วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก เม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์หนุน
วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน โดยช่วงเช้าดัชนีปรับตัวลงสูงสุดราว 6 จุด ได้รับ Sentiment เชิงลบ หลัง ชิเงรุ อิชิบะ ซึ่งสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BOJ ชนะการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตามความคาดหวังเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเผยตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ต่ำกว่าคาดการณ์ เป็นปัจจัยช่วยพยุงดัชนี มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน มีแรงขายในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,448.83 จุด -1.32 จุด -0.09% มูลค่าการซื้อขาย 52,870.12 ลบ. (ในเดือนที่ผ่านมาดัชนี +89.76 จุด +6.60% และ 2Q67 ที่ผ่านมาดัชนี +147.87 จุด +11.37%) Program Trading -1,240.63 ลบ. ต่างชาติ -962.51 ลบ. TFEX -4,281 สัญญา ตราสารหนี้ -775.57 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 17.15 จุด หรือ +0.04% โดย ดาวโจนส์ และ S&P500 ต่างก็ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุด เป็นประวัติการณ์แม้อ่อนแรงลงในระหว่างวัน หลังจากประธาน FED ส่งสัญญาณว่าไม่รีบร้อนปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทาง อัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้
+ กองทุนวายุภักษ์หนึ่งเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ผู้ลงทุนทั่วไปมูลค่ารวม 1.5 แสนล้าน สะท้อนความต้องการ ลงทุนระยะยาว โดยจะเริ่มเข้าลงทุนในตลาดหุ้นวันนี้ คาดเข้าจดทะเบียน ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 7 ต.ค.นี้
+ ททท. คาดว่าระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค. 2567 ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดในวันชาติจีน นักท่องเที่ยวชาวจีนจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ยังประเทศไทยประมาณ 1.32-1.83 แสนคน เพิ่มขึ้น 57-144% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 คาดว่าจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 3,710-5,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 58-121%
ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1 เซนต์ หรือ -0.01% ปิดที่ 68.17 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อพิจารณาตลอดเดือนก.ย.และตลอด 3Q67 กังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัว ของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกได้บดบังปัจจัยบวกจากแนวโน้ม อุปทานน้ำมันตึงตัวอันเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุน ให้น้ำหนัก 35% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ย. ลดลงจากระดับ 37% ก่อนที่พาวเวล จะกล่าวสุนทรพจน์ในครั้งนี้ และลดลงจากระดับ 53% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.)
- กองทัพยูเครนเปิดเผยว่ารัสเซียส่งโดรนโจมตีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน หลายระลอก ส่งผลให้หน่วยป้องกันภัย ทางอากาศต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงสกัดการโจมตีดังกล่าว
- กองทัพอิสราเอลประกาศว่าเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ตามแนวชายแดนตอนเหนือกับเลบานอนถือเป็น "เขตทหารแบบปิด" ท่ามกลาง การเตรียมการสำหรับการบุกภาคพื้นดินเข้าไปในเลบานอน
