วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ TIDLOR ยอดเก็บเงินสดมีสัญญาณดีขึ้น
TIDLOR ยอดเก็บเงินสดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยใน 3Q67 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่หนี้เสียใหม่มีแนวโน้มเติบโตในอัตราชะลอตัว โดยสินเชื่อจะโตแบบแผ่วลง โดยคาดว่าสินเชื่อจะขยายตัว 2% QoQและ 7.5% YTD
เนื่องจากมีการใช้นโยบายการปล่อยกู้ที่เข้มงวดขึ้น โดยเน้นขยายสินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ แต่ไม่เน้นขยายสินเชื่อรถบรรทุก ซึ่งการปรับโครงสร้างสินเชื่อดังกล่าวส่งผลให้สัดส่วนของสินเชื่อรถบรรทุกทยอยลดลงเหลือ 16-17% ของสินเชื่อรวม (จากเกือบ 20% ในปี 2566) ในขณะที่สินเชื่อรถยนต์อยู่ที่ประมาณ 62-65%, และ สินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์อยู่ที่ 15%
มาร์จิ้นดีขึ้น
เนื่องจากค่าใช้จ่ายสำรองฯ (credit cost) เพิ่มขึ้นอย่างมาก บริษัทจึงได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตาม
ประเภทของเงินกู้ และ กลุ่มลูกค้า 1-2% โดยมีเพียงดอกเบี้ยสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย <1%
โดยจะใช้อัตราที่ปรับใหม่กับสินเชื่อใหม่ และ การต่อสัญญาสินเชื่อเดิม ทั้งนี้ เนื่องจากสินเชื่อแต่ละประเภทมีช่วงเวลาครบกำหนดที่แตกต่างกัน ดังนั้นการปรับอัตราดอกเบี้ยใหม่จึงจะทำให้ yield สินเชื่อขยับเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปภายใน 2 ปี ซึ่งจะมาช่วยชดเชยคชจ.สำรองฯ (credit cost) ที่สูงขึ้น ทั้งนี้ บริษัทบอกว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวจะทำให้มาร์จิ้นใน 3Q67F ดีขึ้น
NPL และ ค่าใช้จ่ายสำรองฯ (credit cost) ที่ยังเพิ่มขึ้น แต่น่าจะยังเป็นไปตามประมาณการ
นอกจาก credit cost ใน 2Q67 จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.6% และ 3.4% ในงวด 1H67 แล้ว (สูงกว่าเป้าปีนี้ของ
TIDLOR ที่ 3-3.35%) แต่บริษัทบอกว่า credit cost ใน 3Q67 จะสูงกว่า 3.6% โดย credit cost ที่เพิ่มขึ้น
สะท้อนถึงการตัดหนี้สูญ (write-off) หนี้เสียเพื่อฉุดให้ NPL ลดลงมา <2% ซึ่งที่ระดับนี้ เราใช้สมมติฐาน
credit cost ใน 2H67F ที่ 4%
กำไร 3Q67F ที่อ่อนแอ และ เป็นไปตามประมาณการ แนะนำซื้อ คง TP- 2567F ไว้ที่ 20.5 บาท
เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 3Q67 จะอยู่ที่ประมาณ 1.05 พันล้านบาท (-3% QoQ, +5%) ใน 3Q67F โดยจะเพิ่มขึ้น 13% ในงวด 9M67F และ คิดเป็น 78% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา ส่วนในระยะต่อไป เราคิดว่า TIDLOR จะอยู่ในสถานะที่ดีกว่าคู่แข่งในเชิงของการระดมทุน และ ความสามารถในการปรับความเสี่ยงด้านเครดิต (credit risk) เพื่อรักษามาร์จิ้นเอาไว้ ในขณะที่จะทยอยบริหารจัดการความเสี่ยงในส่วนของสินเชื่อรถบรรทุกผ่านการ write-off หนี้เสีย, วัฏจักรเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และ การใช้จ่ายของภาครัฐซึ่งจะทำให้คุณภาพสินเชื่อดีขึ้น และ ผลตอบแทนที่ปรับความเสี่ยงแล้วดีขึ้น
Risks
ราคารถมือสองตกลงไปอีก, NPLs เพิ่มขึ้น และ credit cost เพิ่มขึ้น