วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ตลาดหุ้นไทย อาจผันผวน ช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ
เข้าสู่ช่วงการรายงานผลการดำเนินงาน ประเมินตลาดหุ้นไทยอาจผันผวนในช่วงใกล้การเลือกตั้งสหรัฐฯ แนะให้เน้นลงทุนกลุ่มที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานดีในช่วงที่ราคาหุ้นปรับฐาน
อาทิ กลุ่มท่องเที่ยว, ค้าปลีก ที่คาดจะได้ประโยชน์จากการเข้าสู่ช่วง high season ใน 4Q67 รวมถึงกลุ่มที่คาดจะได้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อาทิกลุ่มการเงิน, โรงไฟฟ้า และ Reits โดนเราคาด กนง. มีโอกาสที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้ง หรือ 0.25% เพื่อใช้การกระตุ้นเศรษฐกิจ
คาดเห็นการแกว่งออกข้างถึงพักฐาน ในระยะสั้นเราประเมินตลาดหุ้นไทย อาจมีการแกว่งออกข้าง ถึงพักฐาน เนื่องจาก
1) ดัชนีปรับขึ้นมาแล้วกว่า 200 นับตั้งแต่จุดต่ำสุดของรอบ (6 ส.ค.) หรือหลังการได้นายกฯ รัฐมนตรีเป็นคุณแพทองธาร ชินวัตร
2) คาดผลประกอบการไตรมาส 3/67 จะอ่อนแอ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ซึ่งมีน้ำหนักในตลาดหุ้นไทยสูง เนื่องจากรายได้ และกำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 จะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงค่อนข้างมาก
3) คาด Catalyst ใหม่ช่วยหนุนในระยะสั้น เรายังคงแนะกลยุทธ์แบบเลือกลงทุนเป็นรายตัวเป็นหลัก
การปรับขึ้นมาในโซน 1,500-1,535 จุด เป็นระดับที่มีความเสี่ยงต่อแรงทำกำไร ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นกว่า 200 จุดในช่วง 2.5 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าดีกว่าที่ตลาดและนักลงทุนส่วนใหญ่คาด อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่จำนวนมากในระดับ 30%-50% ทำให้อาจต้องเริ่มระวังความผันผวนจากแรงทำกำไรที่จะตามมา การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่ยัง Laggards หรือมีปัจจัยผลักดัน
ภาพรวมกลยุทธ์ “กรอบการเก็งกำไรยกขึ้นเป็น 1,460-1,535 จุด เลือกเก็งกำไรรายตัว สะสมหุ้นที่เข้าสู่ช่วง high season อย่างท่องเที่ยว การแพทย์ อาหารสัตว์เลี้ยงเราชอบ AOT, ERW, CENTEL, SPA, VRANDA, BCH, BDMS, ITC //หุ้นได้แประโยชน์ Data center: WHA, INSET, ITEL, MFEC, AIT, ICN, LTS // หุ้นต่ำมูลค่าทางบัญชี FLOYD, IND, BC
แนวรับ: 1,450 / แนวต้าน : 1,486-1,500 จุด
สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
หุ้นแนะนำ (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)
• MTC* (56) : คาดจะได้อานิสงส์เชิงบวกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ตัดขาดทุน 51.00 บาท
• SYNEX* (17.5) : คาดผลการดำเนินงาน 2H67 ปรับดีขึ้น HoH จากผลของสินค้ากลุ่ม IT ที่เข้ามาเพิ่มขึ้น ตัดขาดทุน 15.30 บาท
• IVL* (32) : คาดกำไรสุทธิ 3Q67 จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และมีโอกาสที่นักวิเคราะห์ในตลาดจะปรับกำไรสุทธิ และราคาเป้าหมายขึ้น ตัดขาดทุน 24 บาท
• AU* (10.90) : คาดกำไรสุทธิ 3Q67 เติบโต 38% yoy หนุนจาก SSSG ที่เป็นบวก และการ OEM ขนมปังเนยโสดเข้าสู่ 7-eleven ตัดขาดทุน 9.70 บาท
ประเด็นที่น่าสนใจ
- เฟดเผยแบบจำลอง GDPNow บ่งชี้ GDP สหรัฐ +3.3% ใน Q3/67
- สหรัฐเผยคนป่วยจากเชื้ออีโคไล หลังกินเบอร์เกอร์แมคโดนัลด์เพิ่มเป็น 75 ราย
- ทรัมป์ นำต่อเนื่องใน Swing State แฮร์ริสคะแนนร่วง
- IMF มองมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจจีน ยังไม่สามารถควบคุมความเสี่ยงภาวะเงินฝืดได้
- โพลชี้ชาวอเมริกันกังวลสงครามกลางเมืองหลังเลือกตั้งประธานาธิบดี
- สหรัฐเผยคนป่วยจากเชื้ออีโคไล หลังกินเบอร์เกอร์แมคโดนัลด์เพิ่มเป็น 75 ราย
- ราคาน้ำมัน WTI พุ่งกว่า 1% ทะลุ $71 จับตาสถานการณ์ตะวันออกกลาง
- DELTA ควบรวม 2 บริษัทย่อยในสโลวาเกีย ลดความซับซ้อนของโครงสร้างกลุ่ม
- TOP ย้ำชัดปมแรงงานชุมนุมประท้วงไม่กระทบโครงการ CFP ล่าช้า
- DELTA แนะนำ “ถือ” เป้า 128 บาท/ TRUE แนะนำ “ซื้อ” เป้า 14.50 บาท/ SABINA แนะนำ “ซื้อ” เป้า 28 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
29 ต.ค. – US JOLTs Job Openings (Sep)
30 ต.ค. – EU GDP Growth Rate (3Q67)
31 ต.ค. – JP BoJ Interest Rate Decision