า และเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

หุ้นมีข่าว

(+) SMD (Bloomberg Consensus - บาท) วางเป้ารายได้ปี 68 รายได้พุ่งแตะ 2,700 ล้านบาท เดินหน้าโมเดล Revenue Sharing หวังเพิ่มสัดส่วนเป็น 80% ใน 2-3 ปีจากนี้ ล่าสุดได้รับสิทธิ์นาเข้าเครื่อง Face Time (เครื่องย้อนวัยใบหน้า) ในไทยแต่เพียงผู้เดียวเป็นเวลา 5 ปี มั่นใจสร้างรายได้ใหม่เข้ามาเสริมพอร์ต ส่วนรายได้ปีนี้คาดต่ากว่าเป้าที่ตั้งไว้ 1,800 ล้านบาท เหตุลูกค้าภาครัฐเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า(ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) BLC (Bloomberg Consensus - บาท) โชว์ความสำเร็จผลิตนวัตกรรมสมุนไพรสารสกัดจากพริกเข้าบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงยาจากนวัตกรรมสมุนไพรไทย พร้อมนำยารักษาโรคไวรัสตับอักเสบบีเข้าบรรจุเข้าสู่บัญชียานวัตกรรม ประเมินอุตสาหกรรมยาครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง เล็งเปิดตัว BKD VIVA ผ่านแพลตฟอร์มการจัดจำหน่ายออนไลน์ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SCGD (Bloomberg Consensus 10.00 บาท) เดินเครื่องเปิดไลน์การผลิตกระเบื้องเกรซ- พอร์ซเลนขนาดใหญ่ เพิ่มอีก 1 แห่ง ที่โรงงาน Tien Phong ทางภาคเหนือของเวียดนาม มีกำหนดแล้วเสร็จต.ค.นี้ กำลังการผลิต 9.1 ล้านตารางเมตร/ปี หวังรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้างเวียดนามและในภูมิภาคอาเซียน สร้างการเติบโต 2 เท่าภายในปี 73 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) PJW (Bloomberg Consensus 2.80 บาท) สัญญาณช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีกว่าครึ่งปีแรก ธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก นม นมเปรี้ยว เติบโตสูง คำสั่งซื้อไหลเข้า ธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์เริ่มฟื้น ส่วนธุรกิจซักอบรีดดีมานด์สูง โกยรายได้ 380 ล้านบาท ล่าสุดรับ อย. เตรียมขายพลาสติกทางการแพทย์ วางงบ 400 ล้านบาท ลงทุนและปรับปรุงต่อยอดโตในอนาคต(ที่มา ทันหุ้น)