กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ คัดเลือกหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และภาพการลงทุนที่ดีขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ คัดเลือกหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และภาพการลงทุนที่ดีขึ้น

ท่ามกลางโมเมนตัมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นในไตรมาสต่อ ๆ ไป กนง. น่าจะเลื่อนลดดอกเบี้ยไป 1H68 นักเศรษฐศาสตร์ของเรายังคงมองเหมือนกับที่ยืนยันมานานแล้วว่า กนง. จะยังไม่ลดดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี 2567

แม้ว่า Fed จะเริ่มลดดอกเบี้ยนำไปแล้ว เพราะมาตรการกระตุ้นการบริโภค, ผลจากฐานที่ต่ำของการใช้จ่ายภาครัฐ และ high season ของการท่องเที่ยวจะทำให้ GDP ของไทยใน 3Q-4Q67 ขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งเกิน 3.0% YoY ในขณะเดียวกัน เรามองว่าพลวัตรของเศรษฐกิจมหภาคในปี 2568 จะบีบให้ กนง. ต้องลดดอกเบี้ยลง 100bps เหลือ 1.50% ในปีหน้า เนื่องจาก 1) เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 2) ธนาคารกลางในเอเชียเริ่มลดดอกเบี้ยกันแล้ว และ 3) ภาวะเศรษฐกิจไทยยังไม่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง

การบริโภคภาคเอกชนน่าจะฟื้นตัวได้เล็กน้อยในปี 2568 แต่ยังเร็วเกินไปที่จะฟันธงว่าวัฎจักรการลงทุนจะเป็นขาขึ้นชัดเจนในขณะนี้  

เรามีความหวังมากขึ้นกับแนวโน้มการลงทุนภาคเอกชนที่ดีขึ้น และ คาดว่าการสะสมทุนถาวรเบื้องต้น
(Gross fixed Capital Formation) ในภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้น 3.0% ในปี 2568 จากที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ใน
ปี 2567 เนื่องจากแนวโน้มการลงทุนในที่อยู่อาศัยแข็งแกร่งขึ้น, กระแส FDI ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง และการย้ายฐานการลงทุนในภูมิภาคหลังจากที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ เรามองว่าการลงทุนภาคเอกชนไทยยังไปได้ดีเพราะมีหลายปัจจัยสนับสนุน ไม่ใช่แค่ดอกเบี้ย และความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ

กลุ่มขนส่ง, โรงแรม, ไฟฟ้า, ICT และ หุ้นผู้บริโภคบางตัวจะได้อานิสงส์จากการลดดอกเบี้ยในปี 2568 

นักวิเคราะห์ของเราได้ทำการตรวจสอบโครงสร้างหนี้ และ สัดส่วนหนี้สินต่อทุนของหุ้นในตลาด และพบว่ากลุ่มขนส่ง, โรงแรม, ไฟฟ้า, ICT และ หุ้นผู้บริโภคบางตัวจะได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะลดลง ส่วนกลุ่มอาหาร และ เครื่องดื่ม เรามองว่าจะได้อานิสงส์จำกัด ในขณะที่กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และ โรงพยาบาลจะได้ผลบวกน้อยมากเพราะสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับที่ต่ำมาก

 

หุ้นหลักสำหรับธีมดอกเบี้ยลด และ การลงทุนภาคเอกชนดีขึ้น – CPALL*, CPN*, TRUE*, GPSC*
และ SHR

CPALL – สัดส่วน IBD/E ที่ 1.1x ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหุ้นอื่นในกลุ่ม ถึงแม้ว่าหุ้นกู้ส่วนใหญ่ของบริษัทจะคิดอัตราดอกเบี้ยตายตัว แต่บริษัทจะได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยที่ลดลงเมื่อบริษัท refinance หนี้ นอกจากธีมนี้แล้ว CPALL ยังจะได้อานิสงส์จากมาตรการแจกเงินของรัฐบาลซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันนี้

CPN – ในช่วงดอกเบี้ยขาลง CPN น่าจะได้ประโยชน์จากการที่สามารถขายสินทรัพย์ไปให้กับ CPNREIT ได้ในราคาที่สูงขึ้น ทั้งในเชิงของกระแสเงินสด และ กำไรจากการขายสินทรัพย์ ทั้งนี้ CPN ตั้งงบลงทุน (CAPEX) ห้าปีเอาไว้ที่ 1.21 แสนล้านบาทสำหรับการพัฒนาห้างใหม่, การปรับปรุงห้างเดิมครั้งใหญ่ และ การขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ โดยคาดว่าบริษัทน่าจะได้อนิสงส์จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นด้วย

TRUE – ภาระหนี้ที่สูงเพราะต้องใช้งบลงทุน (CAPEX) ก้อนใหญ่เพื่อขยายโครงข่าย (โดยเฉพาะในระบบ 5G) อาจจะส่งผลดีต่อ TRUE อย่างมีนัยสำคัญ เพราะฐานกำไรของบริษัทยังต่ำอยู่ ดังนั้น ดอกเบี้ยที่ลดลงทุก ๆ 25bps จะทำให้ประมาณการกำไรปี 2568 มี upside อีก 10%

GPSC – เราคาดว่าอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทุก ๆ 25bps จะทำให้ประมาณการกำไรปี 2568 มี upside อีก 5%
นอกจากนี้ การ refinance อย่างต่อเนื่องยังจะส่งผลดีต่อบริษัทในช่วงดอกเบี้ยขาลง ในขณะที่การขยาย
โครงการ Avaada ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนกำไรในระยะกลาง

SHR – เราคาดว่าดอกเบี้ยที่ลดลงทุก ๆ 25 bps จากกรณีฐานจะทำให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น 12% และ
ช่วงนี้เป็นจังหวะดีที่จะเข้าสะสมหุ้น SHR ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วง high season ของธุรกิจในประเทศไทยและ มัลดีฟส์ใน 4Q67 และ 1Q68

 

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ คัดเลือกหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และภาพการลงทุนที่ดีขึ้น

 

 

 

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ คัดเลือกหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และภาพการลงทุนที่ดีขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ คัดเลือกหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และภาพการลงทุนที่ดีขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ คัดเลือกหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และภาพการลงทุนที่ดีขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน : บล.เคจีไอฯ คัดเลือกหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และภาพการลงทุนที่ดีขึ้น