เวสต์เทกซัส 69.69 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 73.46 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (26 ก.ย. 67) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังความกังวลต่ออุปทานในลิเบียคลี่คลายลง และความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ยังคงมีอยู่
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
(-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับลดลง หลังรัฐบาลลิเบียฝั่งตะวันออกและตะวันตกได้ลงนามในข้อตกลงแต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารกลางลิเบีย ซึ่งเป็นขั้นตอนเริ่มต้นในการแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับการควบคุมธนาคารกลางและรายได้จากน้ำมัน ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของอุปทานในลิเบียคลี่คลายลง
(-) ตลาดกังวลเรื่องอุปสงค์ชะลอตัวแม้จีนจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ นอกจากนั้นแล้วดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ของสหรัฐฯ ที่ลงมาอยู่ที่ระดับ 98.7 จุด ในเดือน ก.ย. 67 ถือเป็นการลดลงมากสุดในรอบกว่า 3 ปี เนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานและแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวม
(-) พายุเฮอริเคนที่ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกได้เปลี่ยนเส้นทางมุ่งหน้าไปยังรัฐฟลอริดา ส่งผลให้พื้นที่ผลิตน้ำมันและก๊าซในรัฐเท็กซัส หลุยเซียนา และมิสซิสซิปปี้ ไม่ได้รับผลกระทบ จึงคาดว่ากำลังการผลิตจะกลับมาปกติ หลังมีการอพยพพนักงานออกจากพื้นที่ไปก่อนหน้านี้
(+) สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ก.ย. 67 ลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 413 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดที่จะปรับลดลงเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังคงอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับต่ำตอนนี้ ทำให้โรงกลั่นในเอเชียหลายแห่งเริ่มปรับลดกำลังการผลิต โดยคาดว่ากำลังการผลิตของโรงกลั่นในเอเชียไตรมาส 4 จะลดลงประมาณ 550,000 บาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลข สต็อกน้ำมันดีเซลของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ก.ย. 67 ลดลง 2.23 ล้านบาร์เรล แตะที่ระดับ 122.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล