วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี ERW ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นกดดันผลกำไรใน 3Q24F
เราปรับลดคำแนะนำเป็น Trading Buy ด้วยราคาเป้าหมาย 4.30 บาท จาก เราคาดว่ากำไรหลักจะหดตัว yoy ใน 3Q24F จากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นและผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ Grand Hyatt Erawan ()
(ii) คาดกำไร 9M24F คิดเป็น 78% ของประมาณการปี 2024F ของเรา เราคงประมาณการ โดยคาดกำไรจะเติบโต yoy, qoq ใน 4Q24F จากฤดูท่องเที่ยวที่สูงและการฟื้นตัวที่ GHE (iii) ราคาหุ้น ERW เพิ่มขึ้น 29% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ขณะนี้ซื้อขายที่ P/E 25F ที่ 24 เท่า ทำให้มี upside ที่จำกัดต่อราคาเป้าหมายของเรา เราเชื่อว่า ERW ได้ผ่านช่วงการเติบโตสูงสุดแล้ว และจะเข้าสู่การเติบโตในระดับปกติในปี 25F และมีประเด็นที่ต้องติดตาม เช่น การต่ออายุสัญญาและการปรับปรุงที่ GHE.
คาดกำไรหลักลดลง -14% yoy, ทรงตัว qoq มาอยู่ที่ 124 ล้านบาท
จาก i) คาดรายได้จะเติบโต 7% yoy แต่ทรงตัว qoq โดยเราคาดว่าโรงแรมไม่รวม Hop Inn จะมี RevPar ทรงตัว yoy, qoq ซึ่งหลักๆ เกิดจากเหตุการณ์ที่ Grand Hyatt Erawan (GHE) ส่งผลให้อัตราการเข้าพักในกลุ่ม Luxury อยู่ที่ 72% ขณะที่ RevPar Economy +15% yoy, +4% qoq จากการเพิ่มขึ้นอัตราเข้าพัก และค่าห้องพัก สำหรับ Hop Inn คาด RevPar +15 yoy, แต่ -5% qoq โดยการเติบโตหลักมาจากประเทศไทย (+5% yoy) และรับรู้โรงแรมจากญี่ปุ่นที่มีค่าห้องพักที่สูงขึ้น ขณะที่การลดลง qoq สะท้อนผลกระทบจากฤดูกาลและการเปิดโรงแรมใหม่ และ (ii) คาดว่า EBITDA margin อยู่ที่ 29.8% ในขณะที่เราคาดว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น 20% yoy เป็น 180 ล้านบาท เป็นส่วนกดดันผลประกอบการ
คงประมาณการผลประกอบการปี 2024F
เราคาดกำไรใน 4Q24F จะเติบโต qoq (i) การฟื้นตัวที่ GHE โดยคาดอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นจาก 60-65% ใน 3Q24F มา 70-80% ใน 4Q24F (ระดับปกติ 80-85%); (ii) การกลับมาเปิดดำเนินการที่ Holiday Inn Pattaya หลังจากการปรับปรุง ซึ่งมีอัตราค่าห้องเพิ่มขึ้น 10-15% รวมถึงอัตราห้องที่สูงขึ้นในที่อื่นๆ ในช่วงฤดูท่องเที่ยวในประเทศไทยและญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม การเติบโตเมื่อเปรียบเทียบปีต่อปีจะเพียงเล็กน้อย เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
ปรับคำแนะนำเป็น Trading Buy ราคาเป้าหมายที่ 4.30 บาท
เราปรับคำแนะนำเป็น Trading Buy จากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาเรามองว่าสะท้อนไปถึงการเข้าสู่ช่วง high season ใน 4Q24F ไปบ้างแล้ว รวมทั้ง เราคาดว่า ERW จะเข้าสู่ช่วงการเติบโตในระดับปกติในปี 2025 โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตเพียง 9% yoy ซึ่งขับเคลื่อนโดยการเติบโตของ RevPAR ในระดับกลางที่ 5% นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามจากการต่ออายุสัญญาเช่า GHE ซึ่งในขณะนี้ทำสัญญาปีต่อปี (2024/25) และรอการเจรจาเพื่อเช่าสัญญาระยะยาว รวมทั้งงบประมาณการการปรับปรุง GHE ที่คาดจะเริ่มใน 2Q24F ทั้งนี้ เราประเมิน Sensitivities โดยหากอัตราการเข้าพัก (OCC) และอัตราค่าห้อง (ADR) เปลี่ยนแปลง 1% อาจส่งผลให้กำไร 3-4% ขณะที่การเปลี่ยนแปลง EBITDA margin 1% อาจส่งผลให้กำไรเปลี่ยนแปลงถึง 8%.