วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง การครบกำหนดอนุพันธ์เดือน ก.ย.

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง การครบกำหนดอนุพันธ์เดือน ก.ย.

ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Down แนวรับ 1,445/1,438 จุด แนวต้าน 1,464/1,471 จุด ภาพระยะกลางอยู่ในรูปแบบ Sideways กรอบใหญ่ 1,274-1,696 จุด โดยมีแนวต้านที่ 1,489 จุด (EMA 50 เดือน)/1,547 จุด ตามลำดับ

ส่วนในระยะสั้น ดัชนีฯ เคลื่อนไหวในรูปแบบ Zig-Zag Up ตราบเท่าที่ดัชนีฯ ยังคงยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วัน ที่ 1,445 จุด เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไรเมื่ออ่อนตัว โดยเฉพาะในช่วงปลายตลาดจากการครบกำหนดตราสารอนุพันธ์ S50U24

ประเด็น Event สำคัญวันนี้

JP: พรรค LDP เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ แทนนาย Fumio Kishida โดยมี 9 ผู้สมัครเข้าชิงชัย ขณะที่นายชินจิโร โคอิซูมิ มีคะแนนนิยมสูงสุดที่ 23% จากการสำรวจโดยสื่อญี่ปุ่น

US: สุนทรพจน์ Fed Boston Susan Collins (Non-Voter) และคณะกรรมการเฟด Adriana Kugler (Voter) จับตามุมมองแนวโน้มดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป

TH: การครบกำหนดอายุตราสารอนุพันธ์ SET50U24 วันศุกร์ที่ 27 ก.ย.

การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quant Analysis) สำหรับยอดการซื้อขายต่างชาติใน SET50 Futures ในช่วงปี 2016-2Q24) โดยอิงสถิติความสัมพันธ์ระหว่าง SET50 Futures กับการ Long และ Short สุทธิของนักลงทุนต่างชาติ พบว่า ในเดือนที่สิ้นสุดไตรมาส ก่อน Series รายไตรมาสสิ้นสุดอายุ 10 วันทำการ (LTD-10) หากต่างชาติมี Position ฝั่งไหน (ในช่วงครึ่งเดือนแรกก่อน LTD-10) จะส่งผลต่อในช่วง 10 วันทำการสุดท้าย ในทิศทางเดียวกัน โดยมีความแม่นยำ 67.65% โดยหากลงทุนด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวและถือถึงวันหมดอายุในช่วง 2016-2Q24 จะมีกำไรเฉลี่ย 11.80 จุด/ไตรมาส โดยไตรมาสที่กำไรสูงสุด 59.0 จุด และไตรมาสที่ขาดทุนสูงสุด -46.0 จุด สำหรับกรณีในวันที่ 1-16 มิ.ย. 2024 ที่ผ่านมาต่างชาติมี Short สะสมสุทธิ -101,462 หมื่นสัญญา อิงจากสถิติ 34 ไตรมาสย้อนหลัง มีโอกาส 67.65% ที่ S50U24 จะปิดต่ำกว่าระดับ 899.70 จุดในวันสิ้นสุดสัญญา (27 ก.ย. 2024)

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง การครบกำหนดอนุพันธ์เดือน ก.ย.

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง การครบกำหนดอนุพันธ์เดือน ก.ย.

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ

+/-US: รายงานเงินเฟ้อเดือน ส.ค. โดย Consensus คาด PCE Price Index +0.1% MoM, +2.3% YoY Vs เดือน ก.ค. +0.2% MoM, +2.5% YoY; Core PCE Price Index คาด +0.2% MoM, +2.7% YoY Vs เดือน ก.ค. +0.2% MoM, +2.6% YoY (ทั้งนี้ Trading Economics คาด PCE Price Index สิ้นปี 2024 จะลดลงไปแตะ +2.3% YoY และ Core PCE Price Index จะปรับสูงขึ้น +0.3% MoM ในเดือน ธ.ค. 2024)

+/-US: รายงาน Personal Income/Personal Spending เดือน ส.ค. คาด +0.4% MoM/+0.3% MoM (Vs เดือน ก.ค. +0.3% MoM /+0.5% MoM) ตามลาดับ; Wholesales Inventories เดือน ส.ค. คาด +0.2% MoM (Vs เดือน ก.ค. +0.2% MoM); Michigan Consumer Sentiment เดือน ก.ย. (Final) เดือน ก.ย. คาดดีขึ้นเป็น 69.3 (Vs เดือน ก.ค. 67.9)

-EU ดัชนีวัดความเชื่อมั่น Economic/Industrial/Service Sentiment เดือน ก.ย. คาด 96.5/-9.8/5.6 (Vs เดือน ส.ค. 96.6/ -9.7/6.3)
-CN Industrial Profis (YTD) เดือน ส.ค. คาดลดลงเป็น +3.5% YoY (Vs เดือน ก.ค. +3.6% YoY)

กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้: แนะนำ OSP STA HMPRO

Strategic daily picks

OSP      ปิด 23.50 บาท/แนวรับ 23.10 บาท แนวต้าน 24.30 บาท

บริษัททุ่มงบประมาณการลงทุนเกือบ 1 พันล้านบาท เพื่อขยายฐานการผลิตไลน์บรรจุกระป๋องใหม่ และทำให้การบริหารต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการ เสริมศักยภาพการผลิตได้ครบวงจรทั้งในรูปแบบต่าง ๆ โดยสายการผลิตนี้คาดจะแล้วเสร็จใน 4Q25 ซึ่งในปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศและเป็นผู้นำในภูมิภาค พร้อมมีจำหน่ายในอีกกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ที่มียอดขายธุรกิจเครื่องดื่มรวมกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 733 ล้านบาท (+14.15% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 28.10 บาท

 

STA     ปิด 24.20 บาท/แนวรับ 23.50 บาท แนวต้าน 25.25 บาท

บริษัทตั้งเป้าหมายปริมาณขายยาง EUDR ราว 15-20% ใน 3Q24 และตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายยาง EUDR ให้ได้ร้อยละ 50 ของปริมาณขาย/เดือน ภายในเดือน ธ.ค. 2024 และร้อยละ 80 ภายในปี 2025 เป็นต้นไป ส่วนยอดขายยางทั้งปี 2024 ตั้งเป้าปริมาณขายยางธรรมชาติ 1.5 ล้านตัน หรือเฉลี่ยเดือนละ 1.25 แสนตัน ในปี 2024 ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 477 ล้านบาท (จากขาดทุนสุทธิใน 3Q23) และมูลค่าเหมาะสม 24.25 บาท

HMPRO    ปิด 10.80 บาท/แนวรับ 10.20 บาท แนวต้าน 11.50 บาท

บริษัทวางแผนลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในระยะสั้นและยาว รวมถึงปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2054 ผ่านโครงการต่าง ๆ อย่างไรก็ดี ใน 3Q24 เป็นช่วง low season ของธุรกิจ แต่คาดแนวโน้มเร่งตัวขึ้นใน 4Q24 หนุนจากสถานการณ์ภัยธรรมชาติเริ่มคลี่คลาย, โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทคงคาดรายได้รวมทั้งปี 2024 จะเติบโตราว 1-3% YoY ทั้งนี้ KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD ที่ 10.90 บาท (Bloomberg Consensus ที่ 12.57 บาท)

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง การครบกำหนดอนุพันธ์เดือน ก.ย.