วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่สูงกว่าคาด ไม่กระทบมากนักต่อบรรยากาศลงทุน
ความเห็นกรรมการเฟดและการรายงานผลประกอบการหักล้างความกังวลเงินเฟ้อ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังรายงานเงินเฟ้อสูงกว่าคาด โดย ดัชนีผู้บริโภค ก.ย. ออกมาที่ +0.2% MoM, +2.4% YoY (สูงกว่าคาดการณ์ที่ +0.1% MoM, +2.3% YoY)
ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) +0.3% MoM, +3.3% YoY (สูงกว่าคาดการณ์ที่ +0.2% MoM, +3.2% YoY) อย่างไรก็ตามเรามองผลของตัวเลขเงินเฟ้อต่อบรรยากาศลงทุนอาจไม่ได้สูงมากนักจาก 1) ความเห็นกรรมการเฟด 3 ท่าน มองการลดดอกเบี้ยยังดำเนินต่อ 2) การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในประเทศต่างๆ ที่ลดทอนโฟกัสของนักลงทุนต่อตัวเลขเงินเฟ้อ หรือข้อมูลเศรษฐกิจจากฝั่งสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มแกว่งตัวในช่วงประกาศงบ และอาจกลับมาเร่งตัวขึ้นในช่วงกลาง พ.ย. บรรยากาศเก็งกำไรโดยรวมของหุ้นไทยยังดูดี แม้การปรับขึ้นของดัชนีหุ้นไทยจะเริ่มกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มหุ้นใหญ่ที่มีผลต่อน้ำหนักดัชนีสูง เราคาดบรรยากาศลงทุนโดยรวมมีแนวโน้มกลับมาเร่งตัวขึ้นในช่วงกลาง พ.ย. จากปัจจัยสำคัญได้แก่ 1) เข้าสู่ช่วงท้ายของการรายงานผลประกอบการ ซึ่งความเสี่ยงของงบบริษัทที่อ่อนแอน่าจะถูกเปิดเผยเป็นส่วนใหญ่แล้ว 2) นักลงทุนมีแนวโน้มมองไปยังงบไตรมาส 4/67 ที่ได้แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาล และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ 3) การปรับน้ำหนักการลงทุนของ MSCI ที่มีโอกาสเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยขึ้น หลังหุ้นไทยเคลื่อนไหวดีกว่าหุ้นโลกในช่วง ส.ค.-ก.ย. ทำให้มีโอกาสที่น้ำหนักในตะกร้าลงทุนจะถูกปรับเพิ่ม
ภาพรวมกลยุทธ์ “แกว่งไม่หลุด 1,457 มีโอกาส sideways up ไป 1,495 จุด เลือกเก็งกำไรรายตัว สะสมหุ้นที่เข้าสู่ช่วง high season อย่างท่องเที่ยว การแพทย์ อาหารสัตว์เลี้ยงเราชอบ AOT, ERW, CENTEL, SPA, VRANDA, BCH, BDMS, ITC //หุ้นได้แประโยชน์ Data center: WHA, INSET, ITEL, MFEC, AIT, ICN, LTS // หุ้นต่ำมูลค่าทางบัญชี FLOYD, IND, BC
แนวรับ: 1,453 / แนวต้าน : 1,495 จุด
สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
หุ้นแนะนำ (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)
• SYNEX* (17) : คาดได้ผลบวกจากทั้งงบประมาณภาครัฐที่กลับมาปกติ รวมถึงวัฏจักรการลงทุนและการเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้ม AI ตัดขาดทุน 15.30 บาท
• SAMART* (8) : ผลการดำเนินงานได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐฯ และการได้รับโครงการใหม่ๆ ราคาปัจจุบันต่ำกว่า NAV ที่ 8-10 บาท ตัดขาดทุน 6.90 บาท
• ERW* (5) : รัฐบาลเตรียมออกมาตรการหนุนท่องเที่ยวในพื้นที่น้ำท่วม ติดตามตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่น่าจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 4/67 ตัดขาดทุน 4.30 บาท
• CKP* (4.50) : ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 คาดได้แรงหนุนจากปริมาณน้ำที่มากเป็นพิเศษ ตัดขาดทุน 3.66 บาท
ประเด็นที่น่าสนใจ
- สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด
- ราคาน้ำมัน WTI พุ่งกว่า 3% ทะลุ $75 จับตาอิสราเอลถล่มอิหร่าน หลังหารือสหรัฐ
- ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ย.ลงต่อเนื่องต่ำสุดรอบ 14 เดือน ยังกังวลเศรษฐกิจฟื้นช้า
- คลังเผยรายได้รัฐบาล 11 เดือนปีงบ 67 ยังต่ำเป้า 0.7%
- “จุลพันธ์”เผย คลังเล็งออกมาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวพื้นที่น้ำท่วมหลังน้ำลด
- รับไฮซีซั่น คาดเที่ยวบินเชียงใหม่ ต.ค.-ธ.ค.67 โต 10%
- ‘บ้านปู เน็กซ์’ ลงทุน ‘Amp Japan’ เสริมแกร่งพลังงานสะอาด ในเอเชียแปซิฟิก
- BC ระดมทุนผ่าน ICO ขาย “ซัมเมอร์พ้อยท์” มูลค่าไม่เกิน 450 ล.
- PTG เงินรัฐกระตุ้นซื้อ ยอดขายนอนออยล์ดี
- SCC แนะนำ “ถือ” เป้า 250 บาท/ CPALL แนะนำ “ซื้อ” เป้า 84 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
12 ต.ค. - กระทรวงการคลังจีน อาจประกาศมาตรการเศรษฐกิจเพิ่มเติม
16 ต.ค. – การประชุม กนง.
17 ต.ค. – การประชุม ECB