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ 1 เริ่มเข้าซื้อหุ้นไทยในวันนี้ ประกอบกับมีแรงหนุนจาก Google ประกาศแผนลงทุน Data Center ในประเทศไทย 3.6 หมื่นล้านบาท ภายในปี คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,440-1,455 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า : BGRIM GPSC EGCO RATCH TVO TMILL JUBILE SYNEX SIS
• หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำลด : TASCO DOHOME GLOBAL HMPRO DCC DRT TOA DPAINT
• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
• สินค้าส่งออกเดือนส.ค.ที่ยังเติบโต : ITC AAI STA NER TEGH GFPT FM
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนลงทุน Data Center : WHA ADVANC GULF TRUE INSET
• กกพ. เปิดประมูลพลังงานทดแทนรวม 2,180 MW (ลม 600 MW และแสงอาทิตย์ 1,580 MW) : GUNKUL SSP TSE GULF BGRIM GPSC
หุ้นรายงานพิเศษ
CCET ("ซื้อเมื่ออ่อนตัว" Bloomberg Consensus 4.30 บาท)
คาดกำไร 3Q67 อ่อนตัว QoQ แต่เติบโต YoY
•ผู้บริหารเผยกำลังการผลิตในปัจจุบันทั้งโรงงานที่สมุทรสาครและเพชรบุรี เต็มกำลังการผลิตแล้วและอยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตซึ่งคาดว่าแล้วเสร็จ 4Q67 และเริ่มรับคำสั่งซื้อใหม่ได้ในปี 2568 โดยบริษัทจะมุ่งเน้นสินค้า High margin เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ 2H67 รายได้จะไม่เติบโตมากนัก
•ความเห็น คาดผลประกอบการ 3Q67 อ่อนตัว QoQ แต่เติบโต YoY จากโรงงานทั้ง 2 แห่งใช้กำลังการผลิตเต็มแล้ว และเงินบาทที่แข็งค่ากดดัน ผลประกอบการเนื่องจากบริษัทรับรายได้เป็นเงินดอลลาร์ 100% ทั้งนี้บริษัทรายงานกำไร 1H67 ที่ 1.3 พันลบ. +102%YoY และ Bloomberg Consensus คาดว่ากำไรปี 67 และ 68 จะเติบโต 163% และ 17% สู่ 2.9 พันลบ. และ 3.4 พันลบ. สอดคล้องกับความเห็นเรา ที่คาดว่าผลประกอบการจะกลับมาเติบโตในปี 68 จากการรับรู้ กำลังการผลิตใหม่ เราจึงแนะนำ“ซื้อเมื่ออ่อนตัว”
หุ้นมีข่าว
(+) SCB (Bloomberg Consensus 112.00 บาท) ปิดดีลขายโรบินฮู้ดทันไตรมาส 3 ให้ ยิบอินซอย - บรู๊คเคอร์ กรุ๊ป - เอสซีที เรนทอล คาร์ - ล็อกซบิท ราคาสูงสุด 2 พันล้านบาท แต่จ่ายก่อน 400 ล้านบาท ที่เหลือต้องรอผลงาน บิ๊ก SCB ชี้กลุ่มยิบอินซอยถนัดเทคโนโลยีพร้อมส่งต่อ ช่วยลด ตั้งด้อยค่าไตรมาสนี้จากพันล้านบาท เหลือ 600 ล้านบาท ปลดล็อกธุรกิจขาดทุน (ที่มา ทันหุ้น)
(+) CHAYO (Bloomberg Consensus 3.00 บาท) บอสใหญ่ "สุขสันต์ ยศะสินธุ์" เตรียมซื้อหนี้เสียเข้ามาเติมพอร์ตอีกราว 6,000 ล้านบาท เน้นหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ทั้งปีคาดซื้อหนี้ได้ตามเป้า 10,000 ล้านบาท และพร้อมนำ CCAP กลับมาเทรดตามแผนในปี 2568 หลังจากชะลอการเข้าระดมทุนออกไปก่อน (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SAPPE (Bloomberg Consensus 92.75 บาท) ยอมรับบาทแข็งกระทบรายได้และกำไร ไตรมาส 3/67 แต่บริษัทมีการเตรียมแผนรับมือบาทแข็งในระยะสั้น-ระยะกลาง-ระยะยาว เพื่อปรับให้เหมาะสมต่อสถานการณ์ พร้อมยังคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 15-20% (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) RJH (Bloomberg Consensus 26.10 บาท) ส่งซิกผลงานไตรมาส 3/67 ทำนิวไฮ รับไฮซีซั่นธุรกิจโรงพยาบาล เหตุผู้ป่วยนอก-ผู้ป่วยในแน่น! ขณะที่วันนี้ (1 ต.ค.) พร้อมเปิดให้บริการ “รพ. ราชธานี หนองแค” จ.สระบุรี ขนาด 138 เตียงเป็นวันแรก คาดผู้ป่วยพุ่ง 200 ราย โชว์เซ็นสัญญากับบริษัทในนิคมฯ กว่า 10 ราย ย้ำรายได้ปีนี้โตกว่าปีก่อนที่ทำได้ 2,400 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)