วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน
วันพุธที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลงแรง โดยมีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรง ประกอบได้รับ Sentiment เชิงลบจากความกังวลธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ขณะที่วานนี้ นักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการแถลงนโยบายรัฐบาลในวันนี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,415.41 จุด -12.62 จุด -0.88% มูลค่าการซื้อขาย 73,985.61 ลบ. Program Trading -1,133.58 ลบ. ต่างชาติ +2,679.63 ลบ. TFEX -10,965 สัญญา ตราสารหนี้ +2,862.65 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 124.75 จุด หรือ +0.31% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดบวกเช่นกัน ได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งช่วยบดบังปัจจัยลบจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ สูงเกินคาดและทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมสัปดาห์หน้า
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 1.56 ดอลลาร์ หรือ +2.37% ปิดที่ 67.31 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าบริษัทพลังงานหลายแห่งระงับการผลิตที่แท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งของสหรัฐฯ เนื่องจากพายุ เฮอร์ริเคนฟรานซีน (Francine) ก้าลังพัดขึ้นฝั่งในรัฐลุยเซียนา
+ ททท. เปิดเผยว่า ภาคการท่องเที่ยวไทยเป็นแกนหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ททท.จึงเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยผ่านซอฟต์พาวเวอร์ จูงใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น
ปัจจัยลบ
- สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.2%MoM ในเดือนส.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3%MoM ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
- FedWatch Tool บ่งชี้ ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. หลังจากให้น้ำหนัก 66% เมื่อวันอังคาร และให้น้ำหนักเพียง 15% ที่เฟดจะปรับลด อัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ให้น้ำหนัก 34% เมื่อวันอังคาร
- รัสเซียเปิดฉากการซ้อมรบทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี โดยมีเรือรบมากกว่า 400 ลำ และเครื่องบิน 120 ลำ และกองกำลังจากจีนเข้าร่วม ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวในพิธีเปิดว่า การซ้อมรบครั้ งนี้ เน้นย้ำให้เห็นถึงภัยคุกคามจากสหรัฐฯ
- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายที่อาจนำไปสู่การปิดสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง (HKETO) ในสหรัฐฯ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลฮ่องกงเป็นอย่างมาก
- เหตุการณ์ ‘น้ำท่วมเชียงราย’ 9-11 ก.ย.รวม 5 อำเภอ 20 ตำบล กระทบ 10,499 ครัวเรือน
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากดัชนี CPI ของสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงเกินคาด ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยทางภาคเหนือยังคงรุนแรงเป็นปัจจัยกดดันดัชนีระยะสั้น มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,410-1,425 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS
• หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำท่วม : TASCO DOHOME GLOBAL DCC DRT TOA DPAINT
• ยอดส่งออกไทยเดือน ก.ค. เติบโต : STA NER CPF GFPT AAI ITC
• หุ้นได้ประโยชน์จากรัฐบาลใหม่ : CK STEC SEAFCO BJC CPALL CPAXT
• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
หุ้นรายงานพิเศษ
PCE - บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์
SET / AGRI ราคา IPO 2.28 บาท
ราคาเหมาะสม Consensus 3.30 - 3.70 บาท
•PCE ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ในธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม แบ่งเป็น 1) กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันไบโอดีเซลและน้ำมันปาล์มโอเลอีนเพื่อการบริโภคซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 98% ของรายได้รวม 2) กลุ่มธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเทียบเรือมีสัดส่วนรายได้ 0.62% ของรายได้รวม 3) กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางรถมีสัดส่วนรายได้ 0.32% ของรายได้รวม และ 4) กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือมีสัดส่วนรายได้ 0.24% ของรายได้รวม
•ปี 2566 รายได้รวม 24,326 ล้านบาท -25%YoY และกำไรสุทธิ 311 ล้านบาท +54%YoY อัตรากำไรสุทธิ 1.34% เพิ่มจาก 0.66% ในปี 2565 งวด 6M67 มีรายได้ 12,921 ล้านบาท -6%YoY กำไรสุทธิ 210 ล้านบาท +6%YoY อัตรากำไรสุทธิ 1.62% เพิ่มขึ้นจาก 1.44% ในงวด 6M66 รายได้และกำไรขั้นต้นลดลงเนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มดิบต่างประเทศต่ำกว่าราคาในประเทศส่งผลให้การส่งออกน้ำมันปาล์มดิบมีกำไรขั้นต้นลดลง แต่ต้นทุนจัดจำหน่าย ค่าใช้จ่ายบริหาร และต้นทุนทางการเงินลดลงทำให้มีกำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิทรงตัว YoY
•จำนวนหุ้น IPO 750 ล้านหุ้น par 1 บาท มูลค่าระดมทุน 1,710 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 6,270 ล้านบาท ราคา IPO คิดเป็น P/E 18.94 เท่าเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 21.46 เท่า วัตถุประสงค์ระดมทุน : ลงทุนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ เครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายกำลังการผลิต ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และใช้เป็นทุนหมุนเวียน
หุ้นมีข่าว
(+) WHA (Bloomberg Consensus 6.10 บาท) มั่นใจรายได้ทุกธุรกิจครึ่งปีหลังโตแกร่ง ดันรายได้รวมปีนี้ ทะลุ 15,000 ล้านบาท และอีบิทด้ามาร์จิ้นไม่ต่ำกว่า 50% หนุนผลงานปีนี้ ออลไทม์ไฮติดต่อกัน 3 ปี “จรีพร” แย้มลูกค้าบริษัทต่างประเทศด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ เล็งซื้อที่ดินเพิ่มอีก 600 ไร่ หลังเซ็นสัญญาไปแล้ว 400 ไร่ รวมเป็น 1,000 ไร่ เล็งบินเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ไทยต.ค.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) JR (Bloomberg Consensus - บาท) ประกาศคว้างานซื้อขายคอมพิวเตอร์ และติดตั้งระบบสื่อสารโครงข่ายสำหรับการควบคุมระบบไฟฟ้าของ กฟน. มูลค่าโครงการ 299.38 ล้านบาท ตามแผนงาน Quick Win หนุนปัจจุบันมีแบ็กล็อก 8,630 ล้านบาท พร้อมลุยประมูลงานใหม่ ตั้งเป้าสิ้นปีแบ็กล็อกแตะ 10,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) SGC (Bloomberg Consensus 1.95 บาท) บมจ.เอสจี แคปปิตอล (SGC) โชว์ความสำเร็จแผนเพิ่มทุน RO ระดมทุนได้ 3,861 ล้านบาท เตรียมนำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ หนุนต้นทุนการเงินลดลง และขับเคลื่อนองค์กรตามกลยุทธ์การขยายธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนดี Yield สูง ควบคู่ไปกับการปล่อยสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ ชูสินเชื่อโทรศัพท์มือถือ Lock Phone ผลงานทะลุเป้า(ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) THCOM (Bloomberg Consensus 16.60 บาท)โชว์ศักยภาพธุรกิจ มั่นใจรายได้-กำไรเติบโตต่อเนื่อง เดินหน้าสู่ Space Tech Company เพื่อรองรับเศรษฐกิจอวกาศใหม่ เล็งศึกษาเกณฑ์ประมูล 3 วงโคจรสุดท้าย ที่กสทช.จะประกาศไตรมาส 3/2567 นี้ ควบคู่สร้างการเติบโตใหม่ในฐานะผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม CarbonWatch จนได้รับการรับรองจากอบก. เดินหน้าพัฒนาเข้าสู่พืชประเภทอื่นเจาะองค์กรเอกชน-หน่วยงานภาครัฐทั่วภูมิภาคเอเชีย (ที่มา ทันหุ้น)