เวสต์เทกซัส 70.56 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 74.29 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (22 ต.ค. 67) ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน

(+) ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เทกซัส และ เบรนท์ ปรับเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางที่ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยอิสราเอลได้โจมตีเลบานอนและฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 67 ตามเวลาท้องถิ่น นอกจากนั้นตลาดยังคงกังวลว่าอิสราเอลจะตอบโต้อิหร่าน หลังอิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลเมื่อต้นเดือน ต.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในภูมิภาค

(+/-) ตลาดได้รับแรงหนุนจาก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน โดยจีนได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันของจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างจำกัด จากจำนวนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นและอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ลดลง

(-) สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันรายสัปดาห์เพิ่มสูงขึ้น 100,000 บาร์เรลต่อวันสู่ระดับ 13.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนั้น ผลสำรวจจากรอยเตอร์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯจะเพิ่มสูงขึ้นกว่า 100,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ปริมาณการส่งออกน้ำมันจากจีนและตะวันออกกลางมายังสิงคโปร์ปรับลดลง โดยตัวเลขการนำเข้าน้ำมันเบนซินของสิงคโปร์ปรับลดกว่า 68.79% สู่ระดับ 123,337 ตัน

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขการส่งออกน้ำมันดีเซลจากสิงคโปร์เพิ่มสูงขึ้นกว่า 10.5% สู่ระดับ 285,574 ตัน นอกจากนั้น ตลาดประเมินว่าสถานการณ์ท่อส่งน้ำมันรั่วไหลในสิงคโปร์จะไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซล