วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector แนวโน้มยังคงสดใส
โมเมนตัมของประเทศไทยเป็นบวกต่อเนื่องจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้นมาตั้งแต่ปี 2566 ส่วนในปี 2567 แนวโน้มยังคงเป็นบวกเหมือนเดิม
ดังจะเห็นได้จากสถิติรายเดือน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในช่วง 8M67 เพิ่มขึ้นเป็น 23.6 ล้านคน คิดเป็น 58.9% ของประมาณการเต็มปีของ KGI ที่ 35 ล้านคน ถึงแม้ว่า 2Q และ 3Q จะเป็นช่วงที่จำนวนนักท่องเที่ยวชะลอตัวตามฤดูกาลใน แต่จำนวนนกท่องเที่ยวยังคงเพิ่มขึ้น YoY จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวจากจีน, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, อินเดีย และตะวันออกกลาง เราเชื่อว่านโยบายของรัฐบาทที่เปิดให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า (ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม) เป็นเรื่องที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันเราพบว่าจำนวนผู้โดยสาร และจำนวนเที่ยวบินยังคงอยู่ในระดับสูงแม้จะเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวชะลอตัวตามฤดูกาลใน 2Q และ 3Q
เมื่อมองต่อไปข้างหน้า เราคิดว่า 4Q67F มีแนวโน้มจะดีจากการที่ประเทศไทยเข้าสู่ช่วง peak ตามฤดูกาล
ของการท่องเที่ยว นอกจากนี้ เรายังคาดว่าแนวโน้มของกลุ่มโรงแรมจะเป็นบวกจากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลในปี 2568 โดยรัฐบาลไทยกำลังเตรียมมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจสำหรับปีหน้า อย่างเช่น การฟื้นโครงการที่เคยประสบความสำเร็จในอดีตอย่างเช่น “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “คนละครึ่ง” ซึ่งผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ และการท่องเที่ยวในช่วงวิกฤติ COVID-19
ADR ดีขึ้น YoY ใน 2Q67 และจะดีขึ้นต่อเนื่อง YoY ใน 3Q67F
เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง YoY ดังนั้น ADRs ของโรงแรมที่เราศึกษาอยู่จึงเพิ่มขึ้นใน 2Q67 จากอัตราค่าห้องพักที่สูงขึ้น นอกจากนี้ อัตราการเข้าพัก (occupancy rates) ยังมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน เรายังคงมองว่าผลการดำเนินงานของบริษัทที่มีโรงแรมในญี่ปุ่น (CENTEL* และ ERW*) จะออกมาน่าตื่นเต้นในช่วงหน้าท่องเที่ยว สำหรับแนวโน้มใน 3Q67F เราคาดว่า ADR จะเพิ่มขึ้น YoY จากอัตราค่าห้องพัก และอัตราการเข้าพักที่สูงขึ้นทั้งคู่
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เรายังคงมองบวกกับนโยบายยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจาก 93 ประเทศ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้
ประชาชนจากประเทศดังกล่าวพำนักอยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 60 วัน เราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยว
ต่างชาติในปีนี้จะอยู่ที่ 35 ล้านคน และปี 2568F จะอยู่ที่ 38 ล้านคน
ยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ Overweight โดยเลือก ERW เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้
เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ Overweight โดยเลือก ERW* เป็นหุ้นเด่นของเราในขณะนี้ เนื่องจากเราชอบ ERW ในแง่ของการเป็นโรงแรมในกลุ่ม budget ที่มีฐานแข็งแกร่ง และมีการขยายกิจการอย่างต่อเนื่องในญี่ปุ่น ขณะที่ MINT เราคาดว่า ผลการดำเนินงานจะอ่อนลง QoQ หลังผ่านช่วง high season ในยุโรปช่วง 2Q ส่วน CENTEL จะมีรายจ่ายต่าง ๆ ช่วงก่อนเปิดโรงแรมใหม่เพิ่มอีก 2 แห่งที่มัลดีฟส์ โดยคาดว่าอยู่ราว 200-250 ล้านบาทในช่วง 2H67F
Risk
เกิดโรคระบาด, เศรษฐกิจโลกถดถอย และ ปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง