วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ EKH ประมาณการ 3Q67F: คาดกำไรจากธุรกิจหลักน่าประทับใจ
เราคาดว่าผลประกอบการของ EKH จะออกมาน่าประทับใจใน 3Q67F โดยมีกำไรสุทธิ 94 ล้านบาท (+1.4% YoY, +51.6% QoQ) คิดเป็น 29.6% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเราที่ 320 ล้านบาท
โดยในไตรมาสนี้ บริษัทไม่ต้องบันทึกรายการพิเศษจากการถือหุ้น The Klinique Medical Clinic
(KLINIQ.BK/KLINIQ TB) อีกเพราะได้ขายหุ้นออกไปหมดแล้ว ดังนั้น เราจึงคาดว่ากำไรปกติของ EKH
จะอยู่ที่ 94 ล้านบาท (+5.0% YoY, +41.6% QoQ) ซึ่งเมื่ออิงตามประมาณการ 3Q67F ของเรา จะทำให้
กำไรปกติของ EKH ในงวด 9M67F คิดเป็น 74.8% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา
ผลประกอบการ 3Q67F จะแข็งแกร่งจากปัจจัยฤดูกาล เราคาดว่าผลประกอบการของ EKH ใน 3Q67F จะ
แข็งแกร่งเช่นเดียวกับโรงพยาบาลอื่น ๆ เพราะไตรมาสสามเป็นช่วง peak ตามฤดูกาลมาตั้งแต่ก่อน COVID ระบาดแล้ว ทั้งนี้ EKH ได้โมเมนตัมบวกจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นเพราะฐานผู้ป่วยเด็กที่แข็งแกร่งในช่วงเปลี่ยนฤดูเข้าสู่หน้าฝน ซึ่งทำให้ occupancy rate รวมของ EKH เกิน 80% ในขณะที่ occupancy ของผู้ป่วยในสูงเกิน 100% ใน 3Q67F ดังนั้น เราจึงคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 366 ล้านบาท (+10.0% YoY, +17.8% QoQ) ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 48.0%(จาก 46.6% ใน 3Q66 และ 42.8% ใน 2Q67) โดย margin ที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงผลบวกจากการประหยัดต่อขนาดที่เกิดจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เราคาดว่าสัดส่วน SG&A/รายได้ ของ EKH จะอยู่ที่ 19.5% (จาก 18.2% ใน 3Q66 และ 20.6% ใน 2Q67)
กลับสู่การดำเนินงานปกติหลังขายหุ้น KLINIQ ทั้งหมดออกไปใน 2Q67 เราชอบผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ EKH ใน 3Q67F หลังจากที่บริษัทขายหุ้นทั้งหมดใน KLINIQ ออกไปใน 2Q67
คาดว่าผลการดำเนินงานใน 4Q67F จะยังดีขึ้น YoY แม้จะแผ่วลง QoQ
เราคาดว่าผลประกอบการของ EKH ใน 4Q67F จะแผ่วลง QoQ เป็นไปตามแนวโน้มชะลอตัวลงปกติของปี แต่ธุรกิจหลักน่าจะยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง YoY จากแผนกกุมารเวช, IVF, การดูแลผู้สูงอายุ และ
การดูแลแบบประคับประคอง (palliative care)
คงประมาณการกำไรปี 2567F-2568F เอาไว้เท่าเดิม
เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2567F เอาไว้ที่ 320 ล้านบาท (+13.5% YoY) และ ปี 2568F เอาไว้ที่ 341
ล้านบาท (+6.8% YoY)
Valuation & Action
EKH เป็นหุ้น laggard เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย DCF สิ้นปี 2568 ที่ 9.10 บาท
(ใช้ WACC ที่ 9%, TG ที่ 2%) จากเดิมที่ 8.90 บาท (ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567)
Risks
COVID-19 ระบาด, เกิดปัญหาเสถียรภาพการเมืองไทยรอบใหม่ และ เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